ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! นิยาย บท 843

สรุปบท บทที่ 843 ประมูลขาย: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

สรุปเนื้อหา บทที่ 843 ประมูลขาย – ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! โดย Light-Knight

บท บทที่ 843 ประมูลขาย ของ ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Light-Knight อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

บทที่ 843 ประมูลขาย

เวลาผ่านไปได้ไม่นานก็ถึงคิวของพวกเฉินเกอทั้งสามคน

เฉินเกอนำยันต์หยกมังกรเขียวออกมาจากตัวแล้วยื่นให้คนรับผิดชอบดู

คนรับผิดชายรับยันต์หยกมังกรเขียวมาดูแวบหนึ่ง ชั่วขณะนั้นจึงได้เผยสีหน้าแห่งความประหลาดใจ จ้องมองเฉินเกออย่างไม่อยากจะเชื่อ

“เชิญคุณทั้งสามท่านตามผมเข้าไปด้านในครับ!”

พอสักพักหนึ่ง คนรับผิดชอบจึงเชิญพวกเฉินเกอทั้งสามคนเข้าไป

พูดเสร็จแล้วจึงนำพวกเฉินเกอเข้าไปด้านในร้านประมูลจินหาง

พอเข้ามาถึงด้านใน มีผู้เฒ่าใส่มงกุฎทองได้เดินเข้ามาต้อนรับพวกเฉินเกอสามคน

เมื่อสักครู่นี้พนักงานรับผิดชอบได้ยื่นยันต์หยกมังกรเขียวในมือให้ผู้เฒ่าใส่มงกุฎทอง จากนั้นไปกระซิบกระซาบข้างหูของเขาชั่วครู่

ผู้เฒ่าใส่มงกุฎทองก็รู้สึกประหลาดใจ รีบจับจ้องมองดูเฉินเกอทันที

“ยันต์หยกมังกรเขียวชิ้นนี้คุณได้มาจากที่ไหนกันครับ?”

จากนั้นผู้เฒ่าใส่มงกุฎทองก็ตอบสนองกับสิ่งเร้าขึ้นมาได้ จึงเอ่ยปากถามเฉินเกอ

เฉินเกอลังเลไปสักพักหนึ่ง จึงเอ่ยปากตอบว่า“คือผมพบเจอมังกรเขียวตอนเข้าด่านท้าทายในแดนมายา และได้ฆ่ามันจนได้สิ่งนี้มาครับ!”

ได้ยินคำตอบจากเฉินเกอแล้ว ผู้เฒ่าใส่มงกุฎทองก็ค่อยๆมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปเป็นเซอร์ไพรส์ขึ้นมา

“ยันต์หยกมังกรเขียวเป็นของล้ำค่าของแดนมายา ไม่มีใครเคยได้มันมาก่อน คิดไม่ถึงว่าคุณจะสามารถฆ่ามังกรเขียวได้ เก่งกาจจริงๆ!”ผู้เฒ่าใส่มงกุฎทองได้กล่าวคำชื่นชมต่อเฉินเกอ

เมื่อพูดเช่นนี้ ทำให้เฉินเกอรู้ว่ายันต์หยกมังกรเขียวนี้เป็นสิ่งของที่มีมูลค่ามหาศาลเลยทีเดียว

“แล้วมันมีมูลค่าเท่าไหร่ครับ?”

เฉินเกอถามอย่างสงสัย

“ฮ่าๆๆ!”

คำพูดประโยคนี้ของเฉินเกอ ทำให้ผู้เฒ่าใส่มงกุฎทองกับพนักงานรับผิดชอบต่างหัวเราะเสียงดังลั่น

“มูลค่าเหรอ?ผมขอบอกคุณว่ายันต์หยกมังกรเขียวชิ้นนี้สามารถประมูลขายได้อย่างน้อยหลายล้านเหรียญทอง เพียงแต่ไม่ทราบว่าคุณจะยินดีทำการประมูลขายหรือเปล่า!”ชายชราที่สวมมงกุฎทองคำได้อธิบายให้เฉินเกอฟัง

หลายล้านเหรียญทอง มันเป็นตัวเลขที่มหาศาลมาก ทำให้ดวงตาพวกเฉินเกอทั้งสามคนเป็นประกายสว่างไสว

“ได้ครับ ผมยินดีจะประมูลขายครับ!”

หลังจากที่ครุ่นคิดได้สักพักหนึ่ง เฉินเกอก็ตกลงประมูลขายยันต์หยกมังกรเขียวชิ้นนี้

ตอนนี้พวกเขาขาดสนเหรียญทองเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงได้แต่ประมูลขายยันต์มังกรเขียวชิ้นนี้แล้วค่อยว่ากันต่อ มิเช่นนั้นจะไม่สามารถตั้งตัวอยู่ที่แผ่นดินหลิงคงได้

“ดีครับ ในเมื่อคุณยินดีจะประมูลขาย ถ้าอย่างนั้นผมได้บอกข้อแม้กับคุณก่อนนะครับ ร้านประมูลจินหางของพวกเรามีกฎอยู่ว่าสิ่งของทุกชิ้นที่ประมูลขายได้จะแบ่งเป็นสามส่วนเจ็ดครับ ซึ่งหมายความว่าพวกเราจะเอาเหรียญทองสามส่วน และเจ็ดส่วนที่เหลือก็เป็นของคุณ คุณยอมรับเงื่อนไขนี้ได้หรือเปล่าครับ?”

