แต่เขาจะทำแบบนั้นไม่ได้ ถึงเขาจะเกลียดอวี๋เหวินเกาหยาง เกลียดตระกูลอวี๋เหวิน แต่ก่อนที่แม่เขาจะเสีย ก็เคยบังคับให้เขาสาบานว่าชีวิตนี้จะไม่ไปหาอวี๋เหวินเกาหยางหรือตระกูลอวี๋เหวินเพื่อแก้แค้นเด็ดขาด
เขายังคงจำได้ ก่อนที่แม่ของเขาจะสิ้นใจ เธอได้กำมือของเขาไว้แน่นๆ และพูดทั้งน้ำตาว่า “เฉิน ถือว่าแม่ขอร้องล่ะนะไม่ว่าอนาคตจะเป็นยังไง ลูกก็ห้ามไปแก้แค้นกับเขาเด็ดขาด ไม่ว่ายังไง เขาก็คือคนที่ให้ชีวิตกับลูกมา”
“แม่สามารถเกลียดเขาได้ เกลียดในความโหดเหี้ยมและไร้เยื่อใยของเขา เกลียดเขาที่ยอมละทิ้งเราสองแม่ลูกเพื่อตำแหน่งผู้นำตระกูล ลูกเองก็สามารถเกลียดเขาได้ แต่ห้ามไปแก้แค้นเขา เพราะเขาคือพ่อของลูก การที่ลูกไปแก้แค้นเขา มันก็ถือเป็นสิ่งที่ผิดศีลธรรมมาก!”
“แม่ต้องการให้ลูกสาบานต่อหน้าแม่ สาบานว่าชีวิตนี้จะไม่ไปแก้แค้นอวี๋เหวินเกาหยางเด็ดขาด!”
ถึงเวลาจะผ่านไปตั้งหลายปี แต่คำพูดของผู้เป็นแม่ก็ยังฝังลึกอยู่ในใจไม่จางหาย
ด้วยเหตุนี้ ถึงเขาจะมีกำลังมากพอที่จะทำลายตระกูลอวี๋เหวินลงได้ แต่เขาก็ยังไม่ได้แก้แค้นกับตระกูลอวี๋เหวินสักที
“หยางเฉิน นี่แกฟังอยู่รึเปล่า? ฉันผิดไปแล้วจริงๆ ตอนนั้นฉันไม่ควรไล่แกกับแม่ออกจากตระกูลเลยจริงๆ ถ้าแกยอมให้โอกาสฉันอีกสักครั้ง ฉันก็ไม่มีทางทำแบบนั้นเด็ดขาด ฉันผิดไปแล้ว ฉันสำนึกผิดแล้วจริงๆ แกอย่าฆ่าอวี๋เหวินปิงเลยนะ ฉันขอร้องล่ะ!”
น้ำเสียงของอวี๋เหวินเกาหยางสะอื้นจนแทบจะร้องไห้ออกมาแล้ว
อวี๋เหวินปิงที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าหยางเฉิน ก็กำลังทำหน้าไม่อยากจะเชื่อ เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่า เพื่อเขาแล้ว อวี๋เหวินเกาหยางจะยอมทำตัวสงบเสงี่ยม จนถึงขั้นขอร้องอ้อนวอนแบบนี้
หยางเฉินหายใจเข้าลึกๆ แล้วแววตาก็ดูขัดขืนและเจ็บปวดขึ้นมา
การกระทำทุกอย่างที่อวี๋เหวินปิงทำไปในวันนี้ มันได้แตะต้องจุดเดือดของเขาเข้าแล้ว มีเพียงความตายเท่านั้น ถึงจะสามารถล้มล้างความแค้นในใจของเขาได้
“หยางเฉิน ตั้งแต่เล็กจนโต ฉันยังไม่เคยเห็นพ่อของเราขอร้องให้ใครมาก่อนเลย ฉันรู้ว่าแกโกรธแค้นเรื่องเมื่อหลายปีก่อนมาก แต่ไม่ว่ายังไง พ่อก็ยังเป็นพ่ออยู่ดี พี่น้องก็ยังคงเป็นพี่น้อง ความผูกพันทางสายเลือดที่เรามี ต่อให้ตายไปก็ยังตัดมันไม่ขาดอยู่ดี”
“หรือแกจะสามารถทนดูพ่อของเราทำตัวต้อยต่ำเพื่อขอร้องแกรึไง?”
