หยางเฉินพึ่งนั่งลง มีเสียงที่คุ้นเคยเสียงหนึ่งดังขึ้นกะทันหันจากด้านหลัง
“คุณหยาง ถ้ารู้แต่แรกว่าคุณจะมา ผมคงไปรับคุณก่อนล่วงหน้า” ชายหนุ่มที่สวมชุดทางการคนหนึ่งเดินเข้ามา ตามมาด้วยนั่งลงที่ว่างด้านข้างของหยางเฉิน
หยางเฉินมองหยางเวยแบบแปลกประหลาดอยู่บ้าง นึกไม่ถึงว่าคนของตระกูลหยางที่เมืองโจวเฉิงจะได้รับเชิญด้วย เพียงแค่เดิมตระกูลหยางอยากจะใช้ประโยชน์จากเขา ถ้าให้หยางเวยรู้จุดประสงค์แท้จริงที่เขามาที่นี่ ยังจะเข้ามาพูดคุยด้วยกันกับตนเองก่อนเหรอ?
หยางเฉินหน้าตาไร้ความรู้สึก ยกน้ำชาไผ่เขียวชั้นดีแก้วหนึ่งขึ้นดื่ม พูดขึ้นทันใด “ถ้าไม่อยากโดนพัวพันไปกับฉัน ดีที่สุดนายอยู่ห่างฉันไกลๆ หน่อย”
“หือ?” หยางเวยตอบสนองไม่ทันในชั่วขณะนั้น
ไม่นานเขาก็สังเกตเห็นกลางโถงงานเลี้ยง สายตาของคนส่วนหนึ่ง
เหมือนเป็นนายท่านฉินและฉินเฟย ยังมีหวังลู่เหยาของทางตระกูลจาง นอกจากนี้ยังมีแขกส่วนหนึ่งที่เมื่อสักครู่เห็นหยางเฉินยั่วยุตระกูลหวังที่ด้านนอกฉากนั้นเข้า
หยางเวยตื่นตกใจยกใหญ่ พูดจาเหยียดหยาม “ไม่ใช่แค่พวกกระจอกของตระกูลเล็กๆ เท่านั้นเหรอ ไม่พอให้กลัวอะไร”
เห็นได้ชัดว่าเขาเข้าใจความหมายของหยางเฉินผิด แม้แต่เขายังรู้ว่าฉินเฟยเจ้าหมอนั่นเป็นพวกกระจอก หยางเฉินจะไม่รู้ได้อย่างไรกัน?
หยางเฉินย่อมไม่เปลืองน้ำลายมาอธิบาย ทำท่าทางสงบนิ่งนั่งอยู่ที่นั่น รอช่วงที่อลังการที่สุด คงถึงตาเขาเชือดไก่ให้ลิงดูแล้ว
หยางเฉินไม่ยอมสนใจคนเหล่านั้น แต่ยังมีคนอยากมายั่วยุเขาให้ได้
“คุณปู่ครับ ผมเข้าไปเจอหยางเฉินหน่อย” ไม่รอให้นายท่านฉินห้าม ฉินเฟยก็ไปที่โต๊ะนั้นของหยางเฉิน
“คุณชายหยาง นึกไม่ถึงว่าจะมาเจอคุณที่นี่ ผมของใช้ชาแทนเหล้า ขอเคารพคุณสักแก้ว” ฉินเฟยยิ้มกริ่มน้ำชาแก้วหนึ่งขึ้น เคารพไปทางหยางเวยด้วยตนเองก่อน
หยางเวยหัวเราะนิ่งๆ และไม่มีความหมายจะยกน้ำชาขึ้น เขาค้นหาความสัมพันธ์ของหยางเฉินและตระกูลฉินชัดเจนมาตั้งนานแล้ว
ถึงแม้เพียงแค่อยากจะใช้อิทธิพลของหยางเฉินมาทำให้ตระกูลหยางได้ผลประโยชน์มากที่สุด แต่เทียบกับตระกูลฉินแล้ว หยางเฉินสำคัญกว่า
