บทที่ 495 งานประมูล
เฉินเกอมองเขาคนนั้นด้วยสายตานิ่ง ๆ
และสัมผัสได้ว่า คนคนนี้นั้นไม่ธรรมดาเลย
แชว๊บๆๆ!
และในเวลานี้ แสงวิบวับ สาดส่องไม่กี่ครั้ง ก็เปลี่ยนเป็นชายชุดดำสี่คนที่ยืนอยู่ข้างหลังเฉินเกอ
ซึ่งรูปร่างหน้าตาก็คล้าย ๆ กับชายที่ยืนอยู่ข้างหน้าของตัวเอง ฝีมือของพวกเขานั้น เหนือกว่าเฉินเกออยู่มาก
ตระกูลโม่เหรอ
เฉินเกอคิดในใจ
“เฉินเกอ ที่วันนี้หลอกให้นายออกมานั้น มีอยู่สองเรื่องที่จะบอก”
ในเวลานี้ ชายชุดดำที่ยืนอยู่ด้านหน้าได้พูดขึ้น
เมื่อได้ยินเสียงแล้ว ก็รู้ว่าเป็นผู้เฒ่าคนหนึ่ง
“เรื่องอะไรเหรอ”
“ตระกูลเฉินมีประวัติความเป็นมาหลายร้อยปี และยังเป็นตระกูลใหญ่ที่มีอำนาจและบารมีมาก ถ้านายยอมให้คนอื่นดูถูก เหยียดหยามได้ขนาดนี้ มันเป็นการทำลายเกียรติศักดิ์ของวงศ์ตระกูล เรื่องแรกที่ฉันจะบอกคือ ฉันจะสั่งสอนนายให้สาสม”
ชายชุดดำได้พูดขึ้น
“นายรู้หรอว่าฉันเป็นใคร จากที่ได้ฟังนาย เหมือนไม่ใช่คนตระกูลโม่ใช่ไหม”
ฉินเกอถามขึ้นด้วยความสงสัย
ส่วนชายชุดดำคนนั้น กลับไม่ได้ตอบแต่อย่างใด
พอร่างของเขาขยับแค่นิดเดียว ก็มาถึงยังด้านหน้าของเฉินเกอในทันที
ไม่รอให้เฉินเกอนั้น ได้ทันตั้งตัว เปี๊ย ๆ !เสียงฝ่ามือกระทบใบหน้าสองครั้ง ดังขึ้นอย่างรุนแรง
และในขณะนั้น ชายชุดดำคนนั้น ก็กลับไปยืนอยู่ยังที่เดิม
การเคลื่อนไหวนี้เร็วมาก ราวกับว่าแค่ชั่วพริบตาเดียวเอง
เฉินเกอ แทบจะไม่มีทางได้ตอบโต้กลับ
“พวกนาย……เป็นใครกันแน่”
เฉินเกอก็ได้ถามขึ้นในใจ ด้วยความตกใจอีกครั้ง
“ส่วนเรื่องที่สองคือ ฉันได้รับคำสั่งจากนายท่าน ให้มารับนายไป แต่ว่า โสมพันปีนี้จะมีประโยชน์ต่อนายมาก เดี๋ยวฉันจะให้ตงหนานซีเป่ยคอยอารักษ์ขาข้าง ๆ นาย เมื่อถึงเวลาแล้ว พวกเขาจะพานายไปเอง”
“ตงหนานซีเป่ย”
“อยู่นี่ครับ”
“ช่วงนี้ พวกนายคอยเฝ้าดูความปลอดภัยให้เฉินเกอแล้วกัน รอฟังคำสั่งเขา เมื่อได้โสมพันปีแล้ว ค่อยนำตัวเขาไปพบนายท่าน”
ชายชุดดำได้สั่งการไว้
“ครับผม”
หลังจากที่ชายชุดดำนั้นพยักหน้า ก็ได้เตรียมตัวที่จะจากไป
“เดี๋ยว ๆ นายท่านของพวกนายคือใคร”
เฉินเกอ ใช้มือกุมที่หน้าแล้วถามด้วยอาการอยากรู้
การโดนตบไปที่หน้าสองครั้งนั้น กลับทำให้เฉินเกอนั้น ถึงกลับมีเลือดกลบปาก
“เมื่อถึงเวลา เดี๋ยวนายก็จะรู้เอง”
ชายชุดดำพูดทิ้งท้ายไว้แค่นี้ จากนั้น เขาก็ได้จากไป
แปลกจริง ๆ
ชายชุดดำเหล่านี้ ฝีมือไม่ธรรมดาและก็ไม่เคยเจอมาก่อนด้วย คนของตระกูลโม่เมื่อเทียบกับพวกเขาแล้ว ฝีมือก็ยังต่างกันอยู่มาก
นอกเสียจากว่า บนโลกนี้ยังจะมีคนที่ฝีมือดีกว่าตระกูลโม่
เฉินเกอกำลังวิเคราะห์
หากว่าฉินโป๋อยู่ข้าง ๆ ตัวเองก็คงจะดี เขาคงรู้แน่ ว่าคนเหล่านี้มีฝีมืออยู่ระดับไหน
และอารักษ์ขาตงหนานซีเป่ยทั้งสี่คนนี้ นอกจากพยักหน้าและส่ายหน้าแล้ว อย่างอื่นก็ไม่ได้เล่าอะไรให้เฉินเกอฟังเลย
ทำเอาเฉินเกอเองแทบจะหมดปัญญา
เหมือนว่า คงต้องรอเจอกับนายท่านของพวกเขาเท่านั้น ถึงจะรู้ว่า ที่จริงแล้วพวกเขาเป็นใครกันแน่
แต่ว่า สถานการณ์ในตอนนี้ หากให้พวกเขาตามไปด้วย คงไม่สะดวกแน่ ครั้นแล้ว เฉินเกอเลยให้ตงหนานซีเป่ยทั้งสี่คน กลับไปรอที่วิลล่าก่อน
ส่วนตัวเองนั้น ยังต้องอยู่ที่ตระกูลยู่
ตระกูลยู่ในเวลานี้
“เขาไม่อยู่ยิ่งดี ไม่แน่ว่า อาจจะไปตายที่ไหนแล้วก็ได้ อย่าให้ฉันเจอเขาอีก แค่เห็นหน้าเขา ฉันก็รู้สึกเอือมแล้ว พอแล้ว ที่เรียกพวกเธอมานี้ ฉันมีเรื่องสำคัญอยากจะบอก”
ซูหง ได้เรียกสมาชิกในบ้านทั้งหมดมารวมกันที่ห้องโถงใหญ่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!