วินาทีนี้ ภายในห้องโถงการประมูลที่กว้างใหญ่ เงียบสนิท ทุกคนล้วนมองไปทางคนที่เสนอราคาผู้นั้น
ชั่วขณะนั้นรอยยิ้มบนหน้าของซ่งหวายี่แข็งค้าง เขาหมุนตัวมองไป ก็มองเห็นใบหน้าของคนหนึ่งที่ยังดูหนุ่มกว่าเขาเสียอีก
“ชายหนุ่มคนนี้เป็นใครกัน? นึกไม่ถึงจะกล้าแข่งกับคนของตระกูลซ่ง?”
“ประเด็นคือ ทีเดียวเพิ่มมาหนึ่งพันล้าน!”
“ถ้าเขาไม่เป็นคุณชายบริษัทที่ไหนสักแห่ง ก็เป็นคนที่มาก่อกวน”
“ไม่หรอกมั้ง? ที่ได้รับบัตรเชิญมางานประมูลวันนี้ เป็นคนร่ำรวยน่าเกรงขาม ถ้ามาก่อกวนจริง เกรงว่าแม้แต่ห้องโถงยังเข้ามาไม่ได้มั้ง?”
หลังจากเงียบสงบไปครู่หนึ่ง คนโดยรอบ ล้วนทำหน้าตกใจ ถกเถียงกันเสียงต่ำๆ
“ที่รัก ที่ดินผืนนี้ฉันเคยเห็นผู้เชี่ยวชาญประเมินราคาไว้ ถ้าเอามาที่ดินผืนนี้มาครองได้ด้วยราคาห้าพันล้าน ต่อให้กิจการไปได้ดีแค่ไหน ก็ยากที่จะไม่ขาดทุนได้ เดิมทีไม่มีกำไรสักนิด”
ฉินซีประหม่าพอสมควร พูดเตือนสติด้วยเสียงเบาๆ “ถ้ามีคนเข้าร่วมเสนอราคาอีก คุณก็สละสิทธิ์เถอะ!”
หยางเฉินกลับหัวเราะเล็กน้อย “วางใจได้ ผมจะไม่ทำเรื่องที่ไม่มีความมั่นใจหรอก”
ผู้เชี่ยวชาญประเมินราคา เพียงแค่ยืนอยู่ในมุมของกิจการทั่วไปมาประเมินราคา แต่ว่าเยี่ยนเฉินกรุ๊ป ไม่ใช่กิจการทั่วไป
ต่อให้มูลค่าที่ดินผืนนั้นมีเพียงห้าพันล้าน หยางเฉินพูดประโยคเดียว ยังสามารถทำให้มูลค่าของที่ดินผืนนั้นพุ่งขึ้นหลายเท่า
แต่ที่เขาต้องการไม่ใช่กำไรหลายเท่า แต่เป็นการตอบแทนหลายแสนเท่า
ถ้าเกิดเมืองจิ่วโจวสร้างเสร็จ เขตชานเมืองทิศใต้จะเป็นสถานที่ที่มีมูลค่าด้านธุรกิจสูงสุดของเมืองเยี่ยนตูโดยแน่ โดยเฉพาะยังกลายเป็นโฆษณาโปรโมทของเมืองจิ่วโจวอีกแปดแห่งด้วย
เมืองจิ่วโจวก่อตั้ง ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป!
“น้องชายท่านนี้ ดูหน้าไม่คุ้นๆ อยู่บ้างนะ!” ซ่งหวายี่ยิ้มกริ่มพูดขึ้น
มาไม้นี้อีกแล้ว!
หยางเฉินหัวเราะอย่างเฉยชา “เพิ่งมาได้ไม่นาน ย่อมไม่คุ้นหน้าเป็นธรรมดา!”
