บทที่ 496หวูน่ายเหมยจื่อ
“หนูเข้าใจแล้วค่ะแม่ แต่ว่า ก็แปลกจริง ๆ นายใหญ่ของบริษัทเทียนหลงกรุ๊ปทำไมดูลึกลับอย่างนี้ ไม่ว่างานใด ๆ ก็ไม่เคยเข้ามาร่วมเลย และก็ไม่รู้ว่าที่ตระกูลยู่ของเราได้จัดงานในครั้งนี้ขึ้นนั้น นายใหญ่ลึกลับคนนี้จะมาด้วยไหม”
“ภายในระยะเวลาไม่นาน สามารถทำให้ธุรกิจของตัวเองใหญ่โตได้ขนาดนี้ นายใหญ่คนนี้ ธรรมดาแน่นอน”
ยู่จินเซียงพูด
“ฉันกลับประเทศครั้งนี้ ก็พอได้ยินเรื่องของบริษัทเทียนหลงกรุ๊ปมาบ้าง และก็ได้รู้มาว่านายใหญ่ของบริษัทเทียนหลงกรุ๊ปนั้น ยังเป็นวัยรุ่นอยู่ ลูกน้องก็มีแต่คนเก่ง ๆ ส่วนที่ไปที่มาของเขานั้น กลับไม่รู้เลย แล้วแม่ล่ะคะ รู้ไหม”
ยู่จินเฟยถามขึ้นด้วยความสงสัย
โดยเฉพาะ เมื่อได้ยินว่า นายใหญ่ของเทียนหลงนั้น มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับตัวเอง ยู่จินเฟยยิ่งรู้สึกอยากรู้ขึ้นไปใหญ่ ชายคนนี้จะมีรูปร่างหน้าตาเป็นแบบไหนกัน ทำไมถึงเก่งขนาดนี้ และยอมทำให้คนจำนวนมากนั้น ติดตามตัวเอง
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ผู้หญิงจำนวนมากนั้น ต้องชื่นชมและหมายปองวีรบุรุษอย่างเขาแน่นอน แม้แต่ยู่จินเฟยเอง ก็เป็นเช่นนั้น
“ฉันเองก็ไม่แน่ใจเท่าไร แต่ว่า วันที่พวกเขาเปิดบริษัทนั้น ตระกูลยู่ของเราก็ได้ให้คนไปแสดงความยินดีด้วย แต่ว่า นายใหญ่ของเทียนหลงก็ไม่ได้มาร่วมงานนะ”
ซูหงพูด
“แต่ว่า ฉันเชื่อว่างานครั้งนี้เขาต้องมาแน่ เพราะด้วยมนต์เสน่ห์ของโสมพันปีแล้ว ไม่มีใครที่จะห้ามใจไม่มาร่วมงานได้หรอก เมื่อถึงตอนที่คนของเทียนหลงนั้นมา พวกแกสองคนพี่น้อง ต้องดูแลให้ดีเชียวนะ ไม่แน่ว่า เขาอาจจะตกหลุมชอบไม่ใครก็ใคร ระหว่างแกสองคน และตระกูลยู่ของเราหลังจากนั้น คงต้องเป็นหนึ่งเดียวของผู้มีอิทธิพลในเทียนเฉิงแล้วแหละ ส่วนตระกูลเว่ยนั่นหรือ ไสหัวไปไกล ๆ เถอะ”
ซูหงพูดขึ้นด้วยท่าทางที่กำลังยืนกอดอกอยู่
“แม่คะ หนูแต่งงานแล้วค่ะ”
ยู่จินเฟยขมวดคิ้ว แล้วพูดด้วยอาการไม่พอใจ
“เลอะเทอะ แต่งอะไรกันล่ะ แกอย่าคิดว่าฉันไม่รู้ ที่แกกับไอ้นั่นแต่งงานกันนั้น เพราะด้วยสาเหตุอะไร ไร้ประโยชน์ รอให้งานนี้เสร็จไปก่อน พวกแกรีบหย่ากันเลยนะ ขายขี้หน้าไปทั่วแล้ว”
ซูหงโมโหจนลมออกหู
“น้าซู อาจารย์ของพวกเราก็ดีนะคะ เคยช่วยพี่เซียงมาก่อนด้วย”
ตาแว่นและคนอื่น ๆ ก็ได้มาช่วยงานครั้งนี้ด้วย
และในขณะนั้น เลยได้พูดขึ้น
“ไป ๆ ๆ พวกเธอยังเด็ก จะรู้อะไร บุญคุณกับความรัก มันคนละเรื่องกันเลย”
ซูหงพูด
“อาจารย์คะ มาแล้วหรอคะ”
ส่วนเฉินเกอนั้น ก็ได้ทำตามคำสั่งที่ยู่จินเฟยนั้นได้สั่งไว้ และในตอนเช้าตรู่ ก็ได้รีบไปจัดเตรียมที่พักสำหรับแขกเป็นที่เรียบร้อย
ในขณะที่เดินมา
“อืม”
เฉินเกอพยักหน้ารับ “พอดีเลย ช่วงนี้โรงเรียนปิดเทอม พวกเธอก็มาเล่นที่นี่ได้นะ”
“ค่ะ อาจารย์”
ตาแว่นและคนอื่น ๆ ตอบกลับ
“ฮืม ตัวเองไร้ประโยชน์ แล้วยังจะมาเสแสร้งทำเป็นใจกว้างอีก ไม่ดูสภาพตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพราะยู่จินเฟย แกจะมีโอกาสเห็นงานหรู ๆ แบบนี้หรอ”
ซูหงพูดพร้อมกับเอานิ้วจิ้มไปที่อกของเฉินเกอหลาย ๆ ครั้ง
จะพูดไปแล้ว ลูกเขยที่ซูหงอยากได้นั้น อย่างน้อยก็ต้องเป็นคนที่ฐานะดีหน่อย แต่ว่า สุดท้ายได้คนอย่างนี้มา
เลยเกิดความไม่พอใจเป็นอย่างมาก
“คุณซูสวัสดีค่ะ”
ในเวลานั้น ก็ได้มีคนขบวนหนึ่งได้เดินเข้ามา
หัวหน้าขบวนนั้น เป็นผู้หญิงที่ไว้ผมยาวปะบ่า ใส่เสื้อผ้าตามสไตล์งานที่ตัวเองทำ รูปร่างหน้าตาสะสวย
เมื่อเธอมาถึงแล้วนั้น ก็เป็นที่สนใจของผู้คนในงานเป็นอย่างมาก
แต่เพียงแค่ ภาษาจีนของเธอนั้น ฟังดูไม่ค่อยชัดเท่าไร
“ที่แท้ก็คุณหวูน่ายเหมยจื่อนี่เอง ขอโทษด้วยจริง ๆ ค่ะ ที่ไม่ทันมองเห็น ว่าคุณมา”
ซูหงพูดและมีสีหน้าที่เบิกบานขึ้นมาทันใด
“ไม่เป็นไรค่ะคุณซู เมื่อสักครู่นี้ ฉันเห็นว่าคุณกำลังยุ่งอยู่ เลยไม่กล้าจะรบกวนเท่าไร”
เหมยจื่อพูด
และในขณะเดียวกัน ก็ได้เห็นเฉินเกอที่กำลังถูกด่าด้วย จึงพยักหน้าให้กับเฉินเกอ
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า สาวญี่ปุ่นคนนี้ เวลายิ้มนั้น เธอดูสวยมาก ๆ
โดยเฉพาะเมื่อยิ้มออกมา ดวงตาทั้งสองข้างนั้น โค้งขึ้นอย่างกับพระจันทร์เสี้ยว ทำเอาผู้คนที่พบเห็น ต่างสัมผัสได้ความรู้สึกที่สบาย ๆ
“อ๋อ ๆ คือ ฉันกำลังอบรมคนที่ไม่ค่อยจะรู้อะไรอยู่ค่ะ ไม่เป็นไรหรอก คุณเหมยจื่อ คุณรีบเดินทางมาจากญี่ปุ่น ระหว่างทางคงจะเหนื่อยแย่เลย เดี๋ยวฉันจะจัดห้องพักให้คุณนะคะ”
ซูหงพูดขึ้นด้วยอาการทำตัวไม่ถูก
“เด็กรับใช้หรอ แต่เมื่อครู่ ฉันได้ยินคุณพูดว่า ลูกเขย อะไรสักอย่างไม่ใช่หรอ”
หวูน่ายเหมยจื่อถามไปด้วย พร้อมกับสางผมตัวเองไปด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!