อวี๋เหวินปิงพูดพร้อมกัดฟันแน่น
สีหน้าของหยางเฉินมีแต่ความเจ็บปวด ทางหนึ่งก็อวี๋เหวินปิงที่จ้องที่จะฆ่าตัวเอง ส่วนอีกทางก็เป็นอวี๋เหวินเกาหยางที่กำลังขอร้องตัวเองอย่างไม่ยอมหยุด
ตอนแรกเขาก็คิดว่าตัวเองจะสามารถใจแข็งโดยการฆ่าอวี๋เหวินปิงอย่างไม่ลังเลแม้แต่นิดเดียว แต่พออวี๋เหวินเกาหยางมาขอร้องตัวเองแบบนี้ เขาถึงได้รู้ตัวว่า ตัวเองนั้นไม่ได้ใจแข็งขนาดนั้น
คำพูดก่อนตายของแม่ มันวนเวียนอยู่ในหัวครั้งแล้วครั้งเล่า บอกว่าห้ามเขาไปแก้แค้นตระกูลอวี๋เหวินเด็ดขาด แล้วถ้าเขาฆ่าอวี๋เหวินปิงไปล่ะ มันจะถือเป็นการแก้แค้นมั้ย?
แต่ว่า เป็นอวี๋เหวินปิงที่มาหาเรื่องเขาก่อน เอาคนสำคัญของเขามาข่มขู่เขา ถ้าเขายอมปล่อยอวี๋เหวินปิงไป ถ้าเกิดมีครั้งต่อไปอีกล่ะจะทำยังไง?
เขาไม่สามารถปกป้องคนสำคัญที่อยู่รอบตัวได้ตลอดเวลา ถ้าอวี๋เหวินปิงเข้ามาอีกรอบ เกรงว่ามันจะไม่ได้โชคดีอย่างในครั้งนี้แล้ว
ในหัวของเขา จู่ๆ ก็มีใบหน้าของฉินฉีปรากฏขึ้น ต่อด้วยใบหน้าของเสี้ยวเสี้ยว รวมถึงใบหน้าของฉินยีด้วย
จากนั้นก็มองไปยังฉินต้าหย่งที่หมดสติอยู่ข้างๆ ตอนนี้กำลังเจ็บหนักไปทั้งตัว แล้วหัวใจของหยางเฉินก็ค่อยๆ เย็นชาลงไป
“ผมเตือนคุณไปนานแล้ว ถ้าตระกูลอวี๋เหวินมีเรื่องอะไรก็ให้มาหาเขาได้เลยไม่มีปัญหา แต่กับคนที่อยู่รอบตัวผม มันถือเป็นจุดเดือดของผม ใครที่แตะต้อง ตายสถานเดียว!”
หยางเฉินพูดพร้อมกัดฟันแน่น ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจได้แล้ว
อวี๋เหวินปิงทำหน้าหวาดกลัว เขานึกไม่ถึงจริงๆ ว่าทั้งๆ ที่ตัวเองคุกเข่าขอร้องอยู่ตรงพื้นแล้ว อวี๋เหวินเกาหยางก็ขอร้องแล้ว หยางเฉินก็ยังไม่ยอมปล่อยเขาไปอีก
“หยางเฉิน ฉันขอร้องล่ะ แกอย่าฆ่าอวี๋เหวินปิงเลยนะ ฉันขอร้องแกจริงๆ!”