ซ่งหวายี่ยังคงทำท่าทางยิ้มแย้มเต็มที่ พูดว่า “ใช้เงินห้าพันล้านมาซื้อที่ดินผืนนี้ แทบจะไม่มีกำไรใดๆ ให้พูดถึง แต่สำหรับตระกูลซ่งของผม กลับมีประโยชน์มาก คุณจะยอมให้ผม ได้ไหม?”
ต้องยอมรับว่า การอบรมของซ่งหวายี่ดีมาก
ครั้งนี้เขาอยากเข้าร่วมแข่งประมูล ตอนเพิ่งเริ่มต้นยังไม่เข้าร่วม จนกระทั่งสุดท้ายตอนเข้าใกล้ราคาประเมินของที่ดินผืนนั้น เขาถึงเข้าร่วม
เขาทำแบบนี้ ไม่เพียงให้กำไรทางฝ่ายขายที่ดิน ยังไม่มีการคุกคามอีกด้วย
เวลานี้ เขาอยากได้ที่ดินเลขที่15 กลับเป็นหยางเฉินสู้ออกมากลางทาง ถึงแม้ในใจจะรู้สึกไม่ดี แต่ยังคงไม่ได้แสดงออกแต่อย่างใด
“ไม่ได้!”
หยางเฉินยิ้มส่ายหน้า ไม่รอให้ซ่งหวายี่เสนอแข่งราคาต่อไป จากนั้นเพิ่มราคาอีก “หกพันล้าน!”
ครืน!
วินาทีนี้ ทุกคนตื่นตกใจหมด!
แม้แต่ซ่งหวายี่เอง ถึงถูกอบรมมาดีแค่ไหน เวลานี้ยังสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย อึ้งทึ่งนิดหน่อยในชั่วขณะหนึ่งนั้น
ไม่มีใครเข้าร่วมแข่งประมูล เขาเองที่เพิ่มราคาให้ตนเอง
เดิมทีสี่พันล้านเป็นราคาราคาขีดสุดของที่ดิน ถูกหยางเฉินคนเดียว เพิ่มไปอีกสองพันล้านแล้ว
นี่ตั้งสองพันล้านเลยนะ!
ผู้คนมากมายต่างเหมือนว่าเงินของตนเองถูกหยางเฉินถลุงเล่นอย่างนั้น
“หกพันหนึ่ง......”
“เจ็ดพันล้าน!”
ซ่งหวายี่กำลังอยากจะเสนอราคา หกพันหนึ่งร้อยล้านของเขายังไม่ทันพูดจบ หยางเฉินก็เพิ่มราคาหนึ่งพันล้านอีกครั้ง
แต่ละคนต่างตกใจค้างกันหมดแล้ว
“ชายหนุ่มคนนี้ เป็นคนโง่ที่เงินเยอะเหรอ?”
“พูดมาทีเดียวก็เพิ่มราคาหนึ่งพันล้าน นั่นมันเงินหนึ่งพันล้านนะ!”
“ทำไมฉันรู้สึกว่า เขาพุ่งเป้าไปที่ตระกูลซ่ง? แม้ซ่งหวายี่จะแสดงท่าทีอยากเข้าร่วมแข่งประมูลแล้ว หนุ่มคนนี้ยังกล้าเข้าแข่งประมูลอยู่อีก นี่เป็นการไม่ไว้หน้าซ่งหวายี่เลยสักนิด!”
แทบจะทุกคนล้วนถกเถียงขึ้นมาเสียงเบาๆ
ซ่งหวายี่ถึงแม้ได้รับการอบรมมาดีแค่ไหน เวลานี้สีหน้าดูแย่ลงอยู่บ้าง
เขาเป็นคุณชายตระกูลซ่งที่น่าเกรงขาม เป็นตัวแทนตระกูลซ่งมาเข้าร่วมแข่งขันประมูลที่ดิน คนหนุ่มที่อายุน้อยกว่าเขาคนหนึ่ง คาดไม่ถึงแข่งเสนอราคากับเขาต่อหน้าสาธารณชน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...
รอข้ามปี...