อวี๋เหวินเกาหยางพูดอย่างเย็นชา “เขาน่าจะอายุสามสิบแล้วใช่ไหม? ไม่ควรรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองพูดออกไปเหรอ?”
“ใช่แล้ว คุณลุง คุณมากล่าวหาพ่อของผมแบบนี้ มันออกจะเกินไปหน่อย ลูกชายของคุณต่างหากที่บอกว่าเขาจะแก้ปัญหาของวงศ์ตระกูล เกี่ยวอะไรกับพวกเราล่ะ?”
“แน่นอน ถ้าคุณลุงไม่อยากพลัดพรากจากลูกชายที่เพิ่งได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้งตลอดไป ก็สามารถสละตำแหน่งทายาทได้”
หยูเหวินหวูกล่าวพร้อมกับหัวเราะลั่น
กิจการที่ตระกูลหวงและตระกูลเย่ร่วมมือกันปราบปรามในคราวนี้ ทั้งหมดเขาเป็นคนรับผิดชอบ เขารู้ดีกว่าใครๆ ว่าการแก้ปัญหาครั้งนี้ยากเพียงใด
แม้จะใช้พลังของตระกูล ก็เกรงว่าอาจจะไม่สามารถแก้ปัญหาได้ภายในวันเดียว
แล้วยังเป็นลูกนอกกฎหมายที่เพิ่งกลับมาสู่วงศ์ตระกูลอีก
เขาไม่เชื่อว่าหวังเฉินจะทำได้
อวี๋เหวินเกาหยางก็ไม่เชื่อเช่นกัน
คนอื่นๆ ก็ไม่เชื่อเช่นกัน
“ในเมื่อผมตอบตกลงแล้ว ก็จะไม่คืนคำแน่นอน!”
หวังเฉินยิ้มเยาะแล้วกล่าวว่า “ผมแนะนำให้คุณเตรียมตัวให้เร็วที่สุด เรื่องแต่งตั้งทายาทคนใหม่ อาจจะคลี่คลายได้ก่อนคืนนี้เสียอีก”
พูดจบ เขาก็ยืนขึ้นแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “เอาล่ะ ถึงเวลาแล้วที่ผมจะไปแก้ปัญหาใหญ่ที่พวกคุณทุกคนไม่สามารถช่วยกันแก้ปัญหาได้ ไม่อยู่เป็นเพื่อนแล้วนะ!”
ภายใต้สายตาที่จับจ้องจากผู้คน หวังเฉินออกไปจากที่นี่ทันที
สีหน้าของอวี๋เหวินเกาเจิ้นก็ชะงักไปทันที คนอื่นๆ ก็มองมาที่เขาด้วยรอยยิ้มเช่นกัน
“พวกเราประชุมกันต่อเถอะ!”
อวี๋เหวินเกาหยางชำเลืองมองอวี๋เหวินเกาเจิ้นอยางเฉยชา แล้วพูดว่า “มาหารือกันต่อว่าจะเผชิญหน้ากับวิกฤตของตระกูลอวี๋เหวินยังไง”
คราวนี้ อวี๋เหวินเกาเจิ้นไม่ได้พูดอะไรเพื่อขัดขวางอีก
การกระทำของหวังเฉินได้ก่อกวนแผนการของเขาให้ยุ่งเหยิงอย่างสิ้นเชิง
เดิมทีเขาวางแผนที่จะใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ เพื่อทำให้หวังเฉินขึ้นเป็นทายาท เมื่อมีการสนับสนุนของเขา แค่เพียงรักษาตำแหน่งทายาทของหวังเฉินให้มั่นคงก็เพียงพอแล้ว
ต้องมีวันหนึ่งที่หวังเฉินจะกลายเป็นทายาทที่แท้จริง คอยดูแลตระกูลอวี๋เหวินในอนาคต
แต่สิ่งที่หวังเฉินเพิ่งทำลงไป ทำให้เขาผิดหวังอย่างสิ้นเชิง
ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกเสียใจที่พาหวังเฉินมาที่ตระกูลอวี๋เหวิน
แต่ตอนนี้ภรรยาและลูกชายของเขาถูกลอบสังหาร เขาเหลือหวังเฉินเป็นลูกชายเพียงคนเดียว
หากภารกิจครั้งนี้ไม่สำเร็จ พวกเขาสองพ่อลูกจะต้องแยกจากกันอย่างสมบูรณ์
ถึงอย่างไรผลที่ตามมาจากความล้มเหลวของหวังเฉิน คือการออกจากเมืองเยี่ยนตูไปตลอดกาล
ในอีกด้านหนึ่ง หลังจากที่หวังเฉินออกจากตระกูลอวี๋เหวินแล้ว เขาก็โทรศัพท์ออกไป “หยางเฉิน ทุกอย่างพร้อมแล้ว ตอนนี้ผมกำลังรอให้คุณช่วยผมแก้ปัญหาของตระกูลอวี๋เหวิน ผมก็จะได้ขึ้นเป็นทายาทของตระกูลอวี๋เหวินแล้ว”
เมื่อหยางเฉินได้รับโทรศัพท์จากหวังเฉิน เขาก็แปลกใจเล็กน้อย “ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“คุณช่วยผมมามากแล้ว ถ้าผมไม่สามารถเป็นทายาทได้ ก็เท่ากับว่าผมจะเป็นคนขี้แพ้ใช่ไหม?”
ฟังออกได้ว่า หวังเฉินมีความภูมิใจมาก
หยางเฉินส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ เดิมทีเขาคิดว่า มันต้องใช้ความพยายามบ้างในการทำให้หวังเฉินมาแทนที่หยูเหวินหวูได้ แต่คิดไม่ถึงว่ามันจะสำเร็จได้ง่ายดายขนาดนี้
“ดี คุณรอรับสายจากผมแล้วกัน!”
หยางเฉินพูดจบก็วางสายลง แล้วโทรออกไปอีกสองสาย
สายแรกโทรหาหวงเทียนเชิง อีกสายโทรหาเย่ม่าน
ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่า วิกฤตครั้งใหญ่ของตระกูลอวี๋เหวินที่กำลังเผชิญอยู่ จะคลี่คลายได้ด้วยโทรศัพท์สองสายของหยางเฉิน
ในเวลานี้ การประชุมของตระกูลอวี๋เหวินยังคงดำเนินต่อไป อวี๋เหวินเกาเจิ้นไม่รู้เนื้อหาของการประชุมเลย ในสมองของเขาเต็มไปด้วยเรื่องไร้สาระ
ในเวลานี้ อวี๋เหวินเกาหยางก็ประกาศขึ้นอย่างกะทันหันว่า “เอาล่ะ ทำตามข้อตกลงของผม ทุกคนทำหน้าที่ของตนเอง เตรียมพร้อมรอฟังคำสั่งของผม”
“ครับ!”
คนของตระกูลอวี๋เหวินพากันตอบกลับ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...
รอข้ามปี...