“ซานซาน ไม่ใช่ความผิดของเธอ เสี่ยวยีชักจะเอาแต่ใจตัวเองมากขึ้นทุกวัน เธออย่าไปถือสาเลย เดี๋ยวฉันจะคุยกับหล่อนเอง” ฉินซีรีบพูดปลอบเธอ
ซูซานฝืนยิ้มออกมา “เสี่ยวซี เธออย่าตำหนิเสี่ยวยีเลย อย่าให้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเธอพี่น้องต้องมีผลกระทบเพราะฉัน”
“เอาล่ะ ความเข้าใจผิดคลี่คลายแล้ว ฉันไปก่อนล่ะ”
ซูซานพูดพลางกำลังจะออกไป
“ซานซาน ฉันทำอาหารเสร็จแล้ว กินก่อนแล้วค่อยไปสิ!” ฉินซีรีบรั้งไว้
ซูซานแค่ยิ้มๆ แล้วรีบออกไปอย่างรวดเร็ว ฉินซีไม่มีโอกาสรั้งเธอไว้ เธอวิ่งออกไปข้างนอกแล้ว ไม่ช้าเสียงสตาร์ทรถก็ดังคำรามขึ้น
จากนั้นฉินซีก็กลับไปที่ห้อง จ้องมองหยางเฉินอย่างเกรี้ยวกราด “ทั้งหมดมันเป็นความผิดของคุณ!”
หยางเฉินยิ้มอย่างจนปัญญาและไม่โต้แย้งใดๆ
ฉินยีโกรธมากจริงๆ อาหารเย็นก็ไม่มากิน
“ซูซานมาที่นี่ทำไม?”
หยางเฉินถามขึ้นในขณะรับประทานอาหาร
ฉินซีถอนหายใจ “เธอมาเพื่ออธิบายเรื่องในภาพถ่าย แต่เสี่ยวยีไม่ไว้หน้าเธอเลย กินข้าวเสร็จแล้วคุณช่วยไปเกลี้ยกล่อมเธอให้ฉันหน่อย”
“ซูซานเป็นเพื่อนสนิทของฉัน เธอจะไม่มีวันทำเรื่องทรยศฉัน ฉันเชื่อใจเธอ และแน่นอน ฉันเชื่อใจคุณด้วย”
พอได้ยินคำพูดของฉินซี หยางเฉินก็รู้สึกขาดความมั่นใจ
ในขณะเดียวกันก็รู้สึกเสียดายแทนฉินซี ซูซานเป็นยัยจอมวางแผน เสแสร้งทำดีต่อหน้าฉินซีขนาดนี้ เกรงว่าหากหยางเฉินพูดถึงซูซานไม่ดี ฉินซีจะไม่ยินดีฟังด้วยซ้ำ
“ผมคิดว่า ฉินยีทำถูกแล้ว”
จู่ๆ หยางเฉินก็พูดขึ้นมา
สีหน้าฉินซีแข็งทื่อทันที “คุณหมายความว่ายังไง?”
“ผมแค่อยากจะบอกว่า ฉินยีเป็นน้องสาวของคุณ ไม่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับซูซานจะดีแค่ไหน เธอก็ยังเป็นคนนอก อย่าให้คนนอกส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างพวกคุณสองพี่น้อง”
หยางเฉินกำลังจะพูดออกมาแล้ว แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนเรื่อง
ฉินซีจ้องมองหยางเฉิน “ซูซานไม่ใช่คนนอก เธอเป็นเพื่อนสนิทของฉัน ห้ามคุณพูดถึงเธอแบบนี้ จะว่าไปแล้ว จะไม่ให้โทษคุณได้ยังไง? ถ้าคุณไม่ดื่มเหล้าเมา แล้วซูซานมาเห็นเข้า สงสัยว่าคุณจะต้องนอนบนถนนแล้วล่ะ?”
หยางเฉินรู้ว่าฉินซีให้ความสำคัญกับซูซานมากแค่ไหน แต่ยิ่งเป็นแบบนี้ หยางเฉินก็ยิ่งรู้สึกขัดแย้งภายในใจมากขึ้นเท่านั้น ไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับซูซานอย่างไร
เขารู้ทั้งรู้ว่าซูซานมีเจตนาร้าย แต่ฉินซีก็ให้ความสำคัญกับเพื่อนสนิทอย่างซูซานมาก
แต่นอกจากเรื่องคิดไม่ซื่อกับตัวเองแล้ว ซูซานก็ไม่เคยทำเรื่องอะไรที่ผิดต่อฉินซี
เขาจะปล่อยซูซานไปก่อน ตราบใดที่เธอไม่ได้ทำเรื่องที่ทำร้ายฉินซี เขาจะแกล้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หลังมื้ออาหาร หยางเฉินไปหาฉินยี เขาเคาะประตูอยู่หลายครั้ง น้ำเสียงหงุดหงิดของฉินยีดังออกมาจากในห้อง “มีอะไร?”
“คุณน้า เสี้ยวเสี้ยวสำนึกผิดแล้ว นอกจากคุณน้ากับคุณแม่ ผู้หญิงคนอื่นล้วนเป็นคนนอก” เสี้ยวเสี้ยวพูดขึ้น
คำพูดของเสี้ยวเสี้ยวใช้ได้ผล มีเสียงฝีเท้าดังมาจากในห้องทันที
“แกร๊ก” ประตูเปิดออก หยางเฉินแทรกตัวเข้ามาทันที
“หยางเฉิน!”
ฉินยีตกใจกรีดร้องออกมาทันที พลางตะโกนว่า “ออกไปเดี๋ยวนี้นะ!”
“เสี่ยวยี เธออย่าเพิ่งไล่พี่ พี่อยากคุยกับเธอ”
หยางเฉินรีบพูด
ส่วนเสี้ยวเสี้ยว แค่ถูกพ่อเอามาเป็นสะพานเท่านั้น พอประตูเปิด เสี้ยวเสี้ยวก็วิ่งไปหาแม่แล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
เขียนยืดเยื้อฉิบหาย.. อ่านแล้วหงุดหงิด...
ยืดเยื้อมากอ่นแล้วโครตเสียอารมณ์แค่บอกว่าเป็นใครแค่เนี้ย แม่งยืดซะจนไร้รสชาติเลย เสียเวลา ่านฉิบหาย...
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...