หยางเฉินหัวเราะเสียงเย้ย “ก็แล้วถ้าผมจะบอกว่า พวกนี้มันพวกกะเลวกะลาด ไม่มีปัญญาฆ่าผมได้หละ?”
“แกมันรนหาที่ตาย!”
เย่ชังคำรามด้วยความโกรธ
พวกมือปืนที่ล้อมหยางเฉินกับหม่าชาวอยู่รอบ ๆ แต่ละคนต่างเกรี้ยวกราดกันขึ้นหน้า ถูกหยางเฉินพูดหยามขนาดนี้ มีหรือจะพอใจได้
การได้รับคัดเลือกเข้ามาเป็นมือปืนของตระกูลเย่ บ่งบอกได้ว่าทักษะการใช้ปืนต้องมีความแม่นอย่างที่สุด
“เอาเหอะ เรื่องไร้สาระไม่ต้องพูดมาก จะยิงก็ยิงเลย ไม่ยิง ก็บอกให้คนของคุณออกไปให้พ้นสายตาของผม ผมไม่มีเวลามาเสียให้สิ้นเปลือง”
หยางเฉินพูดไป สายตาที่มองเย่ชัง เต็มไปด้วยความดูแคลน
“ในเมื่อแกอยากตาย ข้าก็จะเสริมส่งให้!”
เย่ชังอายจนโกรธจัดขึ้นมาเฉียบพลัน ระดับทายาทตระกูลเย่ คนที่กำลังจะรับสืบทอดเป็นหัวหน้าควบคุมดูแลตระกูลเย่ ถูกสบประมาทขนาดนี้
สายตาหยางเฉินฉายประกายฆ่า ก็เตรียมจะลงมือ
“เย่ชัง แกยังไม่ได้รับตำแหน่งสืบทอดเป็นหัวหน้าตระกูล ก็เร่งรัดเอาอำนาจของหัวหน้าตระกูลมาใช้แล้วหรือ?”
ในเวลาขณะนั้นเอง เสียงเย็นชากระแสหนึ่ง ดังขึ้นมาอย่างฉับพลัน
ที่ผ่านมาเมื่อครู่นี้ ความสนใจของคนทั้งหมดใส่ไปอยู่ที่หยางเฉินกับเย่ชัง ไม่มีใครทันได้เห็น เย่ม่านกำลังประคองพาร่างผู้ชราเฒ่าท่านหนึ่งเข้ามาในโถงงานจัดเลี้ยง
“หัวหน้าตระกูลเย่ เย่จี้จง!”
มีเสียงคนอุทานด้วยความตกใจ เพราะจำร่างผู้ที่เย่ม่านประคองมานั้นได้
สายตาของหยางเฉินก็ได้มองไปที่เย่จี้จง เห็นเส้นผมขาวเต็มของเขา อยู่ในชุดงานมงคลสไตล์จีนสีแดง ในมือถือไม้เท้าสลักเสลางามประณีต
แม้จะอยู่ในวัยแปดสิบ แต่คงยังเปล่งรัศมีบารมีที่ดูน่าเกรงขามของคนใหญ่
“คุณพ่อ!”
เย่ชังลนลานเข้าไปหา มองไปเย่จี้จง ใบหน้าเต็มด้วยความยำเกรง
เย่หวูซวงก็รีบถลันเข้าไปหา ขานเรียกด้วยความเคารพอย่างสูง “ท่านปู่!”
เย่จี้จงเข้านั่งเก้าอี้ประธานใหญ่ สีหน้าไร้อารมณ์แสดงออก
มองไปที่เย่ชัง เสียงจากความเย็นเยือก ดังขึ้นมาในพลัน “แกยังไม่ทันได้รับโอนอำนาจตำแหน่งหัวหน้าตระกูล ก็จะใช้อำนาจของหัวหน้าตระกูลแล้วหรือ?”
ได้ยินดังนั้น เย่ชังหน้าเซ่อ ตามทันทีด้วยเสียง “ผลุบ” สองเข่าทรุดคุกลงอย่างแรง พูดเสียงหวั่นหวาดไม่สบายใจว่า “ท่านพ่อ ผมมิกล้า!”
“ถ้างั้นข้าจะถามเจ้า กฎบัญญัติข้อที่หนึ่ง คืออะไร?” เย่จี้จงถามด้วยสีหน้าเต็มบารมี
“คนในตระกูล จะเข่นฆ่ากันไม่ได้ นอกเสียแต่ บุคคลในตระกูลนั้นมีโทษถึงขนาดฟ้าดินไม่ยอมอภัย แต่ก็ยังต้องให้อยู่ในอำนาจหัวหน้าตระกูลในการตัดสินจะให้มีชีวิตอยู่ได้หรือไม่!”
เย่ชังรีบท่องบทที่หนึ่งในกฏข้อบัญญัติออกมา
“งั้นบอกข้ามา ตอนนี้กำลังทำอะไร?” เย่จี้จงถามเสียงเย็นชา
“ผม......”
เย่ชังหน้าซีดเผือดลงไปพลัน
เย่จี้จงให้เขาท่องบทบัญญัติที่หนึ่งก่อน แล้วถามว่าทำอะไรอยู่ตอนนี้
ในความหมาย ไม่จำต้องพูดก็เข้าใจได้
หยางเฉินเป็นสามีของลูกสาวนอกสมรสของเย่ม่าน นั่นก็คงพูดได้ว่า หยางเฉินเป็นหลานเขยตาไม่ใช่หรือ?
หลานเขยของคุณตา จะว่าไม่ใช่คนตระกูลเย่ได้หรือ?
“ข้าจะถามเจ้าหน่อย หยางเฉินได้ไปทำอะไรถึงขนาดฟ้าดินไม่ยอมอภัย?”
เย่จี้จงถามต่ออีก
“ไม่มีครับ!”
เย่ชังก้มหน้า ตอบเสียงทุ้มงึมงำ
“ข้าจะถามแกอีกครั้ง หยางเฉินเป็นอะไรกับข้า?”
เย่จี้จงจี้ถามอีก
“เขาเป็นหลานเขยในหลานตาของท่าน!”
เย่ชังขานตอบรับต่อ ให้รู้สึกเหงื่อเย็นวาบซึมซับแผ่นหลัง
“ปัง!”
เย่จี้จงตบโต๊ะด้วยฝ่ามือดังสนั่นลั่นในทันใด ถ้วยชาจานรองลายครามโบราณล้ำค่า กระเด็นตกลงพื้นในทันที แตกกระจุยกระจายทั่ว
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ แกยังกล้าจะฆ่าเขาหรือ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...
รอข้ามปี...