ฉินเฟยเห็นหยางเวยไม่ยอมยกแก้วชาขึ้น จึงใช้รอยยิ้มมาปกปิดความกระอักกระอ่วน เคาะก้นแก้วบนโต๊ะไปเบาๆ จากนั้นยกแก้วชาขึ้นดื่มแล้ว
“หยางเฉิน นึกไม่ถึงลูกเขยสวะที่โดนตระกูลทอดทิ้งคนนี้ จะกล้ามาที่ตระกูลกวนด้วย?” ฉินเฟยพิงไปด้านหลังสักหน่อย ยังแสร้งทำเป็นยกแก้วชามาแกว่งเบาๆ ในสายตาเต็มไปด้วยเลศนัยและการหยอกเย้า
เขาจงใจพูดเสียงดัง เวลานี้สายตาของผู้คนมากมายจึงตกอยู่บนตัวของหยางเฉินแล้ว
“นั่นคือลูกหลานของตระกูลฉินเหรอ?” มีคนมองทางฉินเฟยแล้วพูดขึ้น
“น่าจะใช่ เมื่อกี้ฉันเห็นเขามาด้วยกันกับฉินคุนผู้นำตระกูลฉิน แต่ว่ากันว่าช่วงนี้ตระกูลฉินเกาะขาของตระกูลจางอยู่ ถึงมีสิทธิ์เข้ามาได้” และมีคนมองทางฉินเฟยแบบเยาะเย้ยพลางพูดขึ้น
“ฉันได้ยินเจ้าคนนั้นพูดว่าผู้ชายคนนั้นเป็นลูกเขยสวะที่ถูกตระกูลฉินไล่ออกมา คงไม่ใช่เมื่อห้าปีก่อน ลูกเขยแต่งเข้าบ้านผู้หญิงที่นอนกับหลานสาวของฉินคุนคนนั้นหรอกมั้ง?” ยังมีคนสังเกตถึงใจความสำคัญในคำพูดของฉินเฟย
หลังจากต่างถกเถียงกันไปทั่วทุกที่ ไม่นานทุกคนล้วนรู้ว่าหยางเฉินคือคนที่นอนกับฉินซีเมื่อห้าปีก่อน
โดยเฉพาะชื่อเสียงของฉินซีแพร่ไปทั่วทั้งเจียงโจวตั้งนานแล้ว และเรื่องเมื่อห้าปีก่อนจึงโด่งดังมาก ถูกเอาออกมากะทันหัน กลับกลายเป็นเรื่องคุยสนุกหลังมื้ออาหาร
“เป็นแค่ลูกเขยสวะที่ชื่อหยางเฉิน เข้ามาได้อย่างไรกันนะ?” ผู้คนมากมายสงสัยอย่างมาก
โดยเฉพาะชื่อเสียงฉาวโฉ่ของหยางเฉินแพร่ไปไกล พวกเขาเพียงรู้ว่าหยางเฉินเป็นพระเอกเมื่อห้าปีก่อน
พวกเขาย่อมไม่รู้ว่าหยางเฉินแย่งบัตรเชิญมาจากในมือของหวังเจี้ยน เดิมทีคิดจะพากวนเสว่เฟิงมาคิดบัญชีโดยตรง แต่ตอนที่รู้ว่าที่นี่จัดงานเลี้ยงวันเกิด หยางเฉินยังอยากจะเปลี่ยนแผนการสักหน่อย
หลังจากที่เขากลับมาเจียงโจว ทำตัวธรรมดาเกินไป ดังนั้นผู้คนมากมายล้วนเห็นเขาเป็นพวกอ่อนแอ อยากบีบก็บีบ เชือดไก่ให้ลิงดู จึงเป็นวิธีดีที่สุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...
รอข้ามปี...