หลังจากที่บริษัทวัสดุก่อสร้างเจิ๊นหลงถูกซื้อกิจการโดยเยี่ยนเฉินกรุ๊ป พนักงานที่ลาออกจากบริษัทวัสดุก่อสร้างเจิ๊นหลงทั้งหมดก็กลับมาทำงานที่บริษัทวัสดุก่อสร้างเจิ๊นหลงเหมือนเดิม
ธนาคารเยี่ยนตูที่เคยรีบเร่งให้ชำระหนี้ ไม่เพียงแต่ไม่อยากได้เงินชำระหนี้แล้ว ธนาคารเยี่ยนตูกลับยื่นข้อเสนอเพิ่มจำนวนเงินกู้ให้บริษัทวัสดุก่อสร้างเจิ๊นหลง
และราคาหุ้นของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปก็ขึ้นติดต่อกันหลายวัน
ในเวลาสั้นๆ เพียง 3 วัน มูลค่าการตลาดของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว
จริงๆ แล้วบริษัทวัสดุก่อสร้างเจิ๊นหลง มีมูลค่าการตลาดใกล้เคียงกับเยี่ยนเฉินกรุ๊ป ดังนั้น การที่เยี่ยนเฉินกรุ๊ปเข้าซื้อกิจการบริษัทวัสดุก่อสร้างเจิ๊นหลงแล้วมูลค่าการตลาดจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ
เยี่ยนเฉินกรุ๊ปที่เดิมทีเป็นบริษัทหนึ่งใน 500 อันดับแรกของโลก ทำให้ลำดับสูงขึ้นไปอีกหลายสิบอันดับอีกครั้ง
“ยินดีด้วยครับคุณหยาง”
กวนเจิ้งซานและหานเซี่ยวเทียนนำของมามอบให้เยี่ยนเฉินกรุ๊ป ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
หยางเฉินพูดด้วยรอยยิ้ม “ดูจากท่าทางที่กระตือรือร้นของพวกคุณแล้ว ผมว่าพวกคุณยังสามารถดำรงตำแหน่งผู้นำไปได้อีกหลายปี”
ทั้งสองมองหน้ากันและยิ้ม หานเซี่ยวเทียนพูดขึ้นอย่างจนใจว่า “ผมก็อยากจะนำพาตระกูลหานให้เจริญรุ่งเรืองกว่านี้ แต่ร่างกายผมมันไม่เอื้อนี่สิ!ทำได้แค่ส่งต่อตำแหน่งให้หานเยี่ยนต่อครับ”
กวนเจิ้งซานก็พูดขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า “อนาคตก็คงเป็นโลกของหนุ่มสาวแล้ว พวกเราแก่แล้วครับ”
หานเซี่ยวเทียนและกวนเจิ้งซานที่เดิมทีลงจากตำแหน่งแล้ว แต่เพราะพวกเขายังเป็นกังวลจึงมาที่เมืองเยี่ยนตูและเริ่มเข้าควบคุมตระกูลของพวกเขาอีกครั้ง
อีกทั้งครั้งนี้ที่เมืองเยี่ยนตู จะให้ตระกูลหานและตระกูลกวนมีตำแหน่งมีส่วนร่วมที่เมืองเยี่ยนตู ภารกิจที่สำคัญเช่นนี้เขาจึงไม่วางใจให้คนรุ่นหลังจัดการ
“คุณหยางครับ ที่พวกเรามาวันนี้ นอกจากจะมายินดีกับเยี่ยนเฉินกรุ๊ปแล้ว ยังมาจะขอลาออกด้วยครับ!”
หานเซี่ยวเทียนพูดขึ้นทันใด “ตอนนี้ตระกูลหานได้หยั่งรากที่เมืองเยี่ยนตูแล้ว ผมตัดสินใจว่าจะส่งมอบตระกูลหานให้หานเยี่ยนดูแลต่อและสนุกกับวัยชราของผมครับ!”
กวนเจิ้งซานก็พูดขึ้นว่า “ผมก็มาขอลาออกด้วยครับ ผมส่งต่อตำแหน่งผู้นำให้กับกวนเสว่ซงหลานของผมครับ!”
หยางเฉินยิ้มเบาๆ “พวกคุณตัดสินใจกันเองก็พอ ไม่จำเป็นต้องมาขอลาออกกับผมเป็นพิเศษหรอก หานเยี่ยนและกวนเสว่ซงทั้งสองไม่เลวเลย เป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก ผมเชื่อว่าในเวลาเพียงไม่นาน ตระกูลหานและตระกูลกวนก็จะสามารถก้าวขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งเดียวกันกับตระกูลเฉินอีกครั้ง”
“ขอบคุณคุณหยางสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างนะครับ!”
ทั้งสองพูดด้วยรอยยิ้ม
อย่างไรก็ตามตระกูลเฉินมาก่อนและได้หยั่งรากที่เมืองเยี่ยนตูก่อน
แม้ว่าตระกูลหานและตระกูลกวนจะรับผิดชอบกิจการครึ่งหนึ่งของพันธมิตรห้าตระกูล แต่พวกเขาก็ยังเทียบไม่ได้กับตระกูลเฉิน
ในขณะนั้นเอง กวนเจิ้งซานก็รับโทรศัพท์ ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายพูดว่าอะไร แต่สีหน้าของเขาไม่สู้ดีนัก “คุณพูดว่าอะไรนะ?เสว่ซงถูกลอบสังหาร ตอนนี้กำลังช่วยชีวิตเขาอยู่เหรอ?”
หลังจากนั้น หานเซี่ยวเทียนก็ได้รับสาย โกรธจัดเหมือนกัน “หานเยี่ยนถูกลอบสังหาร?”
ก่อนที่ทั้งสองจะวางสาย โทรศัพท์ของหยางเฉินก็ดังขึ้น เมื่อหยางเฉินเห็นเฉินซิงไห่โทรมา สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม
ทั้งสามตระกูลเป็นตระกูลมหาเศรษฐีที่หยางเฉินโอบอุ้ม ตระกูลกวนและตระกูลหานเพิ่งจะส่งมอบตำแหน่งผู้นำให้กับคนรุ่นหลัง หลังจากนั้น คนรุ่นหลังของทั้งสองตระกูลก็ถูกลอบสังหาร
ตอนนี้เฉินซิงไห่ก็โทรมา เป็นไปได้ที่จะมีข่าวร้ายแบบเดียวกัน
“คุณหยางครับ เฉินเห้าลูกชายผมถูกลอบสังหารครับ ตอนนี้กำลังช่วยชีวิตอยู่ครับ!”
ทันทีที่หยางเฉินรับโทรศัพท์ น้ำเสียงเคร่งขรึมของเฉินซิงไห่ก็ดังขึ้น
ไม่เพียงเท่านั้น ในเวลาเดียวกันตระกูลอวี๋เหวินหนึ่งในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู อีกทั้งตระกูลเย่และตระกูลหวง ผู้นำของทั้งสามตระกูลมหาเศรษฐีก็ถูกลอบสังหาร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...