The king of War นิยาย บท 51

ยกขึ้นสูงเท่าไหร่ ตกลงมาก็ยิ่งอนาถ ที่พูดก็คือคนประเภทหวังเมิ่ง

"ฉันเห็นผู้หญิงคนนี้แล้วไม่สบอารมณ์มานานแล้ว เวลาปกติจองหองอย่างมาก ตอนนี้กลับดีนัก ถูกทางตำรวจจับไปแล้ว! "

"คิดไม่ถึงว่าเธอยังทุจริตรับสินบน เป็นความอับอายของซานเหอกรุ๊ปจริงๆ เลย"

"ยังอยากจะเชิญไปเลี้ยงอาหาร ใครสนกันล่ะ? "

เหล่าเพื่อนร่วมงานที่ตอนแรกยังยกย่องประจบเธอ ในเวลานี้ล้วนเหมือนกับหลบเทพเจ้าแห่งโรคระบาด โดยเฉพาะตอนที่เธอถูกตำรวจพาตัวไปแล้ว ก็ยิ่งด่าทอเธอไม่หยุด

ข่าวที่ฉินซีขึ้นรับตำแหน่งผู้จัดการของซานเหอกรุ๊ปแพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว เวลานั้นก็แพร่ไปทั้งเจียงโจว

ช่วงเวลาก่อนหน้านี้ บุคคลลึกลับได้จัดงานเลี้ยงที่โรงแรมสตาร์ไลท์เชิญมหาเศรษฐียักษ์ใหญ่ทุกคนของเจียงโจว เรื่องแรกในสามเรื่องที่กล่าว ก็คือความร่วมมือของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปและซานเหอกรุ๊ป

ตอนนั้นในงานเลี้ยง ก็มีมหาเศรษฐีมากมายเสนอตัวเอ่ยออกมาว่าอยากจะร่วมมือกับซานเหอกรุ๊ป ตอนนี้ความโดดเด่นของซานเหอกรุ๊ป ถึงขั้นแซงหน้าเยี่ยนเฉินกรุ๊ปไปแล้ว

ตระกูลฉินในฐานะเจ้าของเก่า แน่นอนว่าในตอนแรกที่ได้รับข่าวนี้ ทั้งตระกูลต่างก็ตกตะลึง

นับตั้งแต่ซานเหอกรุ๊ปแยกจากตระกูลฉินไป มูลค่าตลาดของบริษัทก็เพิ่มขึ้นมามากกว่าสิบเท่านานแล้ว ตอนนี้ฉินซียังเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการอีก แค่คิดก็รู้แล้ว ว่าคนตระกูลฉันไม่ยินยอมเพียงใด

"ฉินซีหญิงแพศยาคนนี้ ถึงกับนั่งตำแหน่งผู้จัดการได้ นี่จะเป็นไปได้ยังไง? "

"ไม่แน่ว่าเป็นการใช้ความสวยล่อลวง ถึงได้ก้าวขึ้นฟ้าในก้าวเดียว"

"มิน่าไม่กี่วันก่อนมาที่ฉินซื่อกรุ๊ป ถึงได้จองหองเช่นนั้น"

ในคฤหาสน์ตระกูลฉิน คนกลุ่มใหญ่นั่งอยู่ในห้องประชุมของตระกูล รอคอยการปรากฏตัวของนายท่านฉิน

ฉินเฟยที่คอแขวนผ้าก๊อซสีขาวไว้เส้นหนึ่ง เอาแขนที่เข้าเฝือกไว้แขวนขึ้นมา ในตอนนี้เขาไม่พูดจาแม้แต่คำเดียว สองตาแดงก่ำจ้องมองแขนของตัวเอง

ในตอนนี้ นายท่านฉินภายใต้การประคองของฟางเยว่ มาถึงห้องประชุมแล้ว ทุกคนพากันลุกขึ้นทักทาย

หลังจากนายท่านฉินนั่งอย่างมั่นคงแล้ว สายตากวาดมองทุกคน เปิดปากว่า "ก็เป็นเมื่อครู่นี้ ที่ซานเหอกรุ๊ปแต่งตั้งให้ฉินซีเป็นผู้จัดการ พวกนายทุกคนคงรู้แล้วสินะ? "

ทุกคนพากันพยักหน้า

"เสี่ยวเฟย นายมีอะไรจะพูด? " นายท่านฉินพลันหันไปมองทางฉินเฟยที่กำลังก้มหน้าไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่

