The king of War นิยาย บท 745

สรุปบท บทที่ 745 ลาออก: The king of War

สรุปตอน บทที่ 745 ลาออก – จากเรื่อง The king of War โดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง

ตอน บทที่ 745 ลาออก ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง The king of War โดยนักเขียน เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

หลังจากที่บริษัทวัสดุก่อสร้างเจิ๊นหลงถูกซื้อกิจการโดยเยี่ยนเฉินกรุ๊ป พนักงานที่ลาออกจากบริษัทวัสดุก่อสร้างเจิ๊นหลงทั้งหมดก็กลับมาทำงานที่บริษัทวัสดุก่อสร้างเจิ๊นหลงเหมือนเดิม

ธนาคารเยี่ยนตูที่เคยรีบเร่งให้ชำระหนี้ ไม่เพียงแต่ไม่อยากได้เงินชำระหนี้แล้ว ธนาคารเยี่ยนตูกลับยื่นข้อเสนอเพิ่มจำนวนเงินกู้ให้บริษัทวัสดุก่อสร้างเจิ๊นหลง

และราคาหุ้นของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปก็ขึ้นติดต่อกันหลายวัน

ในเวลาสั้นๆ เพียง 3 วัน มูลค่าการตลาดของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว

จริงๆ แล้วบริษัทวัสดุก่อสร้างเจิ๊นหลง มีมูลค่าการตลาดใกล้เคียงกับเยี่ยนเฉินกรุ๊ป ดังนั้น การที่เยี่ยนเฉินกรุ๊ปเข้าซื้อกิจการบริษัทวัสดุก่อสร้างเจิ๊นหลงแล้วมูลค่าการตลาดจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ

เยี่ยนเฉินกรุ๊ปที่เดิมทีเป็นบริษัทหนึ่งใน 500 อันดับแรกของโลก ทำให้ลำดับสูงขึ้นไปอีกหลายสิบอันดับอีกครั้ง

“ยินดีด้วยครับคุณหยาง”

กวนเจิ้งซานและหานเซี่ยวเทียนนำของมามอบให้เยี่ยนเฉินกรุ๊ป ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

หยางเฉินพูดด้วยรอยยิ้ม “ดูจากท่าทางที่กระตือรือร้นของพวกคุณแล้ว ผมว่าพวกคุณยังสามารถดำรงตำแหน่งผู้นำไปได้อีกหลายปี”

ทั้งสองมองหน้ากันและยิ้ม หานเซี่ยวเทียนพูดขึ้นอย่างจนใจว่า “ผมก็อยากจะนำพาตระกูลหานให้เจริญรุ่งเรืองกว่านี้ แต่ร่างกายผมมันไม่เอื้อนี่สิ!ทำได้แค่ส่งต่อตำแหน่งให้หานเยี่ยนต่อครับ”

กวนเจิ้งซานก็พูดขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า “อนาคตก็คงเป็นโลกของหนุ่มสาวแล้ว พวกเราแก่แล้วครับ”

หานเซี่ยวเทียนและกวนเจิ้งซานที่เดิมทีลงจากตำแหน่งแล้ว แต่เพราะพวกเขายังเป็นกังวลจึงมาที่เมืองเยี่ยนตูและเริ่มเข้าควบคุมตระกูลของพวกเขาอีกครั้ง

อีกทั้งครั้งนี้ที่เมืองเยี่ยนตู จะให้ตระกูลหานและตระกูลกวนมีตำแหน่งมีส่วนร่วมที่เมืองเยี่ยนตู ภารกิจที่สำคัญเช่นนี้เขาจึงไม่วางใจให้คนรุ่นหลังจัดการ

“คุณหยางครับ ที่พวกเรามาวันนี้ นอกจากจะมายินดีกับเยี่ยนเฉินกรุ๊ปแล้ว ยังมาจะขอลาออกด้วยครับ!”

หานเซี่ยวเทียนพูดขึ้นทันใด “ตอนนี้ตระกูลหานได้หยั่งรากที่เมืองเยี่ยนตูแล้ว ผมตัดสินใจว่าจะส่งมอบตระกูลหานให้หานเยี่ยนดูแลต่อและสนุกกับวัยชราของผมครับ!”

กวนเจิ้งซานก็พูดขึ้นว่า “ผมก็มาขอลาออกด้วยครับ ผมส่งต่อตำแหน่งผู้นำให้กับกวนเสว่ซงหลานของผมครับ!”

หยางเฉินยิ้มเบาๆ “พวกคุณตัดสินใจกันเองก็พอ ไม่จำเป็นต้องมาขอลาออกกับผมเป็นพิเศษหรอก หานเยี่ยนและกวนเสว่ซงทั้งสองไม่เลวเลย เป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก ผมเชื่อว่าในเวลาเพียงไม่นาน ตระกูลหานและตระกูลกวนก็จะสามารถก้าวขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งเดียวกันกับตระกูลเฉินอีกครั้ง”

“ขอบคุณคุณหยางสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างนะครับ!”

ทั้งสองพูดด้วยรอยยิ้ม

อย่างไรก็ตามตระกูลเฉินมาก่อนและได้หยั่งรากที่เมืองเยี่ยนตูก่อน

แม้ว่าตระกูลหานและตระกูลกวนจะรับผิดชอบกิจการครึ่งหนึ่งของพันธมิตรห้าตระกูล แต่พวกเขาก็ยังเทียบไม่ได้กับตระกูลเฉิน

ในขณะนั้นเอง กวนเจิ้งซานก็รับโทรศัพท์ ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายพูดว่าอะไร แต่สีหน้าของเขาไม่สู้ดีนัก “คุณพูดว่าอะไรนะ?เสว่ซงถูกลอบสังหาร ตอนนี้กำลังช่วยชีวิตเขาอยู่เหรอ?”

หลังจากนั้น หานเซี่ยวเทียนก็ได้รับสาย โกรธจัดเหมือนกัน “หานเยี่ยนถูกลอบสังหาร?”

ก่อนที่ทั้งสองจะวางสาย โทรศัพท์ของหยางเฉินก็ดังขึ้น เมื่อหยางเฉินเห็นเฉินซิงไห่โทรมา สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม

ทั้งสามตระกูลเป็นตระกูลมหาเศรษฐีที่หยางเฉินโอบอุ้ม ตระกูลกวนและตระกูลหานเพิ่งจะส่งมอบตำแหน่งผู้นำให้กับคนรุ่นหลัง หลังจากนั้น คนรุ่นหลังของทั้งสองตระกูลก็ถูกลอบสังหาร

ตอนนี้เฉินซิงไห่ก็โทรมา เป็นไปได้ที่จะมีข่าวร้ายแบบเดียวกัน

“คุณหยางครับ เฉินเห้าลูกชายผมถูกลอบสังหารครับ ตอนนี้กำลังช่วยชีวิตอยู่ครับ!”

ทันทีที่หยางเฉินรับโทรศัพท์ น้ำเสียงเคร่งขรึมของเฉินซิงไห่ก็ดังขึ้น

ไม่เพียงเท่านั้น ในเวลาเดียวกันตระกูลอวี๋เหวินหนึ่งในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู อีกทั้งตระกูลเย่และตระกูลหวง ผู้นำของทั้งสามตระกูลมหาเศรษฐีก็ถูกลอบสังหาร

“คุณหยางครับ ผมว่าพวกเราควรจะหาที่อยู่ของคนตระกูลเซวต่อไปนะครับ!”

หานเซี่ยวเทียนพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ตระกูลเซวเพิ่งจะเตือนพวกเรา ถ้าตอนนี้พวกเราเลือกที่จะถอย ตระกูลเซวจะต้องยิ่งผยองมากขึ้นแน่นอนครับ!”

กวนเจิ้งซานก็รีบพูดขึ้นว่า “คุณหยางครับ ผมเห็นด้วยกับผู้นำหาน ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เราจะแสดงความอ่อนแอ!”

ทั้งสองเคารพหยางเฉินมาก และก็รู้ถึงพาวเวอร์ของหยางเฉินดี ถึงแม้ว่าศัตรูจะเป็นตระกูลเซวในตระกูลเดอะคิง พวกเขาก็ไม่กลัว

ในสถานการณ์แบบนี้ ทั้งสองยังยินดีที่จะต่อสู้กับตระกูลเซว หยางเฉินรู้สึกซาบซึ้งใจมาก แต่ว่าตระกูลเซวไม่ใช่แปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู นี่ถือว่าเป็นภัยคุกคามอย่างใหญ่หลวงต่อตระกูลหานและตระกูลกวนที่เพิ่งเข้ามาเป็นตระกูลมหาเศรษฐีในเยี่ยนตู

“พวกคุณสบายใจได้ จุดประสงค์ของตระกูลเซวก็แค่จะให้คนของตระกูลเซวออกจากเยี่ยนตูไป”

หยางเฉินพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “หากเรายังเพิ่มกำลังคนค้นหาคนของตระกูลเซวต่อไป กลัวว่าตระกูลเซวจะเหมือนสุนัขจนตรอก ผมอ่ะไม่กลัวหรอกตระกูลเซว แต่พวกคุณนั้นไม่เหมือนกัน”

“ถ้าหากตระกูลเซวจะฆ่าพวกคุณจริงๆ มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก”

หลังจากได้ฟังคำของหยางเฉิน สีหน้าของทั้งสองเต็มไปด้วยความซาบซึ้งใจ

“แต่……”

ทั้งสองกำลังอยากจะพูดโน้มน้าวต่อ แต่ก็ถูกหยางเฉินขัดขึ้น “เอาเถอะ พวกคุณรีบกลับไปเถอะ ไปโรงพยาบาลไปดูหานเยี่ยนและกวนเสว่ซงเถอะ!”

ครั้งนี้เกิดเรื่องกับคนหลายคน หยางเฉินก็เลยจะไปโรงพยาบาลเยี่ยมพวกเขา

แค่เพียงพวกเขาไม่กี่คนเดินออกมาจากเยี่ยนเฉินกรุ๊ป จู่ๆ ด้านนอกก็มีรถอาวดี้สีดำมากกว่าสิบคันขับเข้ามา และรถแต่ละคันก็มีชายร่างกำยำ 4-5 คนเดินออกมา

ในเวลาเพียงสั้นๆ ไม่กี่วินาที หยางเฉินและพวกก็ถูกล้อมไว้ตรงกลาง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War