และหานเซี่ยวเทียนกับกวนเจิ้งซานก็เป็นพรรคพวกเดียวกับหยางเฉิน ซึ่งนั่นไม่ได้หมายถึงทั้งสองตระกูลนี้ก็มาจากต่างถิ่นงั้นหรือ?
เมื่อนึกถึงตระกูลเฉินที่เชิญพันธมิตรห้าตระกูลมาในวันนี้ ทันใดนั้นเขาก็เกิดการคาดเดาที่น่าเหลือเชื่อเรื่องหนึ่ง
ซึ่งก็คือทุกอย่างในวันนี้หยางเฉินได้วางแผนไว้ตั้งแต่แรกแล้ว การที่เขาตั้งใจจะแย่งชิงกิจการครึ่งหนึ่งของห้าตระกูล เป้าหมายหลักก็คือการผลักดันให้ตระกูลหานและตระกูลกวนได้รับต่ำแหน่งอย่างเป็นทางการ
ส่วนตระกูลหงสำหรับหยางเฉินแล้ว มันก็ควรเป็นแค่ตัวประกอบเท่านั้น
เมื่อนึกถึงการล่มสลายของตระกูลไช่ และการเติบโตขึ้นอีกครั้งของตระกูลเฉินก่อนหน้านี้ ขบวนการความคิดในใจของเขาก็ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
เขารู้ดีว่าไม่นานนับจากนี้ นอกจากแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูแล้ว จะมีอีกสองตระกูลยักษ์ใหญ่ที่เทียบได้กับตระกูลเฉินจะบังเกิด
“สวัสดีครับท่านผู้นำหาน! สวัสดีครับท่านผู้นำกวน! โปรดชี้แนะด้วยนะครับ!”
หลังจากครุ่นคิดอยู่สักพัก หงซิงก็รีบยกมือทำความเคารพ
และหลังจากนั้นไม่นาน เฉินซิงไห่ก็พาพวกเขาไปถึงห้องประชุมขนาดเล็กของตระกูลเฉิน
นอกจากหยางเฉินกับหงซิงแล้ว เฉินซิงไห่พาเฉินเห้ากับเฉินอิงเหามาด้วย หานเซี่ยวเทียนพาหานเยี่ยนมาด้วย และกวนเจิ้งซานก็พากวนเสว่ซงมาด้วย
เฉินอิงเหายังคงทำหน้าที่ริมน้ำชาและยืนอยู่ข้างๆ
ส่วนหยางเฉินนั่งอยู่บนที่นั่งประธาน และผู้นำคนอื่นๆ ก็นั่งระหว่างสองข้างของเขา
“วันนี้ ผมต้องขอยืมห้องประชุมของตระกูลเฉินเพื่อจัดการประชุมสั้นๆ กับทุกท่านนะครับ”
หยางเฉินพูดขึ้นอย่างกะทันหัน และทุกคนก็เงี่ยหูฟังทันที
โดยเฉพาะคนของตระกูลหานกับตระกูลกวน พวกเขาต่างก็ตั้งหน้าตั้งตารอ เพราะรู้ว่าหยางเฉินกำลังจะพูดอะไร
“ก่อนอื่น พันธมิตรห้าตระกูลได้ส่งมอบกิจการกว่าครึ่งหนึ่งแล้ว และกิจการเหล่านี้ผมจะแบ่งออกเป็นสองส่วน ซึ่งจะแบ่งให้กับตระกูลหานและตระกูลกวนเป็นผู้ดูแลต่อ”
“ตอนนี้ตระกูลเฉินดูแลในส่วนกิจการของตระกูลไช่ที่ผมมอบหมายให้แล้ว ผมจะไม่เพิ่มกิจการของห้าตระกูลให้คุณอีก ส่วนตระกูลหงซึ่งเป็นเศรษฐีจากเยี่ยนตูตั้งแต่แรกอยู่แล้ว อีกอย่างยังมีการจัดการระบบของตนเองอีกด้วย ดังนั้นผมจะไม่ทำการเปลี่ยนแปลงใดๆ อีก”
“ถ้าผมแจกแจงงานแบบนี้ ทุกท่านมีความคิดเห็นอะไรไหม?”
หยางเฉินกวาดมองไปทั่วและถามพวกเขา
“คุณหยางครับ การแบ่งงานของคุณยุติธรรมแล้วครับ อีกอย่างการที่เราได้มาเยี่ยนตูกับคุณ พวกเราก็ต้องขอบพระคุณเป็นอย่างสูงแล้วครับ ฉะนั้นทุกอย่างตามที่คุณหยางตัดสินใจเลยครับ”
กวนเจิ้งซานแสดงความคิดเห็นก่อน
หยางเฉินส่ายหัว “ในเมื่อพวกคุณเลือกที่จะติดตามผมแล้ว ผมจะทำให้พวกคุณผิดหวังไม่ได้ ไม่ว่าจะยังไง พวกคุณก็ถือว่าช่วยผมทำงานอยู่ ฉะนั้นถ้าไม่พอใจในจุดไหนก็บอกผมมาได้เลยนะ”
“ไม่เพียงแต่การประชุมในวันนี้ รวมถึงการประชุมในอนาคตหรือการมอบหมายงาน ผมต้องการฟังความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไป แต่ไม่ใช่ให้ผมพูดอยู่ฝ่ายเดียวนะครับ”
เมื่อได้ยินดังนั้น ทุกคนก็ยิ้มอย่างขมขื่น
เนื่องจากเป็นการแจกจ่ายงานของหยางเฉิน พวกเขาจึงไม่มีข้อสงสัยใดๆ
“คุณหยางครับ คุณไม่ต้องห่วงนะครับ ถ้าพวกผมมีข้อติดขัดตรงไหน พวกผมจะแสดงความคิดเห็นเองครับ”
“ใช่ครับ คุณหยางไม่ต้องเป็นกังวลนะครับ!”
ทุกคนก็เริ่มแสดงความคิดเห็นออกมา
หยางเฉินไม่ได้เสียเวลากับเรื่องนี้อีก จากนั้นพูดต่อ “ส่วนเรื่องที่สอง ก็คือการจัดการผู้แข็งแกร่งสองร้อยห้าสิบคนที่ตระกูลซุนกับตระกูลหลีเก็บไว้ให้!”
“ตามจำนวนบุคลากรที่มีอยู่ของแต่ละตระกูลในตอนนี้ บวกเพิ่มเข้าไปอีกสองร้อยห้าสิบคน แล้วเราค่อยมาแจกจ่ายให้เท่าๆ กัน”
“สำหรับสมาชิกของตระกูลหงและตระกูลเฉิน ถ้าให้ดีเราจะไม่ทำอะไรกับมัน”
หลังจากที่พูดจบ หยางเฉินก็กวาดมองไปที่ทั่ว ๆ แล้วถามขึ้นว่า “สำหรับเรื่องนี้ ยังมีใครสงสัยอะไรอีกไหม?”
“คุณหยางครับ ผมมีข้อคิดเห็นเรื่องหนึ่งครับ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...