เมื่อเสียงของหลีจื๋อลดลง เฉินซิงไห่ก็หัวเราะอย่างเย็นชา "เมื่อเป็นเช่นนี้ แสดงว่าคุณเลือกทางตายใช่ไหม?"
ในเวลานี้ หลีจื๋อเป็นคนเดียวที่แสดงความคิดเห็นของเขา อีกสี่ตระกูลก็เงียบกริบ ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเสียงดัง
เมื่อได้ยินสิ่งที่เฉินซิงไห่พูด เปลือกตาของหลีจื๋อก็กระตุก และเมื่อเขาเห็นว่าตระกูลพันธมิตรอื่นๆไม่พูดอะไร เขาก็โกรธทันที "พวกคุณเป็นใบ้กันเหรอ? หรือต้องรอจนกว่าตระกูลเฉินทำลายล้างพวกคุณจริงๆ พวกคุณถึงมาเสียใจ?"
“ผมบอกพวกคุณนะ ตระกูลเฉินแค่ยึดทรัพย์สินของตระกูลไช่เท่านั้น เมื่อเทียบกับตระกูลไช่ก่อนหน้านี้ มันก็แค่ขยะ!”
“ท่ามกลางตระกูลของพวกคุณ ไม่ว่าตระกูลไหนก็แข็งแกร่งกว่าตระกูลเฉินในปัจจุบันทั้งนั้น!”
หลีจื๋อจ้องไปที่ผู้นำตระกูลของพันธมิตรและกล่าว
เฉินซิงไห่ไม่ได้หยุดหลีจื๋อที่ไปเกลี้ยกล่อม เขาเพียงแค่มองอย่างมั่นใจและไม่กลัว มองไปที่สมาชิกของตระกูลพันธมิตรด้วยท่าทางขี้เล่น
ยิ่งเขาสงบมากเท่าไร สมาชิกในตระกูลพันธมิตรก็จะยิ่งประหม่ามากขึ้นเท่านั้น
ไม่ว่าหลีจื๋อจะโน้มน้าวใจอย่างไร สมาชิกในตระกูลพันธมิตรก็ไม่แสดงความคิดเห็น
หลีจื๋อกัดฟันด้วยความโกรธ "เฉินซิงไห่ ถ้าคุณเป็นผู้ชาย ก็ปล่อยเราไปก่อน เรามาต่อสู้กันอย่างยุติธรรม คุณวางกับดักและขังเราไว้ที่นี่ มันใช่เหรอ?"
เฉินซิงไห่ยิ้มและกล่าวว่า “พวกคุณเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้กับตระกูลเฉินแล้วไม่ใช่หรือ? เอาอย่างนี้แล้วกัน ผมก็ไม่ทำให้พวกคุณลำบากใจ ตอนนี้พวกคุณโทรเรียกคนของพวกคุณมา เรียกกองกำลังทั้งหมดที่สามารถมาสู้กับตระกูลเฉินได้มาได้เลย"
หลังจากได้ยินคำพูดของเฉินซิงไห่ สมาชิกของตระกูลพันธมิตรต่างก็ตกตะลึง
หลีจื๋อก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน "คุณพูดจริงหรือ?"
“คุณคิดว่าผมล้อเล่นเหรอ?”
เฉินซิงไห่ถามด้วยรอยยิ้ม
หลีจื๋อจึงเข้าใจว่า เฉินซิงไห่ให้เขาโทรเรียกคนของเขาจริงๆ
ในตอนนั้น แม้แต่เขาก็มีลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดีนัก ความนิ่งของเฉินซิงไห่ ทำให้เขาไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้เลย
หากพันธมิตรทั้งห้าตระกูลเรียกผู้ที่เก่งกาจของพวกเขามาจริงๆ แม้แต่แปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูก็คงรับมือไม่ไหวใช่ไหม?
เฉินไห่ซิงเป็นเพียงตระกูลที่เพิ่งเข้ามาแทนที่ตระกูลไช่ แล้วเขาจะสามารถทำในสิ่งที่แม้แต่แปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูก็ไม่สามารถทำได้เหรอ?
“พวกคุณสามารถโทรหาคนของพวกคุณได้ แต่ว่าพวกคุณต้องคิดให้ชัดเจน หากแสดงความเห็นตอนนี้ว่า พวกคุณเต็มใจที่จะมอบทรัพย์สินของตระกูลครึ่งหนึ่ง พวกคุณยังสามารถรักษาความแข็งแกร่งของตระกูลไว้ครึ่งหนึ่งได้”
เฉินซิงไห่กล่าวอย่างกะทันหันอีกว่า “แต่เมื่อพวกคุณโทรเรียกคนของพวกคุณมา เราก็จะเป็นศัตรูกัน ศัตรูที่ต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตายไปข้างหนึ่ง ไม่ก็พวกคุณร่วมมือกันทำลายล้างตระกูลเฉิน หรือไม่ก็เราทำลายล้างพันธมิตรของพวกคุณ”
“ตอนนี้ผมให้สิทธิ์พวกคุณเลือก พวกคุณคิดดีๆแล้วค่อยตัดสินใจ ผมจะให้เวลาพวกคุณครึ่งชั่วโมงในการโทรเรียกคนของพวกคุณ!”
หลังจากนั้น เฉินซิงไห่ก็ลุกขึ้นทันทีและจากไปโดยตรงกับกวนเจิ้งซานและคนอื่นๆ
เพียงแต่ว่า ผู้เก่งกาจหลายร้อยคนของตระกูลเฉินได้ล้อมรอบห้องจัดเลี้ยง ตอนนี้ พวกเขาทำได้เพียงโทรเรียกคนของพวกเขามาเท่านั้น มันไม่มีทางที่จะจากไปจากที่นี่เลย
ทันทีที่เฉินซิงไห่และคนอื่นๆออกไป คนในพันธมิตรก็รู้สึกกดดันมากขึ้น
“นายท่านตระกูลหลี ผมรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เกรงว่าตระกูลเฉินน่าจะจะมีความสามารถในการจัดการกับห้าตระกูลของเราในเวลาเดียวกัน มิฉะนั้น เขาจะยอมให้เราโทรเรียกคนมาได้อย่างไร?”
“ผมก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน ดูเหมือนว่า เราทุกคนประเมินตระกูลเฉินต่ำไป”
“ใช่ ตระกูลไช่ถูกแทนที่โดยตระกูลเฉินในชั่วข้ามคืน แม้แต่ตระกูลหนึ่งในแปดของแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู ก็ทำแบบนี้ไม่ได้มั้ง?”
“หากเป็นเช่นนี้ ความแข็งแกร่งของตระกูลเฉินนั้น น่าจะสูงกว่าแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูใช่ไหม?”
นอกจากหลีจื๋อแล้ว สี่ตระกูลที่เหลือต่างตกตะลึง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...