อวี๋เหวินเกาหยางที่รู้สึกร้อนรนได้ตะโกนออกมาทันที
ราชวงศ์ยังไงก็คือราชวงศ์ มีรากฐานที่มีมาอย่างยาวนาน ต่อให้ไม่มีสิทธิ์ใช้ชื่อของราชวงศ์แล้ว แต่ก็ไม่ใช่อะไรที่ตระกูลทั่วไปจะมาต่อกรด้วยได้
ทว่า ในตอนนี้ สี่ราชวงศ์ที่ถูกตัดออกจากราชวงศ์แห่งจิ่วโจว เพื่อให้แบ่งแยกชนชั้นที่ชัดเจน สี่ตระกูลใหญ่ที่ถูกตัดออกจากราชวงศ์แห่งจิ่วโจวก็ขนานนามตัวเองว่า ตระกูลเดอะคิงแห่งจิ่วโจว
ดังนั้น ถ้าสี่ตระกูลเดอะคิงหรือห้าราชวงศ์ปรากฏตัวมาตอนนี้
ไม่ว่าจะเป็นตระกูลไหนก็ตาม มันก็ไม่ใช่ระดับที่แปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูจะสามารถเทียบเคียงได้เลย ต่อให้เป็นตระกูลที่อ่อนแอที่สุดในสี่ตระกูลเดอะคิงก็ตาม ก็ยังสามารถกดดันแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูได้
สำหรับคนทั่วๆไป จะรู้แค่ว่าแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูนั้นเป็นตระกูลที่อยู่บนจุดสูงสุดของจิ่วโจว แต่มีเพียงคนระดับแปดประตูแห่งเยี่ยนตูเท่านั้นถึงจะรู้ว่า เมื่ออยู่ต่อหน้าตระกูลเดอะคิงกับราชวงศ์แล้ว แปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูนั้นไม่ได้มีค่าอะไรเลย
ส่วนเรื่องฐานะที่แท้จริงของแม่อวี๋เหวินปิงนั้น หยางเฉินได้รู้มานานแล้ว
เพียงแต่ มันไม่ใช่ตระกูลราชวงศ์ที่อวี๋เหวินปิงพูดถึง แต่เป็นหนึ่งในสี่ของตระกูลเดอะคิงเท่านั้น
แววตาของหยางเฉินเย็นเยือกราวกับหิมะ ไม่ได้มีความหวาดกลัวแม้แต่นิดเดียว มีเพียงจิตสังหารอันแรงกล้าที่พลุกพล่านไปมา
“แล้วคุณรู้รึเปล่า ว่าผมเป็นใคร?”
จู่ๆ หยางเฉินก็ได้ถามออกมา
ทันทีที่หยางเฉินได้จัดการกับมือปืนที่เขาพามาไปอย่างรวดเร็วนั้น อวี๋เหวินปิงก็รู้ตัวแล้วว่าหยางเฉินต้องไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปแน่นอน
ในตอนนี้ เมื่อได้ยินคำพูดของหยางเฉิน ในใจของของอวี๋เหวินปิงก็เหลือแค่ความหวาดกลัวเท่านั้น
เขาไม่รู้ฐานะที่แท้จริงของหยางเฉิน แต่เขาก็สามารถรับรู้ได้ว่า ต่อให้เป็นแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูก็ไม่สามารถทำอะไรหยางเฉินได้ ไม่อย่างนั้นอวี๋เหวินเกาหยางคงไม่มาอ้อนวอนหยางเฉินหรอก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
เขียนยืดเยื้อฉิบหาย.. อ่านแล้วหงุดหงิด...
ยืดเยื้อมากอ่นแล้วโครตเสียอารมณ์แค่บอกว่าเป็นใครแค่เนี้ย แม่งยืดซะจนไร้รสชาติเลย เสียเวลา ่านฉิบหาย...
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...