ตอน บทที่ 507 ชี้แจงมาให้ชัดเจน จาก The king of War – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 507 ชี้แจงมาให้ชัดเจน คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต The king of War ที่เขียนโดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
พอได้ยินดังนั้น สีหน้าของรปภ.ทั้งสองเปลี่ยนไปอย่างแรง เมื่อครู่ด้วยเพราะเห็นเขาสองคนลงจากรถหรูไมบัคราคาแพงไม่เบา จึงได้มีท่าทีนอบน้อม
ตอนนี้พอได้ยินหม่าชาวพูด เป็นที่ชัดแจ้งว่าไม่มีบัตรเชิญ รปภ.ทั้งสองขมวดคิ้วย่น ท่าทางเปลี่ยนไปมากอย่างเห็นชัด แค่นเสียงหัวเราะพูดว่า “ไร้สาระ บ้านตระกูลเย่เป็นสถานที่อะไร ไม่ได้รับบัตรเชิญ จะนึกเข้าไปตามสบายได้ไง?”
ในขณะนั้น ก็มีหนุ่มสาวแต่งตัวหรูหราเดินเข้ามาอีกหลายคน ทุกคนล้วนแสดงบัตรเชิญให้ดู
หยางเฉินจึงได้รู้ว่า การจะเข้าไปในบ้านตระกูลเย่ จำเป็นต้องมีบัตรเชิญจริง ๆ
“คุณเย่หวูซวงของตระกูลเย่ได้ไปเชิญท่านประธานบริษัทเยี่ยนเฉินกรุ๊ปของเราด้วยตัวเอง พวกแกกล้าดีมาขวางไม่ให้เราเข้า ไม่กลัวว่าถ้ารู้ไปถึงเย่หวูซวง แล้วยังจะปล่อยพวกแกไว้หรือ?”
หม่าชาวย้อนถามเสียงเยือก
หยางเฉินไม่พูดอะไร แต่ให้รู้สึกได้กลิ่นเล่ห์อุบายบางอย่าง
ก่อนหน้านี้เย่หวูซวงได้ไปหาตัวเขาที่เยี่ยนเฉินกรุ๊ปด้วยตัวเอง ตอนที่เขาบอกว่าเจ้าของบ้านตระกูลเย่สั่งให้มาเชิญตัวเขานั้น หยางเฉินก็ให้รู้สึกประหลาดใจอยู่
ตอนนั้นก็ไม่เห็นทีท่าว่าเย่หวูซวงจะมีการพูดเท็จ
แต่หากถ้าว่าไม่ใช่เป็นการแสแสร้งหลอกลวง แล้วทำไมจึงไม่ได้มีบัตรเชิญให้เขา?มาตอนนี้ต้องถูกกั้นห้ามเข้าอยู่หน้าประตูบ้านตระกูลเย่
“พวกคุณพูดเรื่องตลกอะไรกันเหรอ?”
ได้ยินที่หม่าชาวบอกว่าเย่หวูซวงเป็นคนไปเชิญพวกเขามา สองรปภ.มองหน้าสบตากัน ทั้งคู่ต่างแสดงให้เห็นอาการเย้ยเยาะออกมาทางสายตา หนึ่งในสองคนนั้นพูดด้วยหัวเราะเสียงเย้ย ๆ ไปว่า “คุณซวงมีระดับขนาดไหนแล้ว เขาเป็นถึงผู้สืบสกุลรุ่นที่สามที่ถูกกำหนดตัวไว้ของตระกูลเย่ เป็นไปได้ยังไงที่เขาจะไปเชิญพวกคุณด้วยตัวเอง?”
บริเวณโดยรอบก็คนหนุ่มสาวอีกจำนวนมากที่เพิ่งเข้ามา ตอนนี้ในแต่ละคนต่างมีสีหน้าเย้ยหยัน นินทากันซุบซิบ
“หาญกล้าขนาดแอบอ้างเป็นแขกของคุณซวง คงจะเป็นไอ้หน้าโง่ที่ไม่รู้จักตายสองคนนี้”
“คุณซวงเป็นถึงทายาทที่ถูกกำหนดไว้แล้ว ไอ้หน้าละอ่อนสองคนนี้ กล้าดียังไงมาอ้างเองว่าเป็นแขกสูงศักดิ์ที่คุณซวงเชิญมา?”
