หลังจากที่ประตูทองสัมฤทธิ์เปิดออก เยี่ยชิวก็ยืนอยู่ที่หน้าประตูและมองเข้าไปข้างใน และใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึง
ในตอนนี้ ในแววตาของเขานั้นมีอาคารหลังใหญ่
มีตำหนักมากมายที่นี้ มันช่างงดงามมาก ราวกับว่าเป็นพระราชวังต้องห้ามใต้ดินเลยทีเดียว
ตะเกียงน้ำมันตุงนับหมื่นเหมือนดวงดาวบนท้องฟ้าส่องสว่างเหมือนในตอนกลางวัน
ตรงกลางเป็นถนนที่ปูด้วยหินบลูสโตน
เยี่ยชิวรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เขาค่อนข้างที่จะมั่นใจเลยว่าจะต้องมีบางสิ่งที่ดีและล้ำค่าอยู่ในตำหนักเหล่านี้แน่ๆ เขาเดินไปตามถนนและมาถึงตำหนักแรก
เหนือประตูสีแดงชาดมีแผ่นทองสัมฤทธิ์สลักคำอยู่ มันเขียนว่า
“คลั่งสมบัติ!”
เยี่ยชิวเปิดประตูออก และทันใดนั้น ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยดอกไม้สีสันสดใส
เขาเห็นอัญมณีมากมายกองอยู่ภายในตำหนักใหญ่นั้น
ไพลิน ทับทิม มรกต ