บทที่473 ความโมโหของโม่ฉางคง
หลังจากที่แยกกันกับเว่ยชิงชูทางภาคตะวันตกเฉียงใต้เฉินเกอก็ให้เขาตามโจ๋วจงทาวไปที่ชายแดนทางตะวันตกเฉียงใต้ด้วย
ไม่ต้องมาคอยตามเขาอยู่
เนื่องจากว่าตอนนี้ตระกูลเว่ยนับว่าเป็นเหมือนฉากกำบังของตัวเองในตอนนี้นั่นเอง
และก็เป็นฉากกำบังเพียงหนึ่งเดียวด้วยเช่นกัน
ถ้าหากตระกูลเว่ยถูกเปิดเผยขึ้นมาอีก เรื่องที่ตัวเองฆ่าคนของตระกูลโม่ต่อเนื่องกันสี่คนที่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้นั้น คาดว่าถึงตอนนั้นก็คงจะถูกตระกูลโม่ตามตัวเสียจนตัวเองจะไม่มีที่ซ่อนตัวแล้วเสียด้วยซ้ำ
ถึงแม้ว่าจะฆ่าเขาไม่ได้ แต่อิทธิพลอำนาจของตระกูลโม่นั้นใหญ่โตมาก ตัวเองคิดอยากจะรับมือนั้น แทบจะไม่ต้องคิดเลย
ดังนั้น การเดินไปทุกๆก้าว เฉินเกอจึงจะต้องคิดให้รอบคอบและระมัดระวัง
หลังจากที่จัดการให้หยงหาวออกไปแล้วนั้น
เฉินเกอก็มุ่งหน้าตรงไปยังคฤหาสน์หยุนติ่งเมาท์เทน
ที่ภูเขาสูงเฉินเกอนอนอยู่บนต้นไม้ต้นใหญ่ต้นหนึ่ง เขาหลับตาลงเพื่อพักผ่อน
รอจนกระทั่งฟ้ามืดลง เฉินเกอถึงได้ลืมตาขึ้นมา
เวลานี้คฤหาสน์หยุนติ่งเมาท์เทนนั้นสว่างไปด้วยแสงไฟ
ตุบ!
เอากระเป๋าสะพายโยนลงไป
แล้วเฉินเกอก็กระโดดลงมาจากต้นไม้
เขาเปิดกระเป๋าสะพาย แล้วหยิบเอาเสื้อคลุมสีดำมีฮูดออกมา
เฉินเกอสวมเสื้อคลุมนั้น และปิดบังใบหน้าของตัวเอง
หลังจากนั้นก็เดินไปยังคฤหาสน์หยุนติ่งเมาท์เทน
“เป็นอย่างไรบ้าง? คนที่ส่งไปที่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ว่าอย่างไรบ้าง?”
ชายหนุ่มคนหนึ่ง นอนตะแคงอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก
ด้านข้าง ลูกน้องสองสามคนกำลังยืนเอามือไขว้หลังอยู่
ส่วนด้านหน้านั้น คนที่ดูมีสีหน้าท่าทางที่รีบร้อนยืนอยู่ด้วย
“ยังหาเบาะแสใดๆไม่เจอเลยครับ กองเพลิง ตระกูลซือถูหายไปหมดแล้ว แม้แต่สิ่งที่จับต้องได้เป็นรูปธรรมก็ไม่มีเลยครับ และยิ่งไปกว่านั้นคือไม่พบที่อยู่ของคุณชายทั้งสองคนโม่ชิง โม่เทียนเลยด้วยครับ!”
“เลวจริงๆ สายเลือดของตระกูลโม่เราสูงส่ง จะเทียบกับคนธรรมดาพวกนั้นได้อย่างไร ความสามารถของโม่ชิง โม่เทียนก็แข็งแกร่ง เป็นผู้ช่วยของฉัน ถ้าหากเกิดเรื่องกับเขาขึ้นในภาคตะวันตกเฉียงใต้ที่แบบนี้ นั่นก็เท่ากับเป็นการเหยียดหยามตระกูลโม่ของพวกเรา ไปสืบมาให้ฉันอีกครั้ง!”