“เท่าที่มองนะ เจ้าสองคนนี้ น่าจะเป็นพวกรวยฟลุ๊คขึ้นมาเป็นแน่ คิดว่าตัวเองมีเงินได้อยู่หน่อยก็อ้างตัวเป็นเพื่อนคุณซวงซะงั้น”
ช่วงขณะนี้เป็นเวลาที่แขกที่ได้รับเชิญทยอยกันเข้ามา บรรดาหนุ่ม ๆ สาว ๆ หลายคน มองหยางเฉินกับหม่าชาว ต่างพูดกระแนะกระแหนกันไม่ขาดปาก
หม่าชาวมีอารมณ์โกรธอยู่ไม่เบา หากว่าไม่ใช่หยางเฉินคอยเหนี่ยวรั้งไว้ เขาหรือจะพูดอะไรให้ไร้สาระมากมาย ป่านนี้คงลงมือลงไม้ไปแล้วเป็นแน่แท้
“คุณหยาง!”
และในเวลานั้นเอง พลันมีเสียงเต็มไปด้วยความดีใจ ดังขึ้นมาจากด้านหลังของหยางเฉิน
และที่เห็นเป็นหญิงสาวสวยแต่งตัวเฉิดฉายบาดตาเดินเข้ามา พอในขณะที่ได้มองเห็นหยางเฉิน บนใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ “คุณหยาง เป็นท่านจริง ๆ ด้วย!”
“สวัสดี คุณเย่!”
หยางเฉินมองเห็นหญิงสาว รอยยิ้มที่เมตตาผุดขึ้นที่มุมปาก
ผู้หญิงคนนี้ ตอนนั้นได้ไปเจียงโจวกับเย่ม่าน เขาก็เคยได้เจอกัน
ดูเหมือนจะชื่อเย่เสี่ยวเตี๋ย
พวกบรรดาแขกเหรื่อที่เย้ยเยาะหยางเฉินเมื่อครู่นี้ พอเห็นเย่เสี่ยวเตี๋ยปรากฏตัวมา ต่างรีบเก็บเอาแววตาที่ใช้เหยียดหยามคนนั้นขึ้นทันที
รปภ.สองคนที่หน้าประตู ก็มีสีหน้าที่ตื่นตระหนก ไม่คิดว่าหยางเฉินจะรู้จักกับเย่เสี่ยวเตี๋ย
“ตาหมา ๆ ของพวกแกบอดหรือยังไง?คุณหยางเป็นแขกที่คุณปู่เจาะจงชื่อด้วยตัวเอง ให้เชิญมาเป็นแขกสูงเกียรติในงานฉลองวันแซยิดของท่าน พวกแกกลับกล้ามาสกัดห้าม”
ใบหน้าเนียนละไมของเย่เสี่ยวเตี๋ย เต็มไปด้วยความโกรธ
ก่อนหน้านี้ตอนที่จากกันที่เจียงโจว ใจของหล่อนเฝ้าใฝ่ฝันคิดถึงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อตอนรู้ว่าหยางเฉินแต่งงานแล้ว หล่อนก็ยิ่งเศร้าระทมอย่างสุดแสน
ปีก่อนหน้านี้หล่อนถูกโจรสลัดจับตัวไป ในขณะที่กำลังจะถูกข่มเหง หยางเฉินกับเหล่าทหาร ดั่งกองทัพลงมาจากสวรรค์ เข้าช่วยหล่อนได้ทันพอดี
มาจนกระทั่งถึงเวลานี้ แต่ละฉากที่เกิดขึ้นในวันนั้น ยังเป็นภาพชัดแจ๋วที่คงยังประทับในสมองของตัวเองอยู่
“คุณเย่ครับ พวกผมก็เพียงต้องปฏิบัติตามระบบขั้นตอน หากไม่มีบัตรเชิญ จะเข้าไปในบ้านตระกูลเย่ไม่ได้อย่างเด็ดขาด ขอคุณเย่ได้โปรดเข้าใจพวกเราด้วยครับ”
สองรปภ.ตอนแรกก็ตกตะลึง แต่เพียงชั่วครู่เดียว ก็สงบความรู้สึกลง พูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย
สายตาของหยางเฉินจ้องอยู่ที่เย่หวูซวงตลอด คิดจะมองหาดูว่าจะมีอะไรให้เห็นได้บ้างจากในตัวของเจ้าเด็กหนุ่มคนนี้
แต่ทว่า เขามองไม่ได้เห็นอะไรออกมาเลย
ไม่ก็เพราะเย่หวูซวงเก็บซ่อนความรู้สึกได้เก่งมาก หรือไม่ก็เย่หวูซวงไม่ได้คิดตั้งใจจะลืมเอาบัตรเชิญให้หยางเฉินจริง ๆ
“คุณหยางครับ ต้องขออภัยเป็นอย่างมาก ที่ผมมาช้าไปหน่อย!”
เย่หวูซวงเดินเข้ามาถึงข้างหน้าหยางเฉิน อากัปรกิริยาวางไว้อย่างถ่อมตน บนใบหน้าพาเต็มมาด้วยความรู้สึกเสียใจ
หลังจากพูดจบ เขาก็หันกลับมองไปที่รปภ.สองคนนั้น ตวาดใส่ว่า “พวกแกนี่กล้าดีเป็นหมาบ้ากันเลยนะ แม้กระทั่งแขกสูงเกียรติของท่านปู่ พวกแกยังกล้ากั้นขวาง!”
ได้ยินดังนั้น สีหน้าของสองรปภ.เปลี่ยนวูบ รีบทรุดตัวคุกเข่าลงกับพื้น พูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวว่า “คุณซวงครับ พวกเราไม่ทราบจริง ๆ ครับว่าเป็นแขกสูงเกียรติของท่านเจ้าบ้าน ไม่เช่นนั้นต่อให้พวกผมมีความกล้าอีกสิบเท่า ก็ไม่มีทางกล้าเสียมารยาทกับท่านหยางหรอกครับ!”
“ไปคิดบัญชีที่ฝ่ายบัญชีตระกูลเย่เดี๋ยวนี้เลย แล้วไสหัวออกไปให้พ้นเยี่ยนตู ถ้าให้ข้ารู้ว่าพวกแกยังกล้าอยู่ในเยี่ยนตู ก็อย่ามาหาว่าข้าไม่เกรงใจนะ”
แววตาของเย่หวูซวงสาดส่องจิตวิญญาณฆ่า
สองรปภ.เพียงได้ยินเสียงพูด ใบหน้าเต็มด้วยความกลัวสุดขีด ไหนเลยจะกล้ารีรอ ทั้งกลิ้งทั้งคลานวิ่งหนีออกไป
“หยุด!”
หม่าชาวตวาดออกไปในฉับพลันนั้น ตามด้วยการจ้องไปที่สองรปภ.นั้นสั่งว่า “ชี้แจงให้ชัดเจนก่อนแล้วค่อยไป ไม่งั้นข้าจะส่งพวกแกไปในที่ชอบเอง”
“ปัง!”
พุดไม่ทันได้ขาดคำ หม่าชาวกระทืบตีนลงไป เสียงลั่นดังสนั่น
ภายใต้ความตื่นตระหนกตกสะท้าน แผ่นพื้นแกรนิตเขียวดี ๆ พริบตานั้นแตกกระจุย
เย่หวูซวงที่อยู่ข้าง ๆ เนื้อตรงใบหน้าออกอาการกระตุก ลึกเข้าไปในลูกตา ฉายประกายแวววับมาแวบหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
เขียนยืดเยื้อฉิบหาย.. อ่านแล้วหงุดหงิด...
ยืดเยื้อมากอ่นแล้วโครตเสียอารมณ์แค่บอกว่าเป็นใครแค่เนี้ย แม่งยืดซะจนไร้รสชาติเลย เสียเวลา ่านฉิบหาย...
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...