ตอนที่ฉินเฟยเงยหน้าขึ้น ใบหน้าดุร้ายก็หายไปแล้ว มองไปทางนายท่านฉินเอ่ยว่า "คุณปู่ หลังจากซานเหอกรุ๊ปแบ่งแยกออกไปจากตระกูลฉิน พนักงานทั้งหมดที่มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลฉิน ทั้งหมดถูกไล่ออก แต่ฉินซีกลับได้เข้าบริษัทอย่างราบรื่น ตอนนี้ก็เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการอีก มีเพียงความเป็นไปได้สองอย่าง"

"พูดต่อไป! " นายท่านฉินพยักหน้า

"อย่างแรก เป็นเพราะความสามารถของฉินซี อย่างที่สอง เป็นเพราะความงามของฉินซี"

ฉินเฟยสายตาจับจ้องที่นายท่านฉิน สีหน้าจริงจังวิเคราะห์ตอบ "แต่ว่าผมเอนเอียงไปที่ความเป็นไปได้อย่างที่สอง จากที่ผมเข้าใจ หลังจากที่ฉินซีเข้าทำงาน ก็ถูกหัวหน้าแผนกกดขี่มาตลอด ได้ยินว่าในวันนี้ก่อนการแต่งตั้ง หัวหน้าแผนกยังตบเธอไปฝ่ามือหนึ่ง ทำไมจู่ๆ ถึงได้แต่งตั้งให้เธอเป็นผู้จัดการกะทันหันแล้วล่ะ? "

"ตอนนั้นที่เธอยังอยู่ตระกูลฉิน ประธานลั่วแห่งเยี่ยนเฉินกรุ๊ปก็เคยมามอบสัญญาร่วมมือด้วยตัวเอง ยังพูดอีกว่าเพราะถูกความจริงใจของฉินซีทำให้หวั่นไหว นี่จะเป็นไปได้ยังไง? หลังจากนั้นคุณปู่เพิ่งจะเอาการจัดการเรื่องสัญญาร่วมมือมอบให้ผม อีกฝ่ายก็ฟ้องร้องว่าพวกเราละเมิดสัญญา ใครจะว่างไม่มีอะไรทำ จนมาเพิ่มเนื้อหากำหนดผู้รับผิดชอบในสัญญา? "

"ถ้าเกิดว่าผมเดาไม่ผิด ตอนนั้นคนใหญ่คนโตเบื้องหลังของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปก็เคยมาหาฉินซีแล้ว แต่เธอไม่ยินยอมตกลงรับข้อเสนอของอีกฝ่าย ภายใต้ความโกรธของอีกฝ่าย ก็ฟ้องร้องว่าพวกเราละเมิดสัญญา บีบบังคับให้พวกเราขายซานเหอกรุ๊ปให้ไป"

"แต่ว่าหนึ่งเดือนก่อนหน้านี้ ในงานเลี้ยงอาหารค่ำที่โรงแรมสตาร์ไลท์ ข่าวแรกก็คือการร่วมมือของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปและซานเหอกรุ๊ป พูดมาถึงตรงนี้ ผมคิดว่าคุณปู่คงเข้าใจแล้วสินะ? "

นายท่านฉินดวงตามีประกายแสงวาบขึ้น เขาไม่อาจไม่ยอมรับ ความฉลาดของหลานชายคนนี้ของตนเอง เรื่องเหล่านี้ที่วิเคราะห์ สามารถสอดคล้องกับความเป็นจริงได้อย่างสมบูรณ์

"ฉันเข้าใจแล้ว! หลังจากฉินซีเข้าทำงาน สาเหตุที่ถูกกดขี่ ล้วนเป็นความต้องการของหัวหน้าระดับสูง ฉินซีทนรับการใช้อำนาจบีบบังคับไม่ไหว ดังนั้นจึงไปหาคนใหญ่คนโตเบื้องหลังเยี่ยนเฉินกรุ๊ปด้วยตัวเองเพื่อประนีประนอม ด้วยกำลังของคนเบื้องหลังเยี่ยนเฉินกรุ๊ปคนนั้น คิดจะให้ฉินซีเป็นผู้จัดการของซานเหอกรุ๊ป ไม่ใช่เรื่องที่จัดการได้อย่างง่ายดายหรือ? " ตอนนี้ฟางเยว่สีหน้ากระจ่างในฉับพลัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War