“ครับ คุณชายโม่!”
ทุกคนไปกันหมดแล้ว
คุณชายโม่หลับตาลง : “จินหลิง เป็นที่ที่ดีจริงๆสินะ เหอะๆ รอวันนึงที่ตระกูลโม่ได้กลืนตระกูลเฉินเข้าไปก่อน ฉันก็จะสามารถยึดเอาจินหลิงเป็นฐานที่ตั้งได้ สถานที่แห่งนี้ สมบูรณ์แบบมากจริงๆ!”
โม่เจี้ยนพูดในใจ
ตึก.....ตึก.....ตึก!
ทันใดนั้นเองเวลานี้ ทางด้านนอกก็มีเสียงฝีเท้าที่เบาบางดังขึ้น
มีคนกำลังเดินมาทางนี้
“อืม?”
ลูกน้องคนหนึ่งหรี่ตาลงเล็กน้อย
หลังจากนั้นประตูห้องก็เปิดออก
ตามมาด้วยความตะลึงงง : “อืม? คุณคือใคร?”
“โม่เจี้ยนอยู่ที่นี่ใช่ไหม?”
คนที่อยู่ตรงด้านหน้า เขาเป็นชายในชุดดำ ปรากฏให้เห็นเพียงแค่ดวงตาออกมาเท่านั้น
อีกทั้งน้ำเสียงยังดูแก่และมีพลังอีกด้วย
ให้ความรู้สึกที่แปลกประหลาดยิ่งนัก
แต่หากคิดอย่างรอบคอบแล้วนั้นจะพบว่า ผิวของบุคคลนี้กลับดูขาวและอ่อนโยนมาก ดูแล้วเหมือนจะเป็นวัยรุ่นเสียมากกว่า
“แกเป็นใคร? มาหาฉันมีเรื่องอะไรอย่างนั้นหรือ?”
ส่วนโม่เจี้ยนที่กำลังดื่มไวน์ไปพลาง ก็ลุกขึ้นยืนพลางเอ่ยถาม
คมมีดตรงเบื้องหน้า ดูแล้วไม่ธรรมดาเลย โม่เจี้ยนก็ไม่ได้ประมาทด้วยเช่นกัน
“ฉันมา ก็อยากจะให้คุณชายโม่เจี้ยนไปที่ที่หนึ่งกับฉันหน่อย คุณไปที่นั่นกับฉันรอบนึงแล้วกัน!”
บุคคลในชุดดำกล่าว
“เหอะๆ กับแกเนี่ยนะ แกรู้ใช่ไหมว่าฉันเป็นใคร แกกล้าให้ฉันไปที่ที่หนึ่งกับแกอย่างนั้นหรือ?”
โม่เจี้ยนยิ้มออกมาอย่างเย็นชา
ส่วนลูกน้องสองสามคนนั้นก็กำลังโกรธแค้นด้วยเช่นกัน
หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยกำปั้นหนึ่งที่พุ่งไปยังบุคคลในชุดดำคนนั้น
ใช้แรงเยอะมาก
แต่กลับรู้สึกว่าหมัดนี้ที่เหวี่ยงไปยังบุคคลในชุดดำนั้น ราวกับว่ากำลังต่อยโดนภูเขาลูกใหญ่อย่างไรอย่างนั้น
แขนชาไปหมด
“อะไร?”
สองสามคนนั้นต่างก็พากันรู้สึกตะลึง
ส่วนโม่เจี้ยนนั้นก็หนังตากระตุกขึ้นมาเล็กน้อย
“รนหาที่ตาย!”
สองสามคนนั้นรู้สึกโมโห
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!