The king of War นิยาย บท 908

สรุปบท บทที่ 908 กวนซินโมโห: The king of War

สรุปเนื้อหา บทที่ 908 กวนซินโมโห – The king of War โดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง

บท บทที่ 908 กวนซินโมโห ของ The king of War ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

“พ่อ หนูจะฆ่าเขา เขาต้องตายภายในวันนี้! ถ้าเขาไม่ตาย หนูคงไม่คลายความแค้นในใจแน่!”

กวนซินพูดด้วยตาแดงก่ำ

กวนหงเหว่ยรีบพูดว่า “แกอย่าเพิ่งใจร้อน ใจเย็นก่อน เรามาคิดวิธีแก้ไขที่สมบูรณ์แบบกัน”

พูดเกลี้ยกล่อมอยู่นาน อารมณ์ของกวนซินจึงสงบลง แต่ความโมโหบนใบหน้ายังคงอยู่

“แกก็รู้ว่าพละกำลังของหยางเฉินแข็งแกร่งมาก ในเมืองเยี่ยนตู พละกำลังของเขานับว่าเป็นคนที่สุดยอดคนหนึ่ง”

กวนหงเหว่ยเห็นลูกสาวใจเย็นลง จึงพูดว่า “อยากฆ่าเขา เว้นเสียแต่ผู้แข็งแกร่งแดนราชาลงมือ ไม่งั้นคงไม่มีความหวังใด”

“มีเพียงแค่ตอนที่เราตกอยู่ในอันตราย ผู้แข็งแกร่งแดนราชาที่ปู่ส่งมาคุ้มครองเรา ถึงจะลงมือ”

กวนซินกัดฟันพูด “ถ้าพูดให้ถูก ต้องบอกว่าตอนที่ชีวิตพ่อตกอยู่ในอันตรายต่างหาก หนูเป็นแค่ลูกสาว ยังไม่มีสิทธิ์นั้น”

กวนหงเหว่ยเลิกคิ้วขึ้น “แกไม่ได้อยากให้ฉันไปยั่วยุหยางเฉิน บีบบังคับให้เขาลงมือกับฉันใช่ไหม”

ถึงเขาอยากจัดการแทนลูกสาวมาก แต่ก็ไม่กล้าเอาชีวิตของตัวเองไปเสี่ยง

แม้มีผู้แข็งแกร่งแดนราชาคอยคุ้มครองเงียบๆ แต่จากพละกำลังของหยางเฉิน ผู้แข็งแกร่งแดนราชาอยากช่วยเขาก่อนหยางเฉินจะลงมือ ก็ไม่สามารถรับรองได้ร้อยเปอร์เซ็นต์

กวนซินส่ายหน้า แล้วพูดด้วยสีหน้าร้ายกาจ “ลงมือกับหยางเฉินไม่ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะลงมือกับคนข้างกายเขาไม่ได้!”

“แกจะลงมือกับคนข้างกายเขาเหรอ”

กวนหงเหว่ยตกใจจนสะดุ้งโหยง แล้วรีบพูดว่า “แกอย่าผลีผลาม ฉันเคยสืบเรื่องหยางเฉิน พบว่าคนข้างกายเขาเป็นสิ่งที่เขาหวงแหนมาก ถ้ากล้าแตะต้องคนข้างกายเขา ถึงผู้แข็งแกร่งแดนราชาออกโรง เราคงมีความตายเพียงทางเดียวเท่านั้น”

“พ่อกลายเป็นคนขี้ขลาดขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร”

กวนซินพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “อย่าลืมสิ พ่อเป็นทายาทของตระกูลคิงกวนนะ ต่อไปอาจเป็นคนที่จะสืบทอดตำแหน่งของกษัตริย์กวน แค่คนของเมืองเยี่ยนตูเพียงคนเดียว พ่อก็กลัวแล้วเหรอ”

“แต่ว่า......”

กวนหงเหว่ยยังคงเป็นกังวล

เขายังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกกวนซินพูดขัด “พ่อไม่ต้องพูดแต่แล้ว จากความสัมพันธ์ของเรากับหยางเฉินในตอนนี้ เป็นได้เพียงศัตรูเท่านั้น”

“ตอนนี้ เขาเป็นคนที่มีโอกาสจะได้เป็นคิงแห่งเยี่ยนตูมากที่สุด ถ้ารอให้เขาได้เป็นคิงแห่งเยี่ยนตู ก็จะเป็นผู้สืบทอดตี้ชุน”

“ถ้าตี้ชุนกำเนิดขึ้น ตระกูลคิงกวนของเรา อย่าว่าแต่ควบคุมตี้ชุนเลย กลัวว่าจะกลายเป็นศัตรูของตี้ชุนทันที”

เมื่อได้ยินคำพูดของกวนซิน กวนหงเหว่ยมีสีหน้าหนักใจทันที

ถึงเขานิสัยก้าวร้าว แต่ยังไงก็เป็นลูกชายของกษัตริย์กวน โอรสที่แท้จริงของตระกูล ก็ไม่ใช่คนไร้สมอง

เห็นกวนหงเหว่ยมีสีหน้าลังเล กวนซินจึงรีบพูดว่า “จากที่หนูรู้มา ตระกูลกษัตริย์เซวยก ซินเฉ่ากรุ๊ปมูลค่าทางการตลาดห้าหมื่นกว่าล้านให้หยางเฉินแล้ว”

