บทที่806 เงาสะท้อนกลับหัวในสระน้ำ – ตอนที่ต้องอ่านของ ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!
ตอนนี้ของ ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! โดย Light-Knight ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่806 เงาสะท้อนกลับหัวในสระน้ำ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
บทที่806 เงาสะท้อนกลับหัวในสระน้ำ
“เฉินเกอ นายรีบลุกขึ้นมาเร็ว!”
โจวโน่รีบประคองเฉินเกอขึ้นมา
เฉินเกอหยิบเอาผ้าห่มคลุมตัวที่เหมือนกับผ้าขี้ริ้วผืนนี้ขึ้นมา
“เจ้าสัตว์ร้าย ถ้าแกกล้าก้าวเข้ามาอีกก้าวเดียว ฉันจะทำลายของสิ่งนี้ซะ!”
เฉินเกอพูดขู่
“เสียงขู่”
คาดไม่ถึงว่า ผีดิบจะยกฝ่ามือทั้งสองข้างขึ้นมา เพื่อเป็นการให้สัญญาณว่าไม่ให้เฉินเกอบุ่มบ่าม หลังจากนั้นก็ก้าวถอยหลังออกไปอีกเป็นสิบก้าว
“ไม่คิดเลยว่าของสิ่งนี้ จะยังเป็นเหมือนลักษณะธรรมชาติของมนุษย์อยู่อีก!”
โจวโน่ที่อยู่ข้างๆ ในที่สุดก็เอ่ยขึ้นมาราวกับเหมือนยกภูเขาออกจากอก
และในขณะเดียวกันที่ทั้งสองคนเพิ่งจะรู้สึกโล่งใจนั้น
“ฮ่าๆๆๆๆ!”
ทันใดนั้นเองเสียงหัวเราะเสียงหนึ่งก็ดังลอยขึ้นมากลางอากาศ
และตามมาด้วยเงาแสงหนึ่งที่ส่องอยู่ท่ามกลางอากาศ แล้วก็เห็นร่างของคนหนึ่งที่กำลังปรากฏลงมาอยู่ตรงหน้าของเฉินเกอ
เพียงแต่เวลานี้เงาของบุคคลนี้ ดูแล้วยิ่งดูตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากมากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก
ไม่ใช่หม่าหย่งซินแล้วจะเป็นใครได้อีก
“เจ้าเด็กบ้า แกคิดว่าอาศัยที่แกมีแผนที่ของหุบเขาโยวหมิงแล้ว ก็จะสามารถหลุดพ้นจากไปได้อย่างราบรื่นอย่างนั้นหรือ? ทุกทั่วสารทิศนี้เป็นร้อยๆปี ไม่มีใครที่จะสามารถหลุดไปจากเงื้อมมือของฉันได้!”
“เพียงแต่บนร่างกายของเด็กอย่างแกนี่มีความโชคดีอยู่จริงๆ นัยน์เทพของแก ถ้าหากเป็นพลังวิชาที่เหมือนกันแล้วใช้กับฉัน เกรงว่าสมองของฉัน ก็คงจะได้รับความเสียหายอย่างหนักไปแล้ว! วันนี้ดูว่าฉันไม่เพียงแต่จะต้องฆ่าแกเท่านั้นสินะ ยังจะต้องแย่งเอาความโชคดีของแกมาให้ได้ด้วยแล้ว!”
หม่าหย่งซินกำฝ่ามือแน่น
แล้วหัวเราะออกมาอย่างต่อเนื่อง
ดวงตาทั้งสองข้างนั้นเต็มไปด้วยความหยอกล้อ
วันนี้ ดูซิว่าแกจะหนีไปอย่างไร!
“หม่าหย่งซิน ไอ้แก่ ต้องมีสักวัน ที่คุณจะไม่ตายดีแน่!”
โจวโน่ด่าว่าออกมาอย่างสิ้นหวัง
“ดีเลย ถ้าหากมีวันนั้นจริงๆ พวกแกก็คงจะไม่ได้เห็นมันหรอกนะ!”
หม่าหย่งซินหัวเราะออกมา
และเตรียมจะจับตัวเฉินเกอไป
“คุณคิดว่าฉันเฉินเกอ คุณคิดจะจับก็จะจับไปได้จริงๆอย่างนั้นหรือ?”
เฉินเกอจับหน้าอกตัวเองพลางเอ่ยออกมา
“เหอะๆ แกยังมีความสามารถอะไรใช้มันออกมาสิ? ไม่ไหวจริงๆ ฉันจะให้แกปล่อยพลังมาจากฝ่ามืออีกซักสามรอบก็ได้!”
หม่าหย่งซินส่ายหน้าพลางฝืนยิ้มออกมา
“ดูอาวุธลับ!”
สิ้นเสียงของเขา ก็เห็นเฉินเกอยกมือขึ้นแล้วโยนมา
ในมือนั้นถือผ้าห่อตัวทารกที่ถูกเฉินเกอขยำจนเป็นก้อนกลมแล้วนั้น โยนไปทางหม่าหย่งซิน
ขวับ!
ถูกหม่าหย่งซินจับเอาไว้ได้
“ฮ่าๆๆ เจ้าเด็กบ้า แกกลัวว่าจะถูกอานุภาพของฉันทำให้แกตกใจจนปัญญาอ่อนไปแล้วหรือไง? มีอะไรพิเศษกัน? ผ้าขี้ริ้วผืนเดียว แกก็เอามาเป็นอาวุธลับอย่างนั้นหรือ?”
หม่าหย่งซินหัวเราะออกมา
หลังจากนั้นก็เห็นเขายกมือขึ้น แล้วทันใดนั้นเองผ้าห่อตัวทารกผืนนั้นก็เกิดไฟลุกขึ้นมาและกลายเป็นเถ้าถ่านในทันที
“แฮร่!”
“แฮร่!”
“แฮร่!!!”
และฉากนี้ ผีดิบที่อยู่ทางด้านข้างนั้นก็เห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้น
เมื่อเห็นแล้ว ดวงตาของผีดิบก็มองไปทางหม่าหย่งซิน ด้วยความอาฆาตแค้น
ขนและผมสีม่วงบนร่างกายได้กลายเป็นสีม่วงดำในเวลานั้น
ควันดำที่อยู่ในปากนั้นพุ่งออกมา
“อืม?”
หม่าหย่งซินเองตอนนี้ก็เพิ่งจะได้สังเกตเห็นว่ามีป๋าหนึ่งตนอยู่ตรงข้างๆนี้
“ป๋าเฟยเทียน!?”
เห็นได้ชัดว่าหม่าหย่งซินจำผีดิบตนนี้ได้
ขณะนั้นเองเขาก็รู้สึกตกตะลึงไปอยู่บ้าง
ต้องรู้ว่า ป๋าเฟยเทียนตนนี้มีชื่อเสียงมากในหุบเขาโยวหมิงแห่งนี้
โหดร้ายมาก อีกทั้งมีพลังวิชาพอๆกับหลุนหวางชั้นเก้าอีกด้วย
ประกอบกับที่เขาเป็นอมตะ มีพละกำลังมาก หรือเป็นระดับเดียวกัน นอกจากว่าเป็นระดับเจินเหริน ถึงจะสามารถฆ่ามันได้
ดังนั้น ใบหน้าของหม่าหย่งซินนั้นจึงดูหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะตอนนี้ที่ป๋าเฟยเทียนกำลังมองมาทางตัวเองอย่างต้องการจะฆ่าเขาอย่างน่าหวาดกลัว
“ป๋าเฟยเทียน แกจะทำอะไร?”
หม่าหย่งซินถอยหลังไปสองก้าว
แต่ป๋าเฟยเทียนกลับไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เจตนาที่ต้องการจะฆ่านี้พุ่งตรงไปยังหม่าหย่งซิน
“ฉัน....กระสับกระส่ายมาหลายวันแล้ว ฉันอยากจะอาบน้ำเสียหน่อย ตรงนั้นมีสระน้ำอยู่พอดี!”
โจวโน่วเอ่ยขึ้น
แล้วใบหน้าก็แดงขึ้นมาในขณะนั้น
“ถ้าอย่างนั้นเธออาบน้ำก็ได้ วางใจได้ ฉันเฉินเกอไม่เอาเปรียบคนอื่น มาแอบมองเธออยู่แล้ว!”
เฉินเกออดที่จะส่ายหน้าและยิ้มเจื่อนๆออกมาไม่ได้
“แต่ว่า สระน้ำอยู่ใกล้ขนาดนี้ ดีไม่ดีเธออาจจะแอบมองก็ได้ แล้วอีกอย่าง ไม่ว่าจะแอบมองหรือไม่ ฉันเองก็เป็นผู้หญิงอาบน้ำ ก็คงจะอาบน้ำอยู่ใกล้ๆนายแบบนี้ไม่ได้หรอกนะ?”
โจวโน่หน้าแดงด้วยความเขินอาย
คนๆนี้บางครั้งก็เจ้าเล่ห์ บางครั้งก็มีธรรมะ และบางครั้งก็ดูน่าเบื่อหน่ายอีกด้วย
“เอาล่ะ แล้วเธอจะให้ฉันทำอย่างไร?”
เฉินเกอส่ายหน้าพลางเอ่ยถาม
“นายเอาเสื้อนายมาให้ฉันใช้ ฉันจะเอามาทำเป็นม่านกั้นตรงกลางระหว่างเรา!”
โจวโน่รีบเอ่ยขึ้น
เฉินเกอส่ายหน้า แล้วก็เอาเสื้อให้เธอยืม
หลังจากนั้นก็หลับตาลงพักผ่อนร่างกายต่อ
เพียงแต่ เสียงเปลื้องผ้าที่ดังขึ้นมาเบาๆนี้ ทำให้เฉินเกอต้องขมวดคิ้วขึ้นมา จิตใจไม่นิ่งเท่าไหร่นัก
ถึงอย่างไร เฉินเกอเองก็เป็นผู้ชายคนหนึ่ง
เฉินเกอลืมตาขึ้นมา ก็ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ หันไปมองทางโจวโน่แวบหนึ่ง
เมื่อมองไปแล้วนั้นทำให้เฉินเกอตกใจเสียจนผงะไป
“โจวโน่!!!”
เฉินเกอรีบลุกขึ้นยืน แล้วตะโกนออกมา
“อา!เฉินเกอ คนบ้า บอกแล้วไงว่าจะไม่มอง นายทำอะไรน่ะ!”
โจวโน่ด่าว่าออกมา
“เธอรีบขึ้นมาเร็ว!”
เฉินเกอตะโกนต่อไป
ดีตรงที่โจวโน่ถอดเพียงแค่เสื้อคลุมของตัวเองออกเพียงเท่านั้น เวลานี้เธอจึงรีบห่อหุ้มเนื้อหนังของตัวเอง
แล้วเดินมาทางเฉินเกอด้วยความโมโห
“เฉินเกอ นายหมายความว่าอะไร?”
สีหน้าของโจวโน่แดงขึ้นมาพลางเอ่ยด้วยความโมโห
“เธอเข้าใจผิดแล้ว เธอดูสิ ตรงด้านบนของสระ เหมือนกับมีเงาของคนๆหนึ่งลอยอยู่อย่างเลือนราง......”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!
พระเอกแม่งโครต looser จัดสภาพ...