ตอนนี้คุณตู้กลับบอกว่ามียอดฝีมือแดนเทพปรากฏตัวขึ้นในเมืองเยี่ยนตู อาจเป็นไปได้ว่ากษัตริย์เซวกำลังรู้สึกช็อก
“คุณกำลังบอกว่า คนหนุ่มอายุยังไม่ถึงสามสิบที่ผมให้คุณไปลองประมือกับเขาเป็นยอดฝีมือแดนเทพงั้นหรือ?”
กษัตริย์เซวถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
“เมื่ออยู่ในกำมือของเขา ผมไม่มีกำลังตอบโต้เลย!”
คุณตู้พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “นอกจากนี้ เขายังขอให้ผมมาบอกคุณว่า เขาไม่ได้ตั้งใจจะยื่นมือเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการต่อสู้แย่งชิงเมืองเยี่ยนตู แต่ถ้าตระกูลเซวคิดจะยั่วยุเขา ก็อย่าหาว่าเขาไม่เกรงใจ!”
คำตอบประโยคนี้ชัดเจนเพียงพอแล้ว
กษัตริย์เซวนิ่งเงียบไปหนึ่งนาที ก่อนจะเอ่ยปากขึ้นในทันใด “คุณกลับมาเถอะ!”
ในเวลาเดียวกัน หยางเฉินได้เดินออกจากร้านอาหารไปแล้ว
เหตุผลที่เขาต้องการแสดงความแข็งแกร่งต่อหน้าคุณตู้ก็เพื่อการข่มขู่ตระกูลเซว
ไม่อย่างนั้นถ้าคุณตู้มาในวันนี้ พรุ่งนี้ก็จะมีคุณหม่าหรือคุณหวังมาอีก
เช้าวันรุ่งขึ้น หยางเฉินมาที่เยี่ยนเฉินกรุ๊ปตรงเวลา
ไม่นานเฉียนเปียวก็มาถึง
“พี่เฉิน ผมจัดการทุกอย่างที่คุณสั่งเรียบร้อยแล้ว เชื่อว่างานแต่งงานของหม่าชาวในวันพรุ่งนี้จะสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งเมืองเยี่ยนตูแน่นอน”
เฉียนเปียวกล่าว
หยางเฉินพยักหน้าเล็กน้อย “ช่วงนี้คุณเหนื่อยหน่อยนะ!”
“พี่เฉิน คุณไม่ต้องเกรงใจ!”
รอยยิ้มที่หายากปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเฉียนเปียว จากนั้นเขาก็หยิบซองจดหมายออกมาแล้วยื่นให้หยางเฉิน “พี่เฉิน นี่คือคนที่คุณให้ผมตามหา คุณลองดูรูปถ่ายพวกนี้ก่อน”
ย้อนกลับไปในตอนนั้น หม่าชาวรู้สึกเสียใจเสมอกับการที่ต้องพลัดพรากจากน้องสาว
นับตั้งแต่ออกมาจากชายแดนเหนือ หม่าชาวได้ตามหาน้องสาวของเขามาโดยตลอด และหยางเฉินก็ช่วยส่งคนไปตามหาด้วย โชคดีที่ในที่สุดก็หาน้องสาวของหม่าชาวได้พบก่อนงานแต่งงานของหม่าชาว
นี่เป็นของขวัญที่พิเศษที่สุดที่หยางเฉินมอบให้กับหม่าชาว
เขาแทบรอไม่ไหวที่จะได้เห็นงานแต่งงานในวันพรุ่งนี้ หม่าชาวจะตื่นเต้นแค่ไหนเมื่อได้เห็นน้องสาวของเขา
เขาเปิดซองจดหมายและหยิบรูปถ่ายออกมาหลายรูป
“นี่คือรูปถ่ายของน้องสาวหม่าชาวในทุกช่วงเวลา ภาพสุดท้ายคือชุดทำงานในช่วงนี้ของเธอ”
เฉียนเปียวอธิบายให้เขาฟัง
หยางเฉินยิ่งเห็นก็ยิ่งรู้สึกคุ้นตา จนกระทั่งเมื่อเขาได้เห็นภาพสุดท้าย ก็รู้สึกประหลาดใจทันที “คุณจะบอกว่า ผู้หญิงคนนี้เป็นน้องสาวแท้ๆ ของหม่าชาวงั้นเหรอ?”
หยางเฉินรู้สึกตื่นเต้น ถือรูปถ่ายพร้อมกับถามเฉียนเปียว
เฉียนเปียวไม่รู้ว่าทำไมหยางเฉินถึงได้ตื่นเต้นขนาดนี้ เขาจึงพยักหน้าและพูดว่า “พี่เฉิน ยืนยันแน่นอน ผมแอบเอาเส้นผมของหม่าชาวไปตรวจ DNA กับน้องสาวของเขาแล้ว”
พูดจบเขาก็รีบหยิบรายงานการพิสูจน์อัตลักษณ์อีกฉบับออกมา
หยางเฉินอ่านรายงานอย่างเร่งรีบ เมื่อเขาเห็นข้อความช่วงสุดท้ายบนรายงานพิสูจน์อัตลักษณ์ เขาก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา
เพราะในรายงานเขียนไว้ว่า “ผ่านการพิสูจน์อัตลักษณ์จากศูนย์แล้ว คุณหม่าชาวและคุณหมีเสวี่ยมีความสัมพันธ์เป็นพี่น้องกันแท้ๆ”
“ฮ่าฮ่า ดีมาก!”
หยางเฉินระเบิดเสียงหัวเราะลั่น
เฉียนเปียวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นหยางเฉินดีใจมากขนาดนี้
เหตุผลที่หยางเฉินดีใจไม่ใช่แค่ตามหาน้องสาวแท้ๆ ให้หม่าชาวได้สำเร็จ แต่ยังเป็นเพราะเขารู้ว่าน้องสาวแท้ๆ ของหม่าชาวเป็นเด็กสาวที่ฉลาดและเป็นคนดี
เมื่อวานนี้เขากับฉินยีไปที่ฝ่ายขายของเมืองในฝันเพื่อซื้อเรือนหอให้หม่าชาว หมีเสวี่ยที่มาดูแลพวกเขาก็คือน้องสาวแท้ๆ ของหม่าชาว
“พี่เฉิน แม้ว่าเด็กสาวคนนี้จะเป็นน้องสาวแท้ๆ ของหม่าชาว แต่ผมได้ติดต่อกับเธอแล้ว เธอต่อต้านการตามหาญาติในครั้งนี้มาก”
เฉียนเปียวพูดขึ้นในทันใด
“เดี๋ยวผมจะไปคุยกับเธอ พรุ่งนี้เป็นวันแต่งงานของหม่าชาว ถ้าไม่มีน้อง งานแต่งงานนี้จะไม่สมบูรณ์แบบ”
หยางเฉินพูดโดยไม่ต้องคิด
ขณะที่เขากำลังจะไป จู่ๆ เสียงโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น
เขาหยิบขึ้นมาดูและพบว่าหม่าชาวโทรเข้ามา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...