The king of War นิยาย บท 817

สรุปบท บทที่ 817 หยางเฉินปรากฏตัว: The king of War

บทที่ 817 หยางเฉินปรากฏตัว – ตอนที่ต้องอ่านของ The king of War

ตอนนี้ของ The king of War โดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 817 หยางเฉินปรากฏตัว จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

เย่ชังพูดด้วยอารมณ์พลุ่งพล่าน “ตำแหน่งเจ้าบ้านความจริงก็เป็นของผมอยู่แล้ว ตอนนี้ผมเพียงแต่จะมาขอเอาทุกสิ่งที่เป็นของผมคืน”

“ไม่เพียงเท่านั้น รอให้ผมขึ้นเป็นเจ้าบ้านแทนแล้ว ผมก็ยังจะได้รับความร่วมมือจากเฉาซื่อกรุ๊ป ซึ่งจะช่วยทำผลประโยชน์เพิ่มให้กับตระกูลพวกเราอย่างมหาศาล แล้วผมมีผิดตรงไหน?”

ฉินซีคาดไม่ถึงเลยว่า ที่ตัวเธอเองมาในวันนี้เพียงเป็นตัวแทนประธานผู้จัดการใหญ่เท่านั้น ทำไมจู่ ๆ ต้องให้เข้ามาพัวพันกับการแก่งแย่งผลประโยชน์ภายในของตระกูลเย่ด้วย?

เวลานี้ หล่อนไม่สามารถเข้าไปสอดเรื่องด้วยแม้แต่น้อย ได้แต่เฝ้ามอง

เย่หวาแสดงเชิงเหลี่ยม “หากแกยังจะดื้อรั้น สิ่งที่แกจะต้องเผชิญคือ การล่มสลายเท่านั้น!”

“ถ้าต้องมีการล่มสลาย จะมีก็แต่พวกแกเท่านั้น!”

เย่ชังหัวเราะอย่างเหยียด ๆ กวาดสายตามองไปรอบ ๆ พูดเสียงเยือก “ข้าจะบอกความจริงให้พวกแกรู้ หลังจากที่เย่ม่านถูกลอบทำร้าย บาดเจ็บสาหัส คงมีเวลาเหลืออีกไม่นานแล้ว”

“ก่อนหน้านี้ที่ไม่เปิดเผยกัน ก็ด้วยกลัวว่าข่าวการบาดเจ็บสาหัสของนาง จะนำพาให้ตระกูลเย่ต้องพบอันตรายถึงขั้นล่มสลายได้ จึงไม่ได้บอกพวกเรา”

“มาถึงตอนนี้ ข้ามาบอกความจริงให้พวกแก ก็เพราะข้าเชื่อว่า พวกแกคงได้มีการตัดสินใจเลือกในทางที่ถูกต้อง มีทางนี้เท่านั้น ที่จะไม่นำพาปัญหาเลวร้ายมาให้ตระกูลเย่”

“ตอนนี้ ใครเป็นคนก้าวออกมาแสดงจุดยืนเป็นคนแรก เมื่อข้าได้รับตำแหน่งเจ้าบ้านแล้ว คนผู้นั้นก็จะได้เป็นผู้จัดการใหญ่ของแมมบ้าแดงกรุ๊ป”

พอเย่ชังได้พูดคำพูดนี้ออกไป ทุกคนที่อยู่ต่างก็มีสีหน้าเปลี่ยนกันไป

“ข้ายินดีสนับสนุนเย่ชังเป็นผู้นำตระกูล!”

“ข้ายินดีสนับสนุนเย่ชังเป็นผู้นำตระกูล!”

.....................

ทันทีที่เสียงพูดจบลง เครือญาติสายตรงห้า-หกคน เอ่ยปากออกมาเกือบจะพร้อมกัน

ตามมาติด ๆ เสียงคนอื่น ๆ ต่างพากันออกเสียง ล้วนแสดงจุดยืนสนับสนุนเย่ชังเป็นผู้นำตระกูล

ช่วงสั้น ๆ เพียงไม่กี่วินาที เว้นแต่ฉินซีกับเย่ชัง นอกนั้นทุกคนต่างพากันยกมือแสดงจุดยืนสนับสนุนเย่ชังกันทั้งหมด

เย่ชังแค่นเสียงหัวเราะ ลุกยืนขึ้นมา สองมือเท้าบนโต๊ะประชุม มองจากที่สูงลงไปยังเย่หวาที่นั่งตรงข้าม “ตอนนี้ แกคิดว่า ผู้ที่ต้องล่มสลายนั่น เป็นใคร?”

