ณ กรุงปักกิ่ง
เยี่ยชิวที่เพิ่งจบบทสนทนากับเฉียนจิ้งหลาน และรถที่เพิ่งจะถึงพระราชวังต้องห้าม
ท่าทางของเยี่ยชิวนั้นดูเร่งรีบมาก เหตุผลที่เขามาพระราชวังต้องห้ามนี้ก็เพราะจะมาหาของล้ำค่าที่พอจะสามารถช่วยรักษาเยี่ยหวู่ซวงได้
เยี่ยชิวคิดกับตัวเองว่า ในฐานะที่พระราชวังต้องห้ามเป็นที่ที่ทรงพลังที่สุดในโลกและมีผู้ฝึกฝนที่เป็นอมตะมากมาย พระราชวังต้องห้ามต้องเก็บรวบรวมสมบัติที่ล้ำค่ามากมายเอาไว้แน่
หลังจากลงจากรถแล้ว
เมื่อเยี่ยชิวเหลือบมองไปข้างหน้าก็เห็นว่าด้านนอกของพระราชวังต้องห้ามนั้นได้รับการปกป้องอย่างแน่นหนา
เขาเดินไปที่ประตูเมือง
โดยไม่คาดคิด ทันทีที่เยี่ยชิวเดินไปถึงประตู เขาก็ถูกทหารยามหลายคนหยุดไว้
“หยุด!”
ทหารยามตะโกนขึ้นอย่างไร้อารมย์พร้อมพูดว่า:“ผู้อาวุโสถังสั่งห้ามไม่ให้ใครเข้าไป โปรดกลับไป! ”
ถัดจากเขา ทหารยามอีกหลายคนจ้องมองที่เยี่ยชิวด้วยสายตาที่เฉียบคม มือขวาของพวกเขาจับปืนไว้ที่เอว ตราบใดที่ยี่ยชิวเคลื่อนไหว พวกเขาก็จะดำเนินการโดยไม่ลังเลใจ
“ข้าเป็นคนของพระราชวังซาตาน”
เยี่ยชิวหยิบบัตรอนุญาตประจำตัวของเขาออกมา และมอบมันให้ทหารยามหลังจากนั้นเขาก็พูดขึ้นว่า:“ข้าต้องเข้าไปทำธุระบางอย่าง พวกคุณช่วยรบทางให้ข้าด้วย”
ทหารยามไม่แม้แต่ดูบัตรอนุญาตประจำตัวของเยี่ยชิว และยังคงพูดต่อว่า:“ผู้อาวุโสถังสั่งว่าห้ามไม่ให้ใครเข้าไป งั้นอย่างนั้นจะต้องถูกสังหารอย่างไร้ความปราณี”
พวหเขาเหล่านี้ทำตามคำสั่งของผู้อาวุโสเยี่ยอย่างเคร่งคัด และเยี่ยชิวนั้นก็ไม่อยากที่จะรู้สึกลำบาก ดังนั้นเขาถึงโทรหาผู้อาวุโสถังตรงนั้น ณ เวลานั้นเลย ทำเช่นนี้เขาถึงเข้าพระราชวังต้องห้ามได้
ตอนนี้สนามรบที่เป็นที่ต่อสู้ของเยี่ยหวู่ซวงและผู้คุ้มกันเมืองนั้นถูกผู้อาวุโสถังจัดการคนมาทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว
เยี่ยชิวนั้นเดินตรงเข้าไปในตำหนักหลักของพระราชวังต้องห้าม
เมื่อเขาเข้าไปในประตูเขาก็ตกใจ
เมื่อเข้าเหลือบตาขึ้นไปมองก็เห็นบัลลังก์ทองคำที่สลักลายมังกรตั้งอยู่
หลังจากนั้น เยี่ยชิวก็เห็นเสาทองแดงขนาดใหญ่ห้าต้น ด้านบนเสานั้นใช้ทองคำบริสุทธิ์ในการแกะสลักลายมังกรอีกช่นกัน
จากนั้นเขาก็สังเกตเห็นว่าพื้นปูด้วยหยกอ่อนสีขาว
นอกจากนี้ยังมีสิ่งของที่ทำจากทองคำ เงิน และหยกต่าง ๆ วางไว้ในตำหนักอีกมากมาย
