หลายวันต่อมา…
“อ้วกกกกกกกก~” เสียงอาเจียนที่ดังอยู่ในห้องน้ำทำให้ทิชาที่กำลังแต่งตัวอยู่ด้านนอกถึงกับขมวคดิ้วด้วยความประหลาดใจ หลายวันที่ผ่านมาแฟนหนุ่มของเธอมีอาการแบบนี้ตลอดเวลาและดูจะไม่ดีขึ้นเลยสักนิด
“ลูแปงไปหาหมอไหม เห็นเป็นแบบนี้มาหลายวันแล้วนะ”
“ไม่เป็นไร ยังไหวอยู่” ชายหนุ่มชะโงกหน้าออกมาตอบกลับด้วยน้ำเสียงผะแผ่ว พร้อมกับยกมือปิดปากตัวเองแล้ว หมุนตัวเดินกลับไปอาเจียนในห้องน้ำอีกครั้ง “อ้วกกกกกกกก~”
“ไหวจริงเหรอ ไปหาหมอดีกว่าเผื่อเป็นอะไรหนัก” เจ้าของร่างเล็กที่เพิ่งเดินตามมายกมือลูบหลังให้อย่างอ่อนโยน มองลงในชักโครกก็พบว่าสิ่งที่เขาอาเจียนออกมามีแค่น้ำเปล่าเพียงเท่านั้น
“เดี๋ยวค่อยไปตอนเย็นก็ได้”
“อือ งั้นกลับจากมหาลัยฉันจะพานายไปนะ”
“โอเค” ลูแปงเงยหน้าขึ้นมาจากชักโครกอีกครั้ง แล้วหยัดตัวลุกขึ้นยืนเดินมาล้างหน้าล้างปากจนเสร็จเรียบร้อย สีหน้าเขาดูซีดจนทิชาเริ่มรู้สึกว่ามันต้องมีอะไรแปลกๆ แต่ก็นึกไม่ออกว่าเป็นเพราะอะไร “แต่งตัวเสร็จแล้วใช่ไหม งั้นรีบไปเถอะเดี๋ยวเค้าห้องสอบสาย”
“ไม่ต้องไปส่งเลย ไปนอนพักไป เดี๋ยวฉันขับรถไปเอง”
“ไม่เอา อยากไปส่ง แค่อ้วกนิดหน่อยไม่ได้เป็นอะไร”
“แต่นายเริ่มตัวร้อนแล้วนะ”
“อือ เดี๋ยวค่อยกลับมานอนพัก” ความดื้อรั้นของคนตัวสูง ทำทิชาถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าสะพายของตัวเองขึ้นมาคล้องแขน
“งั้นก็ได้” ลูแปงพยักหน้าแล้วเดินไปหยิบกุญแจรถยนต์กับกระเป๋าสตางค์ตัวเองมาถือไว้ คว้ามือเล็กมาจับประสานจูงเดินออกมาจากห้องของเธอเอง
ไม่นานนักรถยนต์คันหรูก็เคลื่อนเข้ามาจอดบริเวณหน้าคณะบริหารของมหาวิทยาลัยทั้งสองคน ทิชาปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วหันไปกำชับด้วยเสียงเข้มด้วยความเป็นห่วงที่ลูแปงจะต้องขับรถกลับไปที่คอนโดคนเดียว
“ขับรถกลับดีๆ นะ ถ้าไม่ไหวจอดแล้วโทรมาหาฉันรู้ไหม”
“รู้แล้วครับ” ชายหนุ่มยิ้มตอบบางๆ ท่าทางเป็นห่วงเขาของทิชา ทำให้เขายิ้มออกมาจนไม่สามารถหุบยิ้มได้
“งั้นไปก่อนนะ แล้วเจอกันตอนบ่าย” ทิชาโน้มเข้าไปหอมแก้มของคนข้างๆ ฟอดใหญ่ ก่อนที่เขาจะยกมือจับท้ายเธอไว้แน่น แล้วโน้มเข้ามากดหนักๆ บนริมฝีปากบางหนึ่งที
“ตั้งใจสอบนะ”
“ค่ะ” รอยยิ้มบางๆ ปรากฎขึ้นมาบนใบหน้าสะสวย ก่อนที่เธอจะเปิดประตูลงจากรถยนต์ของเขาไป ลูแปงมองแผ่นหลังบางไปจนลับสายตา ก่อนที่เขาจะขับรถของตัวเองกลับมาที่คอนโดโดยใช่เวลาเพียงยี่สิบนาทีเท่านั้น
กริ๊งงงงง กริ๊งงงงง~ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในตอนที่เขากำลังก้าวขาเดินเข้าลิฟต์ ทำให้ต้องหยุดชะงักแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสายเสียก่อน
“ครับแม่”
(แปงลูก แม่มีอะไรจะถามลูกหน่อย)
“ครับ ว่ามาเลย”
(เมื่อวานแม่ฝันว่ามีเด็กผู้หญิงมายืนอยู่หน้าบ้านเรา แม่เห็นว่าน่ารักดีเลยชวนเข้ามาในบ้านด้วยกัน)
“แล้วยังไงครับ แม่จะถามอะไร”
(หนูทิชามีอาการแปลกๆ อะไรบ้างไหมลูก อย่างเช่นเบื่ออาหารหรืออาเจียนอะไรแบบนี้)
“ไม่มีนะครับ”
(ไม่มีเลยเหรอ หรือมันจะเป็นแค่ความฝันเฉยๆ นะ)
“…” ลูแปงฟังเสียงผู้เป็นแม่พึมพำผ่านสายโทรศัพท์ พลางนึกสิ่งที่ท่านพูดไปด้วย ถึงแม้อาการเหล่านั้นจะไม่ได้เกิดกับทิชา แต่มันก็คล้ายกับอาการกับที่เขาเป็นอยู่เลย “แต่ผมอาเจียนแล้วก็เบื่ออาหารนะแม่”
(จริงเหรอ! ลูกอาเจียนด้วยเหรอ)
“ครับ เป็นมาหลายวันแล้ว น่าจะไปกินอะไรผิดสำแดงมา”
(แต่แม่ไม่คิดแบบนั้นนะสิลูก แม่คิดว่าถ้าฝันแม่เป็นจริง…หนูทิชาอาจจะกำลังตั้งท้องอยู่ก็ได้)
“…” คำพูดของผู้เป็นแม่ทำลูแปงชะงักงันไป แค่หัวใจแกร่งในอกข้างซ้ายของเขากลับเต้นระรัวราวกับเจอเรื่องตื่นเต้นที่สุดในชีวิตของเขาเลย
(ลูแปงได้ยินแม่ไหม)
“ได้ยินครับ แต่ผมไม่แน่ใจว่าทิชาจะท้องจริงๆ หรือเปล่า เพราะเธอไม่มีอาการอะไรเลย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: TRICK TO LOVE หลอกให้รัก