“แกพูดส่งเดช!”

ฉินซีทนไม่ได้แล้วในที่สุด พรวดลุกยืนขึ้น ตวาดไปด้วยความโมโห “อาการบาดเจ็บของเจ้าบ้านตระกูลเย่พ้นขีดอันตรายแล้ว อย่างมากอีกหนึ่งอาทิตย์ก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว”

ในช่วงนี้ ฉินซีไปที่โรงพยาบาลทุกวัน เย่ม่านมีสภาพอย่างไร หล่อนรู้ดีกว่าใคร ๆ ทั้งหมด

เย่ชังเลิกคิ้วขึ้น “คุณเป็นคนนอก จะไปรู้เรื่องอะไร?”

“ใครว่าดิฉันเป็นคนนอก?ดิฉันคือ......”

ในช่วงฉุกละหุกนั้น ฉินซีก็กำลังจะยอมรับสถานะสัมพันธ์ของตนกับเย่ม่าน

“ถ้าคุณไม่ใช่คนนอก จะยังมีใครเป็นคนนอกอีกหละ?”

เย่ชังยิ้มเหยียด ๆ พลันขมวดคิ้วย่นขึ้นมา มองไปที่รปภ. ตวาดใส่ไปว่า “ข้าบอกให้พวกแกไล่ไอ้ผู้หญิงคนนี้ออกไปแล้ว ทำไมมันยังอยู่ที่นี่อีก?”

“ครับ ท่านประธานเย่!”

รปภ.ทั้งสองคนฉลาดมาก เปลี่ยนสรรพนามยกเรียกให้เป็นประธานเย่ แล้วเดินมุ่งตรงเข้าหาฉินซี

“ออกไปให้พ้นซะ!”

ฉินซีสะบัดเสียงด้วยความโกรธ พูดด้วยเสียงที่หนาวเฉียบ “ฉันเป็นลูกสาวของเย่ม่าน ใครว่าฉันเป็นคนนอก?”

บรึม!

พอพูดประโยคนี้ออกไป ทั้งบริเวณฮือฮากันขึ้นมา

ความสัมพันธ์ของฉินซีกับเย่ม่าน คนที่อยู่ในบริเวณ ไม่มีใครรู้เรื่อง

เวลานี้หล่อนเปิดเผยออกมาเองว่าตัวเองเป็นลูกสาวของเย่ม่าน ก็เหมือนลูกระเบิดที่วางลงมาลูกหนึ่ง

สองรปภ.ที่เตรียมจะไปพาตัวฉินซีออกไป ต้องชะงักมือค้างในทันทีทันใด

ถ้าฉินซีเป็นลูกสาวของเย่ม่านจริง แม้ว่าเย่ม่านจะถึงตายไป ก็มีแต่ฉินซีเท่านั้น จึงจะใช่ทายาทรับช่วงแมมบ้าแดงแกรุ๊ป

“รีบจัดการเอายัยผู้หญิงบ้าคนนี้ออกไปให้พ้น มันพูดเพ้อเจ้อไร้สาระ พวกแกก็ยังเชื่อเรอะ?”

เย่ชังชะงักไปชั่วแผล็บผ่านไป รีบคำรามใส่ออกไป

เชาไม่มีอะไรต้องคิดมากมายแล้ว ตั้งแต่ขณะที่ประกาศยึดตำแหน่งผู้นำตระกูลเย่ ก็แยกยืนตรงข้ามกับเย่ม่านเด็ดขาดแล้ว

ไม่ว่าฉินซีจะเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของเย่ม่านหรือไม่ มันไม่มีอะไรจะสำคัญแล้ว

สำคัญที่ว่า เขาต้องรีบยึดตระกูลเย่โดยเร็วที่สุด ต้องทางเดียวนี้เท่านั้น จึงจะไม่เป็นที่ผิดหวังของตระกูลเฉา

เขารู้ตัวดีอยู่ว่า เรื่องนี้เป็นการทดสอบของตระกูลเฉา ถ้าเขาสามารถยึดครองได้สำเร็จ ก็จะสามารถได้รับความร่วมมือจากเฉาซื่อกรุ๊ป ตระกูลเฉาก็จะอยู่เบื้องหลังคอยสนับสนุนเขา

“แกหรือนี่!”

