ถึงแม้ภายในซ่งหวายี่จะไม่พอใจ แต่นึกถึงสถานะของหยางเฉิน เขาอดหยุดความโกรธลงไว้ไม่ได้
“เสี่ยวหย่า ท่านนี้คือประธานของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป หยางเฉินคุณหยาง”
ซ่งหวายี่แนะนำสถานะของหยางเฉินให้น้องสาวของตนเองก่อน
จากนั้น ยิ้มพูดกับหยางเฉิน “คุณหยาง คนนี้คือน้องสาวของผม ซ่งหวาหย่า คุณเรียกหล่อนว่าเสี่ยวหย่าก็ได้ครับ”
“เชอะ! พวกคนที่ไม่เจียมตัว ยังไม่มีสิทธิ์เรียกฉันว่าเสี่ยวหย่า” ซ่งหวาหย่าพูดแบบท่าทางไม่พอใจ
อาต๋าเป็นคนที่เธอทุ่มเทพลังกายอย่างมาก ถึงหามาเข้าร่วมแข่งขันได้ ผลปรากฏว่าหยางเฉินบอกมาประโยคหนึ่งว่าเป็นพวกเขาประมาทผู้แข็งแกร่งที่ร่วมแข่งขันเกินไป
นี่คงไม่ใช่กำลังพูดชัดๆ ว่าอาต๋าไม่มีสิทธิ์พอจะขึ้นเวทีมวยงั้นเหรอ
ซ่งหวายี่รีบพูดว่า “เสี่ยวหย่า ห้ามเสียมารยาทต่อคุณหยาง!”
ถึงแม้หยางเฉินจะไม่ได้ตอบรับช่วยเหลือเขาเข้าแข่งสู้ แต่เขาก็ไม่ยินยอมเป็นศัตรูกับหยางเฉินแน่
เขาส่งคนไปค้นหาสถานะของหยางเฉินแล้ว แต่ที่ทำให้เขาตกใจคือ เพื่อนในกองทัพคนนั้นของเขา คาดไม่ถึงบอกเขาว่า เอกสารประวัติของหยางเฉินมีเพียงอักษรภาษาอังกฤษสามตัว “SSS!”
เพื่อนของเขาบอกเขาว่า เอกสารประวัติเป็นตัวSSSแบบนี้ ไม่ถ้าใช่คนชั่วร้ายสุดขีด ก็เป็นบุคคลใหญ่โตที่สร้างคุณูปการในกองทัพ
แต่ไม่ว่าเป็นแบบไหน ล้วนไม่ใช่การมีตัวตนที่ตระกูลซ่งสามารถล่วงเกินได้
เพื่อนของเขาบอกว่า ถ้าไม่จำเป็นถึงขั้นคอขาดบาดตาย อย่าผิดใจคนแบบนี้เด็ดขาด
และเพราะเหตุนี้ ดังนั้นเขาถึงขอร้องให้หยางเฉินช่วยเข้าแข่งขัน
“พี่ เขาก็แค่พวกคนรวยฉับพลันคนหนึ่งเท่านั้น ไม่เข้าใจการต่อสู้ มีสิทธิ์อะไรมาถือว่าเป็นพี่เป็นน้องกันกับพี่?”
ซ่งหวาหย่าอารมณ์ไม่ดีมากๆ ตอนที่มองทางหยางเฉิน ในสายตามีเพียงความไม่พอใจ
ซ่งหวายี่ยักคิ้วขึ้น ตะโกนว่า “หุบปาก!”
“เธอกล้าเหยียดหยามคุณหยางอีก ก็ไสหัวกลับไปเดี๋ยวนี้!”
“ขอโทษคุณหยางซะ!”
ซ่งหวายี่โมโหจริงๆ แล้ว และหวาดกลัวมากด้วย กลัวว่าน้องสาวของตนเองจะล่วงเกินหยางเฉินเข้า
ในสายตาซ่งหวาหย่าเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ เหมือนนึกไม่ถึงว่า พี่ชายที่แต่ไหนแต่ไรรักเอ็นดูตนเองอย่างมาก จะตวาดใส่เธอ และให้เธอขอโทษอีก
“ขอโทษ!”
ซ่งหวาหย่ามองเห็นความโกรธเคืองในสายตาซ่งหวายี่ ในที่สุดจึงประนีประนอม ถลึงตาใส่หยางเฉิน เหมือนทำผิดต่อเธอมากมายอย่างนั้นเลย
ถึงแม้จะกำลังขอโทษ กลับไม่มีความหมายขอขมาสักนิด แต่ทว่ายิ่งมองหยางเฉินเป็นศัตรูเพิ่มขึ้น
หยางเฉินหมดคำจะพูดอยู่บ้าง ตนเองเพียงแค่พูดความจริง นึกไม่ถึงจะยั่วโมโหหญิงสาวคนหนึ่งเข้าแล้ว
ผู้แข็งแกร่งที่แข่งขันในตอนนี้ ได้เพียงถูไถนับว่าเป็นยอดฝีมือ แต่ว่าผู้แข็งแกร่งที่แท้จริง ไม่ได้ลงมือ
หยางเฉินในฐานะจอมพลชายแดนเหนือ ตำนานผู้ชนะในกองทัพ จะมองความสามารถของคนคนหนึ่งว่าเก่งหรือด้อยไม่ออกได้อย่างไร?
เขาไม่ได้รู้สึกถึงกลิ่นอายที่แกร่งจากบนตัวของอาต๋าเลย ต่อให้ขึ้นเวทีมวยในตอนนี้ คงทำได้เพียงคว้าชัยมาด้วยความลำบาก
แต่อยากจะคว้าสามลำดับแรกมาครอง เดิมทีไม่มีหวัง
“คุณชายยี่ ผมคิดว่าคุณหนูเสี่ยวหย่าไม่ได้พูดอะไรผิดครับ”
ในเวลานี้เอง อาต๋าเอ่ยปากกะทันหัน “คนที่ไม่เข้าใจการต่อสู้คนหนึ่ง จะมีสิทธิ์วิจารณ์การแข่งขันด้านการต่อสู้ได้อย่างไรกัน?”
ซ่งหวายี่ผิดใจอาต๋าไม่ได้ แต่ยิ่งไม่ยินยอมล่วงเกินหยางเฉิน ได้เพียงหัวเราะตอบไป “พี่ต๋า อย่าโมโหไปเลย เพื่อนของผมไม่มีเจตนาร้าย”
ฟังซ่งหวายี่พูดแบบนี้ อาต๋าก็ไม่ง่ายจะต่อต้านหยางเฉิน เพียงแค่มองหยางเฉินแบบเย็นชาแล้วพูดว่า “รอเดี๋ยว ฉันจะใช้ความสามารถตบหน้านายให้ดู”
หยางเฉินหัวเราะอย่างจำใจ “งั้นฉันรอนายตบหน้าฉันอยู่”
“เหอะ!”
ซ่งหวาหย่าพูดแบบโมโห “ไม่เจียมตัว!”
มองเห็นซ่งหวายี่ยักคิ้วขึ้น เธอรีบหุบปากทันที
“คุณหยาง น้องสาวผมก็เป็นแบบนี้ อารมณ์ไม่ดี คุณอย่าถือสาหล่อนเลยครับ”
ซ่งหวายี่ไม่สบายใจเท่าไร รีบอธิบายทางหยางเฉินอีกครั้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...
รอข้ามปี...