หากคำนวณเป็นเงิน ข้าวของในตำหนักนี้คงจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่าหมื่นล้าน
แต่ทว่าสายตาของเยี่ยชิวนั้นไม่ได้เป็นแวววาวแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ดวงตาของ Ye Qiu สงบลง และเขาเพียงแค่มองไปรอบ ๆ จากนั้นรีบออกจากตำหนักนั้นและเข้าไปในตำหนักงอื่น
ตำหนักที่สองนั้นพิเศษยิ่งกว่าตำหนักเมื่อสักครู่
ที่ทางเข้าตำหนักมีต้นไซเปรสอายุมากกว่าหนึ่งหมื่นปีปลูกไว้ แต่ละต้นหนาพอ ๆ กับอ่างอาบน้ำและลำต้นมีสีดำไหม้เกรียม
เห็นได้ชัดว่าต้นไซเปรสอายุพันปีเหล่านี้นั้นถูกฟ้าผ่ามา
พลังชีวิตนั้นของมันเหนียวแน่นมากจึงทำให้มันยังไม่ตายแต่กลับมีดอกไม้บานออก และใบไม้สีเขียวที่เพิ่งจะเกิดใหม่
“โชคดีที่ข้าไม่ได้พาตาเฒ่านั้นมาที่นี่ ไม่อย่างนั้น ได้ถ้าเขาเห็นต้นไซเปรสอายุพันปีนี้ เขาคงจะบ้าไปแล้ว” เยี่ยชิวแอบดีใจ
ต้นไซเปรสอายุพันปีที่เคยถูกฟ้าผ่าเหล่านี้นั้นจะพูกเรียกว่าเป็นไม้สายฟ้าฟาด และเป็นวัสดุที่ดีที่สุดสำหรับทำเครื่องใช้ต่างๆ ของแบบนี้นั้นล่อตาล่อใจอมตะชางเหม่ยได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ
หลังจากนั้นสายตาของเยี่ยชิวก็ไปหยุดอยู่ที่หน้าประตูตำหนักนั้น
แม้ว่าตำหนักนี้จะไม่เคร่งขรึมและสง่างามเหมือนตำหนักแรก แต่ก็มีเสานัมมูสีทองเก้าต้นยืนตั้งอยู่ที่ประตู เยี่ยชิวยังเห็นถังเก็บน้ำขนาดใหญ่อยู่ที่มุมตะวันออกเฉียงใต้ของตำหนักอีกด้วย
ถังเก็บน้ำทำด้วยทองสัมฤทธิ์และมีห่วงหัวสัตว์ทั้งสองด้าน
ดูแล้วเรียบง่ายและเป็นวัฏจักรของชีวิต
“ถังไท่พิง!”
เยี่ยชิวพูดขึ้นเบา ๆ
ในสมัยโบราณ ครอบครัวที่ร่ำรวยชอบวางถังน้ำไว้ในสวน ซึ่งมีความหมายว่าจะทำให้บ้านปลอดภัย
กล่าวกันว่า พระราชวังต้องห้ามในสมัยโบราณนั้นชอบมีเกิดอัคคีภัยเกิดขึ้นบ่อยๆ ดังนั้น จักรพรรดิจึงสั่งให้ผู้คนสร้างถังไท่พิงมาสามร้อยหกสิบห้าใบ โดยปกติแล้วถังไท่พิงจะเต็มไปด้วยน้ำ เมื่อเกิดเพลิงไหม้แล้ว ก็สามารถใช้น้ำในถังไท่พิงดับไฟได้อย่างทันทีให้รีบดับ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...
ช่วงนี้ทุกเรื่องทำไมมีแค่ห้าบรรทัด อ่านไม่รู้เรื่องเลย..ถ้าแอด..มีเวลารบกวนตรวจสอบให้ด้วยนะครับ..ขอร้อง...
สงสัยค่ะ สงสัยๆๆ เยี่ยวชิวจากนายแพทย์ฝึกหัดมาเป็นนักสู้ได้ยังไง...
ผู้หญิงคือเลวเลยอะ...
51 หายไปไหน...