เย่ชังเนื้อตัวสั่นน้อย ๆ

นี่เป็นครั้งที่สามที่ได้สัมผัสกับหยางเฉิน ครั้งแรกคือตอนที่เย่ม่านชิงอำนาจ ตอนนั้นหยางเฉินมีปรากฏตัว

เขายังจำภาพได้ชัดเจน หยางเฉินกับผู้ติดตามข้างกายคนเดียว หมัดเดียวสยบหมดผู้แกร่งกล้าทั้งตระกูลเย่

ครั้งที่สองตอนที่หยางเฉินประจันหน้ากับตระกูลหลง เขายังคิดว่าถ้าได้อิงไม้ใหญ่อย่างตระกูลหลง เขาเองคงแทนที่ตำแหน่งเย่ม่านได้

แต่ทว่า คิดไม่ถึงเลยว่า แม้ขนาดเจ้าบ้านตระกูลหลงมาด้วยตัวเอง ก็ทำอะไรกับหยางเฉินไม่ได้ กลับทั้งยังไปไล่พี่เรียงน้องกันกับหยางเฉิน

วันนี้ เป็นครั้งที่สาม

การได้สัมผัสเมื่อสองครั้งก่อน แต่ละครั้ง หยางเฉินนำพาเอาความกดดันที่หนักอึ้งใส่เขา แต่ครั้งนี้ หนักสุด ๆ

“นี่เป็นเรื่องภายในของตระกูลเย่ของเรา คุณนี่คิดจะมาขอแจมด้วยอีกขาหนึ่งหรือ?”

เย่ชังฝืนความหวาดกลัวในใจ กัดฟันพูดไป

หยางเฉินมองเย่ชังอย่างเผิน ๆ “ถ้าไม่ใช่เพราะแกมีสายเลือดในตระกูลเย่ ครั้งแรกที่เห็นแก น่าจะต้องเป็นศพไปแล้ว”

ได้ยินดังนั้น เย่ชังครั่นเนื้อครั่นตัวจนสั่นไปทีหนึ่ง

เย่หวารู้ว่าหยางเฉินมีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเย่ม่านมาก และก็เคยเห็นความเก่งฉกาจของหยางเฉิน ในส่วนลึกของใจก็เต็มเปี่ยมด้วยความตื่นใจ

“ท่านหยาง ในที่สุดท่านก็มา”

เย่หวารีบเสนอหน้าเข้าไปหา พูดด้วยใบหน้าประเหลาะสอ “ตามจริงท่านผู้นำได้วางตัวให้ประธานฉินเป็นผู้จัดการใหญ่แล้ว แต่ว่าเย่ชังไม่ยอมรับอยู่ใต้บังคับบัญชา กลับบิดเบือนแจ้งนัดเวลาประชุมผิด ๆ สร้างเรื่องเท็จว่าท่านประธานฉินลาออกแล้ว”

“ยังไม่แค่นั้น เขายังประกาศแจ้งชัด หาว่าท่านเจ้าบ้านมีชีวิตเหลือไม่กี่วันแล้ว และยังฝืนจะขึ้นมาเป็นผู้นำตระกูลเย่”

ที่เย่หวาพูดทั้งหมดมานี้ หยางเฉินก็รู้มาอยู่แล้ว

ก็ด้วยรู้อยู่ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องชิงอำนาจกันเองภายในตระกูลเย่ ฉินซีไม่มีทางที่จะไปจัดการได้ เขาจึงต้องลงมาเอง

“ให้ร้ายผู้หญิงของข้า?ใครทำให้แกกล้าได้ขนาดนี้นะ?”

หยางเฉินมองหน้าเย่ชาง น้ำเสียงพูดที่ราบเรียบมาก ๆ แต่อานุภาพล้นหลาม

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War