บทที่ 459 ตระกูลเว่ย แห่งภาคตะวันตกเฉียงใต้
“ศิษย์พี่?”
ทุกคนที่อยู่ในงาน หลังจากได้ยินแล้ว ต่างก็อ้าปากค้าง
อาจารย์โจ๋วจงทาวคนเป็นๆ กลับเรียกชายหนุ่มคนนี้ว่าศิษย์พี่?
คนในบ้านตระกูลหลิวยิ่งอึ้งเข้าไปใหญ่
แม้กระทั่งหม่าเสี่ยวหนานก็มีความตกใจเล็กน้อยแล้ว
“อืมอืม วันนี้ที่มา ไม่ได้มีความหมายอื่น แค่อยากมาขอยืมสถานที่ของนาย!”
เฉินเกอจะตอบกลับก็ไม่ใช่ จะไม่ตอบกลับก็ไม่ใช่ ขณะนั้นมีความพูดไม่ถูกเล็กน้อย
“ครับครับครับ เชิญศิษย์พี่ครับ!”
สีหน้าของโจ๋วจงทาวน้อมรับด้วยความเคารพ
ตระกูลเว่ยที่อยู่ข้างๆ ก็มองหน้ากัน มีความตกใจไม่น้อย
ชายหนุ่มคนนี้ ไม่ธรรมดาจริงๆ
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง
สถานที่หนึ่งทางนอกห้อง
หม่าเสี่ยวหนานกำลังเดินไปเดินมาอยู่ทางข้างนอก
เหงื่อไหลตลอดเวลา
ส่วนคนที่รออยู่กับหม่าเสี่ยวหนาน คือคนในตระกูลเว่ยอีกสี่คน
“เฮอะ ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย ไอ้หนุ่มนั่น จะสามารถรักษาโรคได้?”
เว่ยชิงชูกอดอก แล้วพูดออกมา
ใช่แล้ว คนในวัยเดียวกัน ตัวเองถูกเฉินเกอดูถูกก่อน แล้วตอนนี้ล่ะ เฉินเกอยังมีความสามารถด้านอื่นอีก
ทำเอาเหมือนดูถูกเว่ยชิงชูมากๆ และทำร้ายศักดิ์ศรีของเว่ยชิงชูไปหนักมาก
“หุบปาก!”
ขณะนี้ท่านปู่ตระกูลเว่ยพูดด้วยความเย็นชา
ชายหนุ่มเมื่อกี้ พูดว่าโรคของตัวเองนั้นอาจารย์หมอโจ๋วไม่สามารถรักษาได้ ตอนแรกท่านปู่ตระกูลเว่ยเว่ยโป๋ ไม่ค่อยเชื่อ คิดว่าเป็นเพราะเฉินเกอไม่มีมารยาท
แต่ว่า แม้กระทั่งอาจารย์หมอโจ๋วยังเรียกเฉินเกอว่าศิษย์พี่ ถึงได้ทำให้เว่ยโป๋กลัวขึ้นมาจริงๆ
ขณะนั้น ก็นั่งรออยู่ที่ข้างนอกด้วยความเคารพ
และในขณะนี้ ประตูถูกเปิดออก
“เสี่ยวเกอ แม่ของฉันเป็นยังไงบ้างแล้ว?”
พอเฉินเกอออกมา หม่าเสี่ยวหนานก็รีบวิ่งขึ้นไปถาม
“เริ่มดีขึ้นแล้ว ทานยาสมุนไพรตามนี้สามเดือน ก็สามารถดีขึ้นแบบเต็มตัวแล้ว”
เฉินเกอยิ้มแล้วพูด
“ห๊ะ! เสี่ยวเกอ นายไปเรียนรักษาโรคมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?”
