“โอเค หยุดพูดจาไร้สาระได้แล้ว ในเมื่อคุณคิดว่าพี่สาวคุณสนับสนุนฉันจนมีวันนี้ งั้นตอนนี้โทรหาพี่สาวของคุณถามเธอให้หน่อยสิ ว่าฉันหยวนหย่าฉีรู้ไหมว่าเธอคือใคร?”
“ก็ได้ ในเมื่อเธออยากจะหาเรื่องให้ตัวเอง งั้นฉันจะบอกให้ทุกคนรู้ว่าเธอเป็นเนรคุณขนาดไหน”
อู๋เทียนโย่วพูดจบก็โทรหาใครบางคน อีกฝ่ายรับโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว เสียงของหญิงสาวดังขึ้น “โทรมาหาใครคะ?”
“สวัสดีครับพี่ ผมน้องชายพี่เทียนโย่วครับ”
อู๋เทียนโย่วรีบพูดขึ้น เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายคือซุนจื้อเจียวพี่สาวลูกพี่ลูกน้องของเขา
“เทียนโย่ว ? ฉันมีน้องชายแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน? ไปไกลๆ! ”
น้ำเสียงของซุนจื้อเจียวเย็นชามาก หลังด่าจบก็วางสายไป
อู๋เทียนโย่วเปิดสปีกเกอร์โฟน และทุกคนก็ได้ยินที่ซุนจื้อเจียวด่าเขาอย่างโกรธจัด
ทันใดนั้น ทุกคนต่างก็เบิกตากว้าง โดยเฉพาะนักแสดงหลายคนที่ค่อนข้างสนิทกับอู๋เทียนโย่ว ยิ่งประหลาดใจเป็นอย่างมาก
อู๋เทียนโย่วโอ้อวดต่อหน้าพวกเขาตลอดว่าพี่สาวลูกพี่ลูกน้องของเขาเป็นคนจากตระกูลซุนและยังเป็นผู้จัดการใหญ่ของซิงเฉินมีเดียอีกด้วย
แต่ว่าตอนนี้ พี่สาวลูกพี่ลูกน้องที่อู๋เทียนโย่วบอกว่าสนิท ไม่เพียงแต่ไม่มีเบอร์โทรศัพท์ของอู๋เทียนโย่วแล้วยังไม่รู้จักอู๋เทียนโย่วอีก ยิ่งไปกว่านั้นยังบอกให้เขาไปให้พ้นด้วยความโกรธอีก
การแสดงสีหน้าของอู๋เทียนโย่วนั้นยอดเยี่ยมมาก
หยวนหย่าฉี “ฟู่” เสียงหัวเราะดังขึ้น “นี่เหรอพี่สาวคนนั้นของคุณ? ดูเหมือนว่าเธอจะไม่รู้จักคุณนะ! ”
สีหน้าของอู๋เทียนโย่วแย่มาก กัดฟันพูดว่า “พี่สาวของฉันเป็นคนในตระกูลซุนอยู่ในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู ทุกวันเธอคงยุ่งมาก แน่นอนว่าต้องมีหลายคนที่สวมรอยเป็นญาติของเธอ ถึงได้ทำให้เธอเข้าใจผิดว่าฉันก็สวมรอยเป็นน้องชายของเธอ”
“เหอะๆ เป็นเพราะยุ่ง ทำให้พี่สาวไม่รู้จักแม้แต่น้องชายของตัวเอง ฉันเพิ่งได้ยินเป็นครั้งแรกเลย”
หยวนหย่าฉีพูดถากถางออกมาอย่างเปิดเผย
ใบหน้าของอู๋เทียนโย่วแดงก่ำ “ครั้งนี้ เธอต้องฟังเสียงของฉันออกแน่ๆ”
พูดจบ เขาก็โทรศัพท์อีกครั้ง
ซุนจื้อเจียวรับโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว “ใครคะ?”
“พี่ครับ ผมเอง อู๋เทียนโย่ว พี่ลืมผมไปแล้วเหรอ? เมื่อหลายวันก่อน แม่ผมยังพูดกับคุณป้าอยู่ว่า ผมมาถ่ายละครที่ สถานกองถ่ายเหิงเตี้ยนเมืองเยี่ยนตู ยังขอให้พี่ดูแลผมด้วย”
อู๋เทียนโย่วรีบพูดขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกวางสายใส่อีกครั้ง เขาพูดร่ายยาวในครั้งเดียว
ครั้งนี้ดูเหมือนว่า ซุนจื้อเจียวจะรู้แล้วว่าอู๋เทียนโย่วคือใคร พูดอย่างเฉยเมยว่า “ฉันจะบอกคุณให้นะ อย่ามาเรียกลูกพี่ลูกน้องมั่วซั่ว ไม่ใช่ใครก็ได้จะมาเป็นลูกพี่ลูกน้องฉันซุนจื้อเจียว”
“เห็นแก่หน้าแม่ของฉัน ฉันให้เวลาคุณหนึ่งนาที พูดเรื่องที่คุณจะคุยกับฉันให้จบ”
ท่าทีของซุนจื้อเจียวหยิ่งผยองมาก ด้วยท่าทีที่ไม่รู้จักอู๋เทียนโย่วจริงๆ
อู๋เทียนโย่วสีหน้าเหยเก แต่ตอนนี้ขึ้นหลังเสือแล้วลงยาก จึงพูดได้แค่ว่า “พี่ครับ……”
“หุบปาก! ฉันไม่ใช่พี่สาวของคุณ! อย่ามาเรียกลูกพี่ลูกน้องมั่วซั่ว! ”
ทันทีที่ อู๋เทียนโย่วเรียกพี่สาว เขาก็ถูกซุนจื้อเจียวด่า
อู๋เทียนโย่วหายใจเข้าลึกๆ เฮือกหนึ่ง ระงับความคับข้องใจของเขาไว้แล้วพูดว่า “คุณซุนคือว่า……”
“หุบปาก! ”
ซุนจื้อเจียวโกรธจัด
อู๋เทียนโย่วเกือบจะร้องไห้แล้ว คำพูดนี้ของซุนจื้อเจียว มันทำให้เขาเสียหน้าไปแล้ว
“ซุนจื้อเจียว ผม……”
“หุบปาก! หุบปาก! ชื่อฉัน คุณมีคุณสมบัติเรียกแบบตรงๆเหรอ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...