“อีกทั้งไป๋ชิ่งแห่งตระกูลคิงไป๋ วันนี้ก็ไปร่วมงานมงคลของหม่าชาว พี่น้องที่หยางเฉินรักมาก อีกทั้งยังมอบเงินกว่าหมื่นล้านให้หม่าชาว ต่อหน้าทุกคนด้วย”

“ถึงจะโดนปฏิเสธ แต่อย่างน้อยก็ได้ทำให้หยางเฉินรู้สึกดี”

“ถ้าตระกูลกษัตริย์เซวและตระกูลคิงไป๋ แอบสนับสนุนเงียบๆ หยางเฉินจะกลายเป็นคิงแห่งเยี่ยนตูได้ง่ายมาก เมื่อถึงตอนนั้นเราจะมาเสียใจ ก็สายไปแล้ว”

“ถ้าอยากให้ตระกูลคิงกวน ควบคุมเมืองเยี่ยนตู ต้องทำให้หยางเฉินตาย แค่เขาตาย เราจะมีโอกาสสนับสนุนให้คนอื่น กลายเป็นคิงแห่งเยี่ยนตู”

“ถ้าสุดท้ายคนที่เราสนับสนุน ได้เป็นคิงแห่งเยี่ยนตู ปู่ต้องไม่ลังเลอะไรอีกแน่นอน และมอบตำแหน่งผู้สืบทอดตระกูลคิงกวน ให้พ่ออย่างแน่นอน”

ถึงแม้กวนซินกำลังโน้มน้าวให้กวนหงเหว่ยจัดการหยางเฉิน แต่สิ่งที่พูดล้วนเป็นเรื่องจริง

กวนหงเหว่ยเริ่มมีสีหน้าลังเลน้อยลง ในที่สุดก็ตัดสินใจได้ เขาตบโต๊ะแล้วพูดว่า “แกพูดถูก ตอนนี้แค่หยางเฉินตาย เราถึงจะมีโอกาสควบคุมเมืองเยี่ยนตู”

จู่ๆ กวนซินดีใจมาก “มีพ่อเข้ามาแทรกแซง ถึงหยางเฉินอยากรอด ก็คงรอดยาก”

“ว่าแผนของแกมา!”

“เขาไม่ได้โง่ ต้องรู้แน่นอนว่าน้องสาวตัวเองตายเพราะอะไร เพราะพี่ชายที่ดีอย่างหยางเฉิน คิดบัญชีฉัน ดังนั้นเลยโดนฉันแก้แค้นไปที่เขา”

“พ่อว่าถ้าน้องสาวตัวเองตาย เขายังจะเห็นแก่ความสันพันธ์ที่เคยเป็นพี่น้องหรือเปล่า”

เมื่อกวนซินอธิบายเช่นนี้ กวนหงเหว่ยเข้าใจทันที “ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง! สุดยอด! วิธีนี้สุดยอดมาก!”

หยางเฉินคงไม่รู้ว่า ความอาฆาตที่กวนซินมีต่อตัวเองมันฝังลึกขนาดนี้ และคงคิดไม่ถึงว่าจะมีคนกล้าพุ่งเป้าไปที่หม่าชาว

หม่าชาวยิ่งคิดไม่ถึงเรื่องพวกนี้ ถึงเขาเป็นน้องชายคนสนิทที่สุดของหยางเฉิน อีกทั้งยังเป็นอาวุธอันแหลมคมในมือหยางเฉิน มีหยางเฉินอยู่ เขาจึงไม่ได้เป็นจุดสนใจมาก

ถึงเป็นเช่นนี้ แต่ก็ยังมีคนเพ่งเล็งเขา

ในเวลานี้ ชั้นบนสุดของสำนักงานใหญ่เยี่ยนเฉินกรุ๊ป ที่ย้ายมายังเมืองจิ่วโจว

หลังกลับมาจากงานแต่งของหม่าชาว เขาไม่มีกะจิตกะใจทำงานสักนิด อารมณ์หงุดหงิดอย่างอธิบายไม่ถูก

เขาไม่ได้มีงานอะไรมากมาย มีเพียงเอกสารที่เขาต้องเซ็นไม่กี่ฉบับ เขาแค่อ่านผ่านตา และเซ็นชื่อตัวเองเท่านั้น

งานง่ายขนาดนี้ เขาก็ยังสงบจิตสงบใจไม่ได้ รู้สึกถึงลางสังหรณ์ไม่ดีตลอด

“ประธาน คุณเป็นอะไรไปครับ”

ลั่วปิงดูออกว่าหยางเฉินผิดปกติ จึงถามอย่างกังวล “คุณไม่สบายหรือเปล่า”

เมื่อกี้เขาเคาะประตูอยู่นาน กว่าหยางเฉินจะบอกให้เขาเข้ามา

หยางเฉินส่ายหน้า “ฉันไม่เป็นไร นายมาหาฉัน มีเรื่องอื่นหรือเปล่า”

ลั่วปิงรีบส่ายหน้า พูดอย่างขอโทษ “ขอโทษครับ เมื่อกี้ผมทำสมุดโน้ตหล่นไว้ที่นี่ ตอนนี้จะใช้น่ะครับ”

หลังหยิบสมุดโน้ต ลั่วปิงจึงเดินออกไปอย่างระแวดระวัง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War