บทที่ 943 ผู้ฝึกตน
“เล๋ยเล่ ระวัง!”
เฉินเกอรีบตะโกนเตือนเล๋ยเล่ทันที
เล๋ยเล่ได้ยินก็รีบไหวตัวขึ้นมา ทันใดนั้นก็ได้ลืมตาขึ้นมาดู
พึ่งจะพูดจบ บริเวณเอวของเล๋ยเล่ก็ถูกริบบิ้นสีแดงรัดเหนี่ยวเอาไว้
“ฟิ้ว!”
ร่างของเล๋ยเล่ก็ถูกลากออกไป
เฉินเกอเห็นก็ตอบสนองได้ทันที รีบกวัดแกว่งกระบี่ซิงหยวนในมือเพื่อไปตัดสายริบบิ้นสีแดงทิ้งทันที
“ซือออ!”
เสียงริบบิ้นสีแดงขาด ยังดีที่เฉินเกอมีการตอบสนองที่รวดเร็ว ทำให้สามารถช่วยตัวเล๋ยเล่กลับมาได้
“โซ่กักวิญญาณ!”
หลังจากที่ช่วยตัวเล๋ยเล่ไว้ได้ เฉินเกอก็รีบโยนโซ่กักวิญญาณของตนออกไปทันที
โซ่กักวิญญาณบินไปยังทิศทางวิญญาณสาวจอมอาฆาตอย่างรวดเร็ว
วิญญาณสาวจอมอาฆาตตัวนี้ก็ไม่ธรรมดาเสียเลย มันรีบเอาริบบิ้นสีแดงของตนกั้นโซ่กักวิญญาณเอาไว้
แน่นอนว่าเฉินเกอไม่ให้โอกาสแก่มันเลย เขารีบก้าวเข้าไปจู่โจมวิญญาณสาวจอมอาฆาต ซึ่งที่เดิมที่เขายืนอยู่ยังมีเงาของเขาหลงเหลืออยู่เลย
นั่นแสดงให้เห็นว่าเฉินเกอมีความรวดเร็วขนาดไหน ทำให้วิญญาณสาวจอมอาฆาตไม่ทันได้โต้ตอบอะไรเลย
เห็นเพียงกระบี่ซิงหยวนในมือของเฉินเกอได้ทิ่มแทงทะลุเข้าที่ร่างวิญญาณสาวจอมอาฆาตผู้นั้น
“ดับสลาย!”
เฉินเกอตวาดเสียงทุ้มต่ำหนึ่งประโยค
จากเสียงที่เปล่งออกมาของเฉินเกอ ทำให้กระบี่ซิงหยวนเริ่มฉายแสงไฟสีน้ำเงินเข้มออกมา และชั่วพริบตาเดียวก็เขมือบวิญญาณสาวจอมอาฆาตได้
เฉินเกอใช้พลังจากกระบี่ซิงหยวนอีกครั้ง เพื่อทำลายล้างวิญญาณสาวจอมอาฆาตให้ดับสลายไป
หลังจากที่จัดการวิญญาณสาวจอมอาฆาตได้แล้ว เฉินเกอก็ทรุดตัวลงคุกเข่ากับพื้นทันที ร่างกายของเขาเริ่มประกายแสงไฟสีน้ำเงินเข้มออกมา ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ดึงวิญญาณผีเข้าสู่ร่างกายของเขา
แต่ทว่าเฉินเกอก็ไม่มีทางเลือก เขาจำเป็นต้องทำเช่นนี้ เพราะมีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่จะสามารถสยบวิญญาณสาวจอมอาฆาตตัวนี้ได้
“คุณพี่เฉิน คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
เล๋ยเล่เห็นสถานการณ์เช่นนี้ รีบกระโจนเข้าไปด้านหน้าแล้วถามเฉินเกออย่างเป็นห่วงทันที
“อย่าเข้ามา อย่าแตะต้องตัวผม!”
เฉินเกอเตือนเล๋ยเล่หนึ่งประโยค
เล๋ยเล่ได้ยินก็หยุดเดินกะทันหัน
พอผ่านไปได้สักพัก จนแสงไฟสีน้ำเงินเข้มที่เป็นประกายอยู่ในร่างกายของเฉินเกอได้ดับสลายไป เฉินเกอถึงกลับมาเป็นปกติเช่นเดิม
เฉินเกอลุกขึ้นมายืนอีกครั้ง พลางมองเล๋ยเล่
“ถ้าหากเมื่อกี้คุณแตะตัวผมแล้วละก็คุณจะถูกรังสีความเคียดแค้นครอบงำ จนต้องกลายเป็นผีตัวหนึ่ง!”
เฉินเกอมองเล๋ยเล่พลางพูดทีละคำอย่างชัดเจน
พอฟังมาถึงตรงนี้ เล๋ยเล่ก็รู้สึกตกใจกลัวขึ้นมากะทันหัน เขาคิดไม่ถึงว่าจะมีผลเป็นเช่นนี้
บัดนี้ ท้องฟ้าภายนอกก็ได้กลับคืนเป็นดังเดิม จากสภาพอากาศที่มืดครึ้มก็ได้หายไปจนหมดสิ้น
เมื่อเห็นเช่นนี้ หลี่เยว่เหอก็รู้ว่าต้องคลี่คลายวิกฤตในครั้งนี้ได้แล้ว
“โครม!”
บัดนี้บานประตูที่ปิดกั้นประตูของสำนักหงซินก็ได้ถูกถีบให้ลอยออกไป
และเห็นเฉินเกอกับเล๋ยเล่เดินออกมาพร้อมกัน
เมื่อเห็นเฉินเกอทั้งสองคนออกมา พวกหลี่เยว่เหอก็รู้สึกโล่งใจ
หลี่เยว่เหอรีบเดินเข้าไปด้านหน้า
“คุณเฉิน คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ?”
หลี่เยว่เหอรีบถามถึงความปลอดภัยของเฉินเกอก่อนเป็นอันดับแรก
“ผมไม่เป็นอะไร ท่านหลิน วิญญาณอาฆาตตัวนั้นผมจัดการได้แล้ว ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงแล้ว เก่อเล่กับชายที่มีรอยแผลมีดฟันก็ถูกวิญญาณอาฆาตตัวนั้นฆ่าตาย!”
เฉินเกอมองหลี่เยว่เหอพลางบอกกล่าว
“ขอบคุณคุณเฉินเป็นอย่างสูงครับ คุณช่างยอดเยี่ยมจริงๆ !”
หลี่เยว่เหอมองเฉินเกอพลางพูดอย่างซาบซึ้งใจ ตอนนี้เขาเชื่อมั่นในความสามารถของเฉินเกอเต็มเปี่ยมแล้ว ไม่คิดจะสงสัยในความสามารถเฉินเกออีกต่อไป
“ไม่เป็นอะไร ท่านหลินเกรงใจแล้ว มันเป็นสิ่งที่พวกผมควรจะทำอยู่แล้ว”
เฉินเกอตอบหลี่เยว่เหอหนึ่งประโยคด้วยท่าทางที่ถ่อมตน
“ท่านหลิน ในเมื่อไม่มีอะไรแล้ว สถานที่เกิดเหตุก็มอบหมายให้พวกคุณนะ พวกเราไปก่อน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!