“ต่อให้จะเป็นบทสรุปที่แย่ที่สุดก็เคยคิดไว้หมดแล้ว แต่ว่าฉันก็ได้เตรียมใจเอาไว้ตั้งนานแล้วเหมือนกัน ไม่ว่าการที่พวกเขาทิ้งฉันไปเป็นเพราะสาเหตุอะไร ขอเพียงแค่พวกเขายอมรับกับความผิดพลาดของตัวเอง แล้วกล่าวขอโทษ ฉันก็จะยอมให้อภัย”
“แต่ว่าแม้แต่ความจริงเธอยังไม่ยอมบอกกับฉันเลย!”
ฉินซีพูดพลางตาก็แดงก่ำ ภายในดวงตาทั้งสองเปียกชื้นด้วยน้ำตาที่กำลังคลอเบ้า น่าเห็นใจเป็นอย่างมาก
หยางเฉินแอบถอนหายใจอยู่ภายในใจ นี่ก็คือฉินซี ภรรยาของเขา ผู้หญิงที่มีจิตใจแสนดีคนนี้
ถึงแม้จะเคยคิดไว้นานแล้วว่าการที่พ่อแม่แท้ๆ ทิ้งตัวเธอไป เพราะอาจจะมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องของผลประโยชน์ แต่คนที่จิตใจดีอย่างเธอก็ยัเลือกที่จะให้อภัย
แต่ว่าเย่ม่านกลับไม่มีความกล้าหาญที่จะยอมรับความผิดนั้น !
“ฉันทำผิดอะไรกัน?สวรรค์ถึงได้ลงโทษฉันแบบนี้?”
ในที่สุดฉินซีก็ไม่สามารถที่จะอัดอั้นน้ำตาของตัวเองได้อีกแล้ว พร้อมกับปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมา
หยางเฉินขับรถเข้าไปจอดริมถนนอย่างช้าๆ ก่อนที่จะเอื้อมมือทั้งสองไปดึงตัวฉินซีเข้ามาไว้ในอ้อมกอดด้วยใบหน้าที่จริงจัง: “《คัมภีร์ไบเบิล》ได้กล่าวไว้ว่า: ‘เมื่อพระเจ้าได้ปิดประตูนี้ พระองค์จะทรงเปิดหน้าต่างอีกบานให้กับคุณ’ และผมกับเสี้ยวเสี้ยว ก็คือหน้าต่างอีกบานนั้นที่พระเจ้าได้เปิดให้กับคุณ !”
“ทั้งชีวิตนี้ ผมกับลูกจะไม่มีวันแยกจากกับคุณแน่นอน !”
หยางเฉินพูดด้วยใบหน้าที่ลึกซึ้ง พร้อมกับกล่าวสัญญากับฉินซี
“ที่รัก!”
ฉินซีพูดขึ้นอย่างแผ่วเบา ใบหน้าเต็มไปด้วยความซึ้งใจ จนเธอไม่สามารถที่จะสะกดความรู้สึกของตัวเองได้อีกครั้ง ก่อนนจะหลับตาทั้งสองข้างแล้วเข้าไปจูบเขา
วินาทีนี้ เธอไม่อยากจะทำอะไรอีกแล้ว เธอต้องการเพียงแค่จูบชายคนนี้อย่างดูดดื่มเท่านั้น ผู้ชายคนนี้ที่จะอยู่กับเธอไปตลอดชีวิต!
ในขณะที่ทั้งสองโอบกอดและกำลังดื่มด่ำกับรอบจูบของกันและกัน จิตสังหารอันแรงกล้าก็ปรากฏขึ้นมา
หยางเฉินผลักฉินซีออกอย่างกะทันหัน ใบหน้าเคร่งขรึมขึ้นมาทันที
“ที่รัก มีอะไรหรือเปล่า?”
