ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! นิยาย บท 267

บทที่267ช็อกกันทุกคน

“อะไรนะ?”

คนในเคาน์เตอร์ และหลี่เยว่ได้ฟัง ต่างพากันตกตะลึง

จากนั้นสิ่งที่ตามมาคือ เสียงหัวเราะที่ดังลั่นเหมือนฟ้าผ่า

“ฮ่าฮ่าฮ่าจะบ้าตาย น้องชาย เรื่องนี้คงไม่ใช่จะมาขี้โม้อย่างนี้!”

เถ้าแก่ลี่กุมท้องหัวเราะ

“คนนี้สมองมีปัญหาหรือเปล่า?”

“ใช่แล้ว ยังจะมาซื้อสองตึก ฉันนึกว่าฟังผิดแล้วล่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า!”

“เรื่องนี้……ต้องการเรียกยามเข้ามาไหม!”

พนักงานแผนกต้อนรับต่างพากันหัวเราะจนยืนไม่นิ่ง

ตอนนี้ผู้จัดการเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “เรื่องอะไรกัน? ดูพวกเธอซิ ทำไมทำบุคลิกอย่างนี้?”

หลี่เยว่หัวเราะจนเกือบกัดริมฝีปากตัวเองเป็นแผล “แต่ว่า…… แต่ว่าผู้จัดการ คนที่ชื่อเฉินเกอคนนี้พูด เขา……เขาจะซื้อ

คอนโดสองตึก ฮ่าฮ่าฮ่า!”

หลี่เยว่หัวเราะจนน้ำตาไหล

ผู้จัดการมีคุณภาพที่ดีกว่าพวกพนักงานขายพวกนี้

ขณะนั้นมองเฉินเกอด้วยความตั้งใจ จากนั้นก็ยืดตัวตรง ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความมั่นใจเดินมาหาเฉินเกอ

“คุณเฉิน……พู่!”ทันทีที่พูด ผู้จัดการอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

เพราะอยู่ในสายตาเขา คำพูดนี้เป็นเรื่องตลก

คุณภาพในการทำงานของพวกเขาไม่ว่าลูกค้าจะเป็นยังไง ก็ห้ามหัวเราะ นอกจาก……อดใจไม่ไหวจริงๆ!

“หัวเราะ?”

เฉินเกอจับจมูกเบาๆ

คนกลุ่มนี้ มันน่าโมโหจริงๆ แน่นอน วิธีง่ายๆที่จะให้พวกเขาหยุดหัวเราะ

“ทั้งตึกราคาเท่าไหร่? คำนวณออกมาได้หรือยัง?”

เฉินเกอถามจางเหมิงด้วยใบหน้าเย็นชา

“นี่ฉันรู้ ทั้งตึกมีหนึ่งร้อยห้อง หลังจากที่ลดราคาแล้วเหลือ หกสี่ห้าล้าน สองตึก ก็หนึ่งร้อย

สามสิบล้านค่ะคุณ!”

จางเหมิงไม่ได้หัวเราะ

แต่เฉินเกอคิดว่า ครึ่งหนึ่งนำมาดัดแปลงเป็นคอนโดพนักงาน อีกครึ่งหนึ่งดัดแปลงเป็นคอนโดธรรมดาแล้วปล่อยเช่า

ออกไป อย่างนี้ก็ดีเหมือนกัน

“ถ้าอย่างนั้นก็ดี ฉันให้คนส่งเงินมา ตอนนี้พวกเราก็มาเซ็นต์สัญญากันได้แล้ว!”

เฉินเกอพูดจบก็โทรศัพท์ทันที “ส่งเงินมาหนึ่งร้อยสามสิบล้านมาที่**สำนักงานขายบ้าน เอาเงินสด!”

จากนั้น เฉินเกอพิงเคาน์เตอร์ด้วยใบหน้าเย็นชา มองดูคนกลุ่มนี้กุมท้องหัวเราะ ไม่รู้อีกสักพักคนกลุ่มนี้จะยัง

หัวเราะออกหรือเปล่า

“คุณผู้ชาย ขอให้ท่านใจเย็น เพราะสัญญานี้จะเซ็นต์แบบสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้!”

ผู้จัดการควบคุมอารมณ์เล็กน้อย ยิ้มแล้วพูด

เฉินเกอไม่ได้ตอบ

ยี่สิบนาทีต่อมา

รถบรรทุกคันหนึ่งขับรถถอยหลังไปยังหน้าประตูสำนักงานขาย

ยามเข้ามาขวางไม่อยู่

“อ๊ะ? นี่เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

คนทั้งหมดในห้องโถงที่มาซื้อคอนโดต่างพากันตกตะลึง

ต่างพากันเข้ามาดู

สำหรับผู้จัดการ ก็เดินไปดูที่ประตู นี่หมายความว่าไง

เวลานี้ เสียงโทรศัพท์เฉินเกอดังขึ้นมา

เป็นลูกน้องที่โทรมา

“คุณชายเฉิน เงินส่งมาถึงหน้าประตูแล้ว เป็นเงินสดทั้งหมด ขอถามให้พวกผมขนเงินเข้าไปให้ หรือให้พวกเขาออกมาขน

เอง?”

ลูกน้องถามตรงๆ

เพราะเฉินเกอมีน้ำเสียงไม่ค่อยดีตอนที่โทรมาให้ส่งเงินสดมาให้ ลูกน้องคนนี้ก็เดาออกแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น

เพราะฉะนั้นจงใจทำให้เรื่องสนุกขึ้น

“ขนอะไร!”เฉินเกออีกข้างหนึ่งรับสายโทรศัพท์ อีกข้างหนึ่งก็กำลังเซ็นต์สัญญา แล้วโยนปากกา “มาที่หน้าประตู!”

“ได้ครับคุณชายเฉิน”

หลังจากคนในโทรศัพท์พูดจบ

ก็เห็นท้ายรถบรรทุกเปิดออก ข้างใน เต็มไปด้วยของมีค่า เป็นเงินเต็มไปหมด

จากนั้นตัวรถค่อยๆยกสูงขึ้น สุดท้าย เงินในรถทั้งหมด เทลงตรงหน้าสำนักงานขาย

“โอ้พระเจ้า!”

ผู้จัดการตกใจจนเข่าทรุด

สำหรับหลี่เยว่ เอกสารในมือก็หล่นลงไป

สำหรับพนักงานในเคาน์เตอร์ ยังมีคนที่มาซื้อบ้าน ต่างพากันเงียบ เบิกตากว้างมองภาพเหตุการณ์ข้างหน้า

ใครเนี่ย? นี่เวอร์เกินไปหรือเปล่า?

ในเวลานี้ มีชายใส่ชุดสูทลงจากรถ ได้เดินเหยียบกองเงินที่หน้าประตูเข้ามา

เดินมาถึงข้างกายเฉินเกอแล้วกระซิบข้างหู “คุณชายเฉิน ทุกอย่างจัดการเรียบร้อย!”

“อืมอืม ใช้ได้ หลังจากนี้ต่อไปก็เป็นหน้าที่พวกนาย จุดที่ตั้งของตึกฉันเลือกเรียบร้อยแล้ว นายกับคนที่ชื่อจางเหมิงคนนี้รับ

มอบหมายงานต่อไป!

เฉินเกอตบไหล่ของจางเหมิง

จางเหมิงตกใจจนกลืนน้ำลาย

สองตึก ซื้อจริงเหรอ ค่าคอมมิชชั่นของตัวเองในครั้งนี้ จะได้เงินเท่าไหร่?

โอ้พระเจ้า นี่ตัวเองได้ชัยชนะโดยตรงเลยเหรอ

จางเหมิงรู้สึกว่าตัวเองเหมือนอยู่ในสวรรค์

สำหรับหลี่เยว่ ตอนนี้นอกจากกลัวแล้ว ยังเต็มไปด้วยความเสียดาย

เขาซื้อจริงเหรอ

ถ้าตอนแรกตัวเองไม่ทำกิริยาท่าทางอย่างนั้น ทั้งหมดนี้ คงจะเป็นค่าคอมมิชชั่นของฉันเอง

ตัวเองยังจะมาขายบ้าบออะไรอีก!

เมื่อกี้ ยี่สิบนาทีที่แล้ว ฉันเพิ่งเซ็นต์สัญญาโอนให้คนอื่นรับผิดชอบ……

ตอนนี้สีหน้าของหลี่เยว่ซีดเซียว

ไม่ต้องพูดถึงกลุ่มพนักงานที่ไม่แยแสเฉินเกอ

สำหรับเถ้าแก่ลี่กับเถ้าแก่เนี้ยลี่ ตกใจจนอึ้งไปเลย

โอ้ย!

สำหรับเฉอเกอนั้น ตอนแรกก็อยากซื้อแบบเงียบๆ ถึงแม้หลี่เยว่จะพูดในสิ่งที่ทำให้ไม่พอใจ เฉินเกอก็ไม่คิดจะมาทำให้

เธอหน้าแตก

แต่คนกลุ่มนี้ก็เกินไป

เห็นว่าฉันด้อยขนาดนั้นเลยเหรอ ถึงหยอกล้อกันไปมาอย่างนี้!

แต่เมื่อเห็นคนพวกนี้ต่างพากันตกตะลึงมองตัวเอง เฉินเกอก็รู้สึกเกรงใจ

ก็เลยอยากรีบเดินจากไป

ถ้ามีคนรู้จักมาเห็นนี่คงอับอายแย่

แต่พอหันตัวกลับไป

เฉินเกอก็ตกตะลึง

เพราะในห้องวีไอพี มีคนยืนอยู่หลายคน

อีกทั้งเป็นคนรู้จักด้วย

หลี่ชือหาน เฉินหลินหลี่หมิงเยว่และหลี่ห้าว ยังมีเพื่อนผู้หญิงมัธยมปลายหลายคนก็อยู่

พวกเธอตอนนี้ตกตะลึง สีหน้าขาวซีด

“เฉินเกอ……นายนายนาย!”

เสียงของเฉินหลินสั่นไปหมด

เพราะคำพูดและการกระทำของเฉินเกอ พวกเขาเห็นหมดทุกอย่าง

โดยเฉพาะที่เฉินเกอบอกจะซื้อสองตึก ยังโทรหาคนให้เอาเงินมาให้

ที่จริงพวกเธอก็พากันหัวเราะเหมือนกัน

แต่ว่า

สิ่งที่เกิดขึ้น ไม่มีสิ่งไหนน่าตกตะลึงเท่าเรื่องนี้

เพราะพวกเธอรู้จักเฉินเกอมาหลายปี ไม่เคยเห็นเฉินเกอยิ่งใหญ่ขนาดนี้มาก่อน

รู้สึกเหมือนเป็นคนแปลกหน้าไปเลย

เพี๊ยะ!

โทรศัทพ์ของหลี่ห้าวหลุดมือหล่นลงพื้น

หลี่ชือหานก็หายใจหอบ เหมือนเจ็บปวดในหัวใจ

ถึงแม้จะจินตนาการมาแล้วหลายครั้ง และสิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็เกิดขึ้นแล้ว

หลี่ชือหานหนอหลี่ชือหาน เธอทำอย่างนี้กับเฉินเกอ แล้วต่อไปถ้าเขาเก่งกาจขึ้นมา เธอจะมาเสียใจภายหลังหรือเปล่า?

เป็นไปได้ไง เฉินเกออย่างมากก็แค่ถูกล๊อตเตอรี่ หรือรู้จักใครไม่กี่คน จะมีอะไรดี คงเทียบติงห้าวไม่ได้!

สมัยก่อน หลี่ชือหานก็จะปลอบใจตัวเองอยู่อย่างนี้

แต่ตอนนี้ ทุกคำตอบของเธอเหมือนกระจก โดนก้อนหินที่ตกลงมาจากที่สูง กระทบใส่จนแตกเป็นชิ้นๆ

“จะบ้าตาย พวกเธออยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”

ตอนแรกเฉินเกอเอามือล้วงกระเป๋าข้างหนึ่ง ตอนนี้รู้สึกเขินอายเลยดึงมือออกมา

ใช่แล้ว เมื่อกี้เฉินเกอเป็นเพราะโมโหจัดเลยเสแสร้ง

แต่ตอนนี้ ตัวเองไม่จำเป็นต้องเสแสร้งต่อหน้าเฉินหลินแล้ว

ที่จริงเฉินเกอก็ไม่ชอบการเสแสร้ง……

พี่เฉิน พวกเราอยู่ตรงนี้ตลอด!” หลี่ห้าวกลืนน้ำลายตัวเอง รีบเปลี่ยนเป็นเรียกพี่ทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!