ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! นิยาย บท 53

บทที่ 53 โทรศัพท์จากพี่สาว

ย่านการค้าที่ใหญ่ขนาดนี้ แต่ในสายตาของคุณชายเฉิน เป็นของที่ไม่มีค่าอะไรเลยงั้นเหรอ

เจ้าบ้านเฉิน ตกลงว่ามันยิ่งใหญ่ขนาดไหนกัน

เจียงเวยเวยและเหล่านักเรียนหญิงแทบจะสลบแล้ว ถ้าเกิดใครได้เป็นแฟนของคุณชายเฉิน มันจะดีขนาดไหนกัน

“แต่ว่าคุณชายจวง หรือว่าแกจะพูดเรื่องของบ้านเฉินเวอร์เกินไป!?”

“ถ้าเกิดเป็นตระกูลใหญ่ พวกเราก็ควรจะได้เห็นข่าวในโลกอินเตอร์เน็ตบ้างสิ!”

มีนักเรียนหญิงบางพวกที่ไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไหร่

จวงเฉียงยิ้ม “ส่วนใหญ่ที่พวกคุณเห็นกันนั้น ล้วนไม่ใช่คนที่มีอำนาจมากจริงๆ พวกคุณลองคิดดูดีๆ ตอนนี้พวกกลุ่มใหญ่ที่ดังๆในโลกอินเตอร์เน็ต คนที่คอยหนุนหลังพวกกลุ่มใหญ่อยู่ จะยิ่งใหญ่ขนาดไหนกัน? เพราะงั้น อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ทุกที่ เบื้องหลังล้วนมีคนรวยหนุนหลังอยู่ทั้งนั้น และการหนุนหลังแบบนี้ ก็เป็นสิ่งที่ทุกคนไม่เคยได้ยินมาก่อนอย่างตระกูลใหญ่!”

“......มีเหตุผล!”

คราวนี้เหล่านักเรียนหญิงต่างก็เชื่อกันหมด

กริ๊ง...กริ๊ง...กริ๊ง...!

และในเวลานี้ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา

หวังหุ้ยหมิ่นเดินไปดูว่าเป็นเบอร์ของใคร จู่ๆก็ตกใจขึ้นมา “คนที่โทรมาก็คือของสำนักงานบริหารธุรกิจการค้า!”

จู่ๆใจของหวังหุ้ยหมิ่นก็เต้นไม่เป็นจังหวะ

เป็นความจริงที่ว่าบริษัทเกือบจะล้มละลายเพราะมีเงินทุนไม่เพียงพอ แต่ว่า เมื่อกี้ จินหลิงบริษัทการค้าได้ประกาศว่าจะเอาเงินมาลงทุนกับบริษัท

และในเวลานี้สำนักงานบริหารธุรกิจการค้าก็โทรเข้ามา คงจะไม่ใช่ว่าอยากจะตรวจสอบทรัพย์สินของบริษัทหรอกใช่ไหม?

ต้องรู้เอาไว้ว่า ธนาคารที่ตัวเองไปกู้ยืมเงินทุนมานั้นไม่มีความเห็นอกเห็นใจ ตอนที่ตัวเองหาเงินไม่ได้สำนักงานบริหารธุรกิจการค้าก็คือสิ่งแรกที่พวกเขาจะต้องรายงาน

มันชัดเจนมาก ทุกคนล้วนเข้าใจเหตุผลนี้ดี

จากนั้นทุกคนก็ไม่พูดอะไรอีก รอฟังข่าวอยู่เงียบๆ

“ขอบคุณผู้อำนวยการหวาง ค่ะๆๆ ขอขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากท่าน!โอเครค่ะ ไว้เจอกัน!”

จากนั้น หวังหุ้ยหมิ่นพูดจบประโยคด้วยเสียงที่ตื่นเต้นและดูมีความสุข

ทำให้ทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่างก็อึ้งไปตามๆกัน

“ผู้อำนวยการหวางเป็นคนโทรมาเหรอ?”

พ่อของซูมู่หานพูดด้วยความตกใจ

บริษัทธรรมดาอย่างพวกเขา ล้วนหวาดกลัวสำนักงานบริหารธุรกิจการค้ากันทั้งนั้น

ฟังจากน้ำเสียงของหวังหุ้ยหมิ่น ก็รู้ได้ทันทีว่ามันเป็นข่าวดีไม่ใช่ข่าวร้าย

“ใช่แล้ว!”

หวังหุ้ยหมิ่นตื่นเต้นจนบอกคำอวยพรของผู้อำนวยการหวางให้ทุกคนรู้ในทันที

“ดูเหมือนว่าจะเป็นฝีมือของคุณชายเฉินจริงๆสินะ ไม่งั้นก็คงจะไม่ได้ผลลัพธ์แบบนี้!”

“คุณชายเฉินคนนี้ คงจะมีอำนาจมากจริงๆ!”

ซูฉีและคนอื่นๆต่างก็พูดด้วยความนับถือ

เรื่องนี้ทำให้คนที่อยู่ที่นี่ต่างก็เกิดความสงสัยใคร่รู้ว่า คนที่เต็มไปด้วยปริศนาอย่างคุณชายเฉิน เป็นใครกันแน่?

หลังจากนั้นไม่กี่วัน เฉินเกอก็รู้สึกสงบสติอารมณ์ได้ไม่น้อย แน่นอนว่า ก็ได้เอาบัตรช้อปปิ้งยี่สิบล้านที่พี่สาวเป็นคนให้ เงินประมาณหนึ่งล้านที่เหลือก็เรียกได้ว่าเอาไปใช้จ่ายจนหมด

ได้ซื้อเสื้อผ้าแบรนด์เนมให้กับตัวเอง แล้วก็พวกของใช้อื่นๆ นาฬิกาอะไรทำนองนั้น

ระหว่างนั้น

มีอยู่ครั้งนึงที่หยางเสว่ได้โทรเข้ามา ขอยืนเงินกับเฉินเกอ แต่ก็ถูกเฉินเกอปฏิเสธ

แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะเฉินเกอใจร้าย แต่เป็นเพราะเขาอยากจะให้บทเรียนกับหยางเสว่

แค่ไปขอยืมเงินจากทุกๆคนที่รู้จักมันไม่มีประโยชน์ บางครั้งเห็นว่ามันห่างแค่เพียงเอื้อมมือ แต่ความเป็นจริงก็ได้เสียมันไปแล้ว

เขาหวังจากใจจริงว่าหยางเสว่จะไม่เดินในเส้นทางนี้ต่อ

แบบนั้นไม่ช้าก็เร็วเธอจะต้องสูญเสียตัวตนของตัวเองไปแน่

ส่วนหยางเสว่หลังจากที่ถูกเฉินเกอปฏิเสธไป หลายวันมานี้ก็ไม่ได้ข่าวคราวอะไรอีก

เฉินเกอกำลังตั้งใจจะเตรียมตัวไปสอบวิชาที่สาม(สอบใบขับขี่)ของตัวเอง

“ทำอะไรอยู่เหรอเจ้าน้องชาย?”

วันนี้เป็นวันเสาร์ เฉินเกอที่กำลังอ่านหนังสืออยู่บนเตียง

พวกหยางฮุยออกไปเล่นข้างนอกแล้ว

ในระหว่างที่กำลังรู้สึกเบื่อๆ จู่ๆพี่สาวเฉินเสี่ยวก็โทรเข้ามา

“กำลังอ่านหนังสืออยู่พี่!มีเรื่องอะไรเหรอ?”

ตอนนี้เฉินเกอเริ่มรู้สึกปวดหัวนิดหน่อย กับพี่สาวขี้โวยวายของตัวเอง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!