ดวงตาที่มีน้ำตาคลอเบ้าของฉินซีตอนนี้ได้ปรากกความสงสัยออกมาบนใบหน้าที่แดงระเรื่อ
หยางเฉินไม่ได้ตอบกลับอะไร แต่สายตามองไปยังทิศทางหนึ่งที่อยู่นอกหน้าต่างตามสัญชาตญาณ
ตอนนี้พวกเขามาถึงตีนเขาของยอดเมฆาแล้ว หากมุ่งหน้าไปอีกสักพัก ก็จะถึงเขตพื้นที่ส่วนบุคคลของยอดเมฆา
“คุณขับรถกลับไปก่อนนะ ผมขอจัดการธุระก่อน !”
หยางเฉินพูดด้วเสียงที่หนักแน่น ดวงตาเผยให้เห็นถึงความจริงจัง
นี่เป็นครั้งแรกที่ที่ฉินซีได้เห็น หยางเฉินแสดงสีหน้าแบบนี้ออกมา ภายในใจของเธอจึงเกิดความกังวลเต็มไปหมด
เธอไม่ใช่หญิงสาวที่ฟังไม่รู้ความ ในใจถึงแม้จะมีความเป็นห่วง แต่กฎเข้าใจอย่างชัดเจนว่าการที่ตัวเองดึงดันอยู่ที่นี่ก็มีแต่จะสร้างภาระให้กับหยางเฉินเท่านั้น ดังนั้นเธอจึงพยักหน้าตอบรับ : “ค่ะ!”
หยางเฉินลงจากรถ แล้วมองดูฉินซีขับรถจากไปแล้ว จึงค่อยถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“ออกมาเถอะครับ!”
ดวงตาทั้งสองของหยางเฉินมองไปยังทิศทางหนึ่ง พร้อมกับพูดออกมาอย่างเรียบเฉย
หลังจากที่เสียงของเขาสิ้นสุดลง ภายใต้ความมืดร่างสองร่างก็เดินออกมาอย่างช้าๆ
คนที่เดินอยู่ด้านหน้าเป็นชายวัยกลางคน ทว่าหยางเฉินกลับถูกชายสูงอายุที่อยู่ด้านหลังของชายวัยกลางคนดึงดูดความสนใจไปจนหมด
แม้ว่าแสงไฟจะส่องสลัว แต่หยางเฉินกลับสามารถมองเห็นใบหน้าของชายสูงอายุคนนั้นได้อย่างชัดเจน
นั่นคือใบหน้าที่เย็นชาจนถึงขีดสุด ใบหน้าตอกไร้เนื้อหนัง ซึ่งสามารถบอกได้เลยว่าเป็นคนที่ผอมแห้งหนังติดกระดูก
ใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอบเหี่ยวย่น ราวกับโครงกระดูก
แต่ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญ สิ่งที่สำคัญก็คือจากร่างกายของชายสูงอายุคนนี้ หยางเฉินสามารถรับรู้ถึงแรงกดดันบางอย่าง
ตั้งแต่ที่เขาออกมาจากชายแดนเหนือ นี่ถือเป็นครั้งแรกที่มีความรู้สึกแบบนี้
ซึ่งเขาค่อนข้างมั่นใจมากเลยว่า ต่อให้จะเป็นหนิวเกนหุยคนนั้นที่อยู่อันดับที่เก้าของสมาคมบูโดที่ถูกตัวเขาฆ่าไปนั้น ถ้าต้องอยู่ต่อหน้าชายสูงอายุคนนี้แล้วเขาคนนั้นก็ไม่มีโอกาสที่จะชนะเลยแม้แต่น้อย
“ใจกล้า สมกับเป็นลูกชายของหยูเหวินเกาหยันจริงๆ !”
และในขณะที่หยางเฉินกำลังจ้องมองชายสูงอายุอยู่นั้น ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างหน้าชายสูงวัยก็โพร่งปากพูดขึ้นมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...
รอข้ามปี...