The king of War นิยาย บท 60

มือของหยางเฉินคีมล็อก จับข้อมือของหวังลู่เหยาเอาไว้แน่น

“เจ็บ ! เจ็บ ! เจ็บ ! รีบปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ !”

หวังลู่เหยากรีดร้องด้วยความเจ็บปวดอยู่หลายครั้ง แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะข่มขู่ “นายรีบปล่อยฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ ไม่อย่างนั้นถ้าสามีฉันมาถึงแล้ว นายได้จบเห่แน่”

“ปากอัปมงคล ! สมควรโดนตบ !”

พอหยางเฉินพูดจบ ฝ่ามือหนึ่งก็ตบไปที่ใบหน้าของหวังลู่เหยาทันที

เดิมทีใบหน้าของเธอเพียงแค่แดงเล็กน้อยเท่านั้น แต่พอหยางเฉินตบลงไปทีหนึ่ง บนแก้มของเธอก็กลายเป็นรอยฝ่ามือห้านิ้วอย่างชัดเจน ขนาดมุมปากเองก็มีเลือดไหลออกมา

ฉากนั้น ทำให้สีหน้าของผู้คนที่ห้อมล้อมอยู่ต่างก็แตกตื่นกันหมด ผู้ชายคนนี้ช่างโหดเหี้ยมจริงๆ ขนาดอีกฝ่ายเป็นผู้หญิง ก็ไม่ออมแรงเลยแม้แต่น้อย

ถึงแม้จะเป็นผู้ชายตบผู้หญิง แต่ในสถานการณ์แบบนี้ กลับไม่มีใครเกลียดชังหยางเฉินเลย ผู้หญิงคนนี้ใช้อำนาจรังแกคนอื่น แถวยังพูดจาหยาบคาย ผู้คนมากมายต่างก็แทบทนดูไม่ไหวอยู่แล้ว

ฉินยีมองดูเงาอันสูงใหญ่ของหยางเฉิน ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกตื้นตัน

แต่ว่าโจวยู่ชุ่ยกลับไม่รู้สึกตื้นตันเลยแม้แต่น้อย พอเห็นหยางเฉินตบหวังลู่เหยาทีหนึ่ง ก็รีบพุ่งเข้าไปตบหน้าหยางเฉินทันที แล้วพูดอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “ไอ้คนไร้ประโยชน์ รู้จักแต่หาเรื่องให้พวกเรา นายรู้ไหมว่าเธอเป็นใคร ? ถ้านายอยากตาย ก็อย่าดึงพวกเราไปด้วยสิ”

พอโจวยู่ชุ่ยด่าหยางเฉินเสร็จ ก็รีบวิ่งไปพยุงหวังลู่เหยาไว้ทันที “น้องสาว พวกเราไม่เกี่ยวข้องอะไรกับไอ้คนไร้ประโยชน์นี่นะ พวกเธออยากจะทำอะไรเขาก็ได้ แต่อย่าเอาความผิดของเขามาใส่บนตัวพวกเราเลยนะ !”

“คุณแม่คะ !” การกระทำของโจวยู่ชุ่ย ทำให้ฉินยีโกรธจนถึงขีดสุดแล้ว เธอพูดอย่างโกรธเกรี้ยวด้วยดวงตาแดงก่ำ “เขาเป็นลูกเขยของแม่นะ เป็นสามีของพี่ เป็นพ่อของเสี้ยวเสี้ยว เป็นพี่เขยของหนู ทำไมจะไม่เกี่ยวข้องกับพวกเรา !”

“แกหุบปากเดี๋ยวนี้เลยนะ !” โจวยู่ชุ่ยตะคอกใส่เธออย่างโกรธเกรี้ยว

ฉินยีกัดริมฝีปากแดงไว้แน่น แววตาเต็มไปด้วยความผิดหวัง

“พี่เขยคะ พี่ไม่เป็นไรใช่ไหม ?” เธอมองดูใบหน้าของหยางเฉินที่แดงไปครึ่งซีก แล้วรู้สึกปวดใจมาก

หยางเฉินส่ายหน้าพร้อมกับยิ้มออกมา “วางใจเถอะ ฉันไม่เป็นไร !”

หวังลู่เหยาภายใต้การช่วยพยุงของโจวยู่ชุ่ย ก็ค่อยๆลุกขึ้นมาอย่างทุลักทุเล ตอนมองไปทางแววตาที่มืดมนของหยางเฉิน ก็รู้สึกขนลุกซู่ขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

ก่อนหน้านี้ไม่ได้สังเกตหน้าตาของหยางเฉิน ตอนนี้พอดูอย่างชัดเจนแล้ว ร่างกายของเธอก็สั่นเทาขึ้นมาทันที

เพราะเธอคิดถึงหยางเฉินขึ้นมา ครั้งที่แล้วที่เกิดเรื่องเบาะแว้งกันที่หน้าประตูโรงเรียนอนุบาลหลานเทียน เป็นผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ ที่ถีบสามีของเธอจนลอยกระเด็นออกไป

จากนั้นก็มีชายร่างใหญ่อีกคนปรากฏตัวขึ้น เพียงแค่คนเดียว ก็สามารถจัดการกับคนที่สามีเธอเรียกมาทั้งหมดลงได้อย่างราบคาบ

“ใครที่มันกล้ามาตบเมียฉันกัน ?”

ในเวลานั้นเอง ที่มีเสียงคำรามดังกึกก้องเสียงหนึ่งดังขึ้น แล้วกลุ่มชายฉกรรจ์ร่างใหญ่ก็พุ่งเข้ามา

“ที่รักคะ !” หวังลู่เหยาพอเห็นจางกว่างมาปรากฏตัว ก็พุ่งเข้าไปในอ้อมอกเขาแล้วร้อมห่มร้องไห้ออกมาทันที

“ไม่ร้องนะที่รัก เธอบอกฉันมาสิ ว่าใครกันที่มันตบเธอ เดี๋ยวฉันจะเอามันให้ตายเลย !” จางกว่างพูดด้วยสีหน้าโหดเหี้ยม

โจวยู่ชุ่ยไหนเล่าจะเคยเห็นศึกที่ใหญ่หลวงขนาดนี้ ชายฉกรรจ์ร่างใหญ่หน้าตาเหี้ยมโหดหลายสิบคน บนแขนของแต่ละคนยังมีรอยสักอีกด้วย บนคอสวมสร้อยทองเส้นใหญ่ แค่ดูก็รู้ว่าไม่ควรไปหาเรื่องด้วย

“คุณจางคะ ฉันรู้ค่ะว่าใครเป็นคนตบภรรยาของคุณ” หวังลู่เหยายังไม่ทันได้เอ่ยปาก โจวยู่ชุ่ยก็ชิงโดดออกมาก่อนแล้ว

สายตาของหยางเฉินหรี่ลงเล็กน้อย เขาอดทนต่อผู้หญิงคนนี้มาขนาดนี้ แต่เธอกลับไม่รู้จักสำนึกเลย

“มันเป็นใคร ?” จางกว่างเบิกตาโตทันที แล้วถามอย่างฉุนเฉียว

โจวยู่ชุ่ยชี้ไปทางหยางเฉิน “ไอ้คนไร้ประโยชน์คนนั้นแหละ ที่ตบหน้าภรรยาของคุณ ขนาดผู้หญิงคนหนึ่งยังกล้าลงไม้ลงมือ ช่างเลวทรามจริงๆ”

คนรอบๆพึ่งจะเข้าใจความสัมพันธ์ของหยางเฉินกับโจวยู่ชุ่ย ตอนนี้พอเห็นโจวยู่ชุ่ยชี้ไปทางหยางเฉิน สีหน้าของทุกคนต่างก็ดูตกตะลึงและก็ดูแคลนออกมาด้วย

ฉินยีเองก็มีสีหน้าตกตะลึงด้วย การกระทำเมื่อครู่นี้ของโจวยู่ชุ่ย ต่างก็ทำให้คนรู้สึกรังเกียจมากแล้ว แต่การกระทำในตอนนี้กลับยิ่งกว่า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War