เสี่ยวหนานได้ยินแล้ว ทั้งตกใจทั้งดีใจ
ขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าเฉินเกอในตอนนี้ แปลกหน้ามากจริงๆ
“พูดแล้วยาว ถ้าหากหลังจากนี้มีโอกาสฉันค่อยอธิบายให้เธอฟังนะ เข้าไปดูคุณน้าก่อนเถอะ!”
เฉินเกอพูด
และในขณะนี้โจ๋วจงทาวจับถุงเข็มไว้ เดินตามหลังของเฉินเกอออกมา
ดูออกอย่างชัดเจนเลย การรักษาครั้งนี้ เฉินเกอเป็นตัวหลัก โจ๋วจงทาวเป็นแค่ผู้ช่วยอยู่ข้างๆ
“ศิษย์พี่ เชิญครับ!”
โจ๋วจงทาวพูดด้วยความเคารพ
เฉินเกอมองเขาไปหนึ่งที มีความรู้สึกว่าทำอะไรถูกจริงๆ
พอพูดขึ้นมาแล้ว ตัวเองกับโจ๋วจงทาวก็ไม่ได้รู้จักกัน
นั่นเป็นห้าเดือนก่อนหน้านี้
ตัวเองฝึกทักษะต่างๆ กับลุงฉิน ทักษะทางด้านแพทย์ ด้านวิทยายุทธต่างก็สืบทอดให้เฉินเกอ
ยังให้หนังสือเล่มหนึ่งกับเฉินเกอมาท่องจำ
เฉินเกอเป็นคนที่เรียนรู้เร็วอยู่แล้ว ฉะนั้นในเวลาสั้นๆจะจดจำหนังสือเล่มหนึ่งก็ไม่ยาก
แต่ว่าพึ่งหนึ่งเดือน ถึงแม้ว่าเฉินเกอจะจำเนื้อหาเกี่ยวกับทางด้านการแพทย์ข้างในได้หมดแล้ว แต่ว่าพื้นฐานก็ยังอ่อนอยู่
และในช่วงนั้น โจ๋วจงทาวก็มาขอร้องลุงฉิน
เหมือนว่าก่อนหน้านี้ลุงฉินกับโจ๋วจงทาวจะเคยผ่านเรื่องบางอย่างมาด้วยกัน เมื่อก่อนเคยสอนสิ่งของทักษะทางด้านการแพทย์ให้เขาเล็กน้อย
ครั้งนี้ ดูออกเลยว่าโจ๋วจงทาวอยากจะมาศึกษาเพิ่ม
เขามีความพากเพียรมากและยืนหยัดมาก คุกเข่าอยู่ตรงหน้าบ้านของลุงฉินหนึ่งวันหนึ่งคืน
จากนั้นลุงฉินทนไม่ได้แล้ว จึงให้เฉินเกอสอนเนื้อหาในหนังสือด้านการแพทย์ให้เขา
ขณะเดียวกัน ก็เพื่อที่จะให้เฉินเกอได้ฝึกฝนทักษะพื้นฐาน จะได้จับจุดในหนังสือด้านการแพทย์ได้ทั้งหมด
ฉะนั้น จึงอยู่ใกล้ชิดกับโจ๋วจงทาวมาหนึ่งเดือนเต็มๆ
ลุงฉินไม่ได้รับโจ๋วจงทาวเป็นลูกศิษย์
แต่ว่าโจ๋วจงทาวกลับเรียกเฉินเกอว่าศิษย์พี่มาโดยตลอด
ฉะนั้นเฉินเกอเองก็ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี
“คุณเฉิน อาจารย์หมอโจ๋ว ลำบากพวกคุณแล้ว!”
ขณะนี้เว่ยโป๋พูดแล้วทำท่าโค้งคำนับ
“เฮอะเฮอะๆ ท่านปู่เว่ย คำพูดเมื่อกี้ของศิษย์พี่ ท่านเองก็ชัดเจนแล้ว อาการของท่าน ฉันก็ดูให้ท่านแล้ว ฉันหมดความสามารถจริงๆ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!