เมื่อเห็นเฉินเกอตอบตกลง ผู้เฒ่าใส่มงกุฎทองก็ได้เอ่ยปากอธิบายถึงกฎระเบียบของร้านประมูลจินหางขึ้นมา

เฉินเกอหันหลังไปมองโจวโน่กับหลินจื่อหลัน จากนั้นก็ได้ซักถามความคิดเห็นของกันและกัน

ซึ่งโจวโน่กับหลินจื่อหลันก็มิได้มีข้อแย้งแต่อย่างใด จึงทำให้เฉินเกอตอบตกลงรับเงื่อนไข

“ได้ครับ คุณทั้งสามท่านเชิญตามผมไปที่มุมคอยสังเกตการณ์ครับ ต่อจากนี้พวกเราจะทำการประมูลขายยันต์หยกมังกรเขียวของท่านครับ!”คนรับผิดชอบรีบบอกพวกเขาหนึ่งประโยค จากนั้นก็เชิญพวกเขาทั้งสามคนไปที่มุมส่วนตัวในที่มิดชิด ซึ่งมุมนี้มีไว้สำหรับเจ้าของผู้ประมูลขาย เพื่อจะได้เห็นการดำเนินการประมูลขายด้วยตาของตัวเอง

เฉินเกอทั้งสามคนนั่งลงแล้วรอคอยการเริ่มประมูลขาย

ไม่กี่นาทีต่อมา การประมูลขายเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ

เห็นผู้เฒ่าใส่มงกุฎทองเดินขึ้นเวที จากนั้นมองแขกที่อยู่เบื้องล่างพลางกล่าวว่า“แขกผู้มีเกียรติทุกท่านครับ วันนี้ผมจะขอนำเสนอของล้ำค่าหลายชิ้นแก่ทุกท่าน ต่อจากนี้ขอนำเสนอของล้ำค่าชิ้นแรกครับ พัดขนหงส์!”

“ไม่ ผมขอออกหกล้านเหรียญทอง!”

“อย่าพูดมาก เจ็ดล้านเหรียญทอง ผมจะเอาไป!”

ผู้คนที่อยู่ภายในต่างเพิ่มราคากันอย่างบ้าคลั่ง

เวลาผ่านไปเพียงไม่กี่นาที ราคายันต์หยกมังกรเขียวได้พุ่งทะลุไปถึงหลักสิบล้านเหรียญทองแล้ว และยิ่งไปกว่านั้นราคายังไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่ ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีวี่แววว่าจะหยุดลงเลย

จนกระทั่งราคาสูงสุดอยู่ที่ยี่สิบล้านเหรียญทอง ภายในงานประมูลขายถึงได้เงียบสงบลง ไม่มีใครกล้าบวกราคาเพิ่ม

ยี่สิบล้านเหรียญทองเป็นราคาสูงสุดแล้ว และมากกว่าราคาที่เคยประเมินไว้ล่วงหน้าเยอะแยะ

“องค์ชายยู่เซียนออกราคายี่สิบล้านเหรียญทอง ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครให้แย่งเพิ่มราคากับเขาแล้วนะครับ ดังนั้นยันต์หยกมังกรเขียวตกเป็นขององค์ชายยู่เซียน!”

ผู้เฒ่าใส่มงกุฎทองได้ประกาศและมองไปยังชายวัยกลางคนที่แต่งกายด้วยเสื้อผ้าของเชื้อพระวงศ์ในตำแหน่งที่นั่งที่อยู่แถวหน้าสุด

องค์ชายยู่เซียนท่านนี้เป็นโอรสของแผ่นดินหลิงคง

สำหรับเขาแล้วยี่สิบล้านเหรียญทองเป็นเพียงตัวเลขน้อยๆเท่านั้นเอง

“โอ้โห ยี่สิบล้านเหรียญทอง เฉินเกอ คุณทำกำไรได้มากเลย!”

เมื่อเห็นภาพที่เกิดขึ้นนี้ โจวโน่อดที่จะพูดกับเฉินเกออย่างตกตะลึงมิได้

เฉินเกอก็คิดไม่ถึงว่ายันต์หยกมังกรเขียวของตนจะสามารถขายได้ราคาสูงลิ่วเช่นนี้ แล้วถ้าเป็นไข่มังกรล่ะจะขนาดไหนกันเชียว?คงจะต้องทะลุร้อยล้านแน่ๆ

แต่ตอนนี้เฉินเกอยังไม่อยากจะนำไข่มังกรออกมาให้คนอื่นรู้ อีกทั้งตอนนี้มีเงินจำนวนสิบล้านกว่าเหรียญทอง ตอนนี้เขาจึงไม่ขาดสนเงินทองแล้ว

ไม่ช้า หลังจากที่งานประมูลขายได้จบลง ผู้เฒ่าใส่มงกุฎทองก็ได้สั่งให้คนไปขนเหรียญทองมาวางไว้ตรงหน้าพวกเฉินเกอทั้งสามคนเป็นจำนวนสามหีบ เฉินเกอและพวกทั้งสามคนจ้องมองตาค้าง ไม่เคยเห็นเหรียญทองเยอะอย่างนี้มาก่อน

ถึงแม้เฉินเกอจะร่ำรวยในโลกมนุษย์ก็ตาม แต่เหรียญทองในลักษณะนี้เพิ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!