ผ่านไปครึ่งชั่วโมง เซี่ยเหอก็มาถึงกองละคร
“เซี่ยเหอทำไมคุณเพิ่งมาถึงล่ะ? พวกเรารอคุณมาสองชั่วโมงแล้วนะ”
“คุณคิดว่าคุณจะดังแล้ว คุณเลยเล่นตัวเหรอ?”
“คุณรู้ไหมว่าคุณมาสายสองชั่วโมง มันทำให้เกิดผลกระทบกับการถ่ายละครของกองละครมากแค่ไหน?”
“คุณรู้ไหมว่านักแสดงเหล่านั้น เหนื่อยใจที่ต้องรอคุณมากขนาดไหน ?”
……
เซี่ยเหอเพิ่งเดินเข้ากองละครก็ถูกล้อมอยู่ตรงกลางทันใด
อู๋เทียนโย่วฉีกยิ้มมุมปาก ใบหน้าลำพองใจ
นักแสดงนำสองสามคนที่อยู่กับเขาต่างก็มีสีหน้าหยอกเย้า
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาสร้างเรื่องทั้งหมดนี้
“ไม่ใช่ค่ะ ฉันมาที่กองตั้งแต่เช้าแล้ว แต่ฉันเพิ่งไปโรงพยาบาลไปหาอู๋เทียนโย่วกับผู้กำกับหวางมาค่ะ”
เซี่ยเหอรีบอธิบาย
“ เซี่ยเหอคุณอย่าโยนเรื่องที่ตัวเองทำให้พวกเรา?”
อู๋เทียนโย่วเดินเข้ามาพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “เห็นๆ กันอยู่ว่าคุณมาสาย ทำให้พวกเราต้องรอนานขนาดนี้ คุณไปหาฉันที่โรงพยาบาลตอนไหนเหรอ?”
“อีกอย่าง ฉันมากองละครตั้งนานแล้ว แต่เป็นเพราะว่าคุณมาสายจึงได้แต่รอคุณอยู่บนรถ”
“คุณไปหาฉันที่โรงพยาบาลทำไมเหรอ?”
อู๋เทียนโย่วและคนอื่นๆต่างก็พากันพูดว่า “ใช่ๆๆ พี่เทียนโย่ว รอคุณอยู่บนรถ คุณไม่มาพี่เทียนโย่วก็ไม่สามารถถ่ายละครได้”
“พวกคุณ พวกคุณพูดโกหกหน้าตาเฉยได้ยังไงกัน?”
เซี่ยเหอกำลังจะร้องไห้เพราะโกรธจัด ชี้ไปที่หน้าของเขาและกลุ่มของเขา แล้วพูดด้วยความโกรธว่า “เห็นๆ กันอยู่ว่าพวกคุณไม่มากองละคร ฉันกับผู้กำกับหวางถึงได้ไปหาพวกคุณ”
พูดจบ เซี่ยเหอก็มองไปที่ทีมงานเหล่านั้นที่ปิดล้อมเธอแล้วพูดว่า “ถ้าหากว่าพวกคุณไม่เชื่อ พวกคุณก็ไปถามผู้กำกับหวางได้”
ในเวลานี้เอง ผู้กำกับหวางก็เดินเข้ามาพอดี
ดูเหมือนว่าเซี่ยเหอจะคว้าที่พึ่งสุดท้ายไว้ได้ จึงรีบพูดว่า “ผู้กำกับหวาง คุณรีบบอกทุกคนสิว่าฉันมากองละครตั้งแต่เช้าแล้ว เมื่อกี้ไปโรงพยาบาลไปหาอู๋เทียนโย่วและคนอื่นๆ กับคุณมา”
“เป็นเพราะว่ารถนั่งไม่พอ ฉันถึงได้นั่งแท็กซี่กลับมา ถึงได้ช้ากว่าพวกคุณไม่กี่นาที”
ผู้กำกับหวางขมวดคิ้ว พูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “ เซี่ยเหอคุณกำลังพูดอะไร ? มาสายก็คือมาสาย ทำไมคิดที่จะลากผมให้ช่วยคุณพูดโกหก?”
“ถ้าหากคุณจะแสดงละครต่อก็แสดงต่อ ถ้าแสดงไม่ได้แล้วก็ไปให้พ้นหน้าผม! พวกเรากองละครไม่ต้อนรับคนอย่างคุณที่เป็นนักแสดงหน้าใหม่ที่ยังไม่ทันดังก็เริ่มจะเล่นตัว”
สีหน้าของเซี่ยเหอชะงักงันในทันใดด้วยใบหน้าไม่อยากเชื่อ
ตั้งแต่ที่เธอเข้ากองละคร ผู้กำกับหวางก็ดูแลเธอมาตลอด
แต่ที่ทำให้เธอนึกไม่ถึงก็คือ วันหนึ่งผู้กำกับหวางจะใส่ร้ายเธอ
“ผู้กำกับหวาง คุณพูดแบบนี้ได้ยังไง?”
ดวงตาคู่นั้นของเซี่ยเหอแดงก่ำ ถามด้วยสีหน้าน้อยใจ
เห็นได้ชัดว่าผู้กำกับหวางก็รู้สึกผิด ไม่กล้ามองหน้าเซี่ยเหอได้แต่โบกมือ “แยกย้ายได้แล้ว รีบถ่ายทำกันได้แล้ว บริษัทต้องการให้เราถ่ายละครเรื่องนี้ให้เสร็จภายในสองเดือน”
อู๋เทียนโย่วและคนอื่นๆ ต่างก็มีสีหน้าหยิ่งผยองได้ใจ
“ผู้กำกับหวาง เป็นเพราะว่า เซี่ยเหอมาสายทำให้การทำงานของกองละครล่าช้า เรื่องนี้คุณคงจะไม่เข้าข้างเธอใช่ไหม?”
อู๋เทียนโย่วถามผู้กำกับหวางด้วยรอยยิ้ม
ผู้กำกับหวางรีบพูดว่า “ผมจะเข้าข้างเธอได้ยังไง? คุณสบายใจได้ เรื่องนี้ผมจะแจ้งให้บริษัททราบ ดูว่าบริษัทจะให้ตัดเงินค่าจ้างของเธอหรือจะให้ทำยังไง แล้วแต่ทางบริษัท”
“เซี่ยเหอตอนนี้ความนิยมของละครเรื่องนี้กำลังพุ่งสูงขึ้น คุณทำให้ล่าช้าไปสองชั่วโมง ทำให้บริษัทเสียหายเป็นอย่างมาก”
อู๋เทียนโย่วพูดด้วยรอยยิ้ม “ไม่แน่ว่าบริษัทอาจจะถอดคุณออกจากละครเรื่องนี้เพราะเรื่องนี้”
“ เซี่ยเหอครั้งนี้ คุณเจอปัญหาใหญ่แล้ว”
“ฉันยังได้ยินมาว่า อีกสักพักประธานกรรมการจะมาที่กองละคร เรื่องนี้ต้องไปเข้าหูประธานกรรมการแน่ๆ พอถึงเวลานั้นคุณจะยังอยู่ในกองละครนี้ต่อไปหรือเปล่าก็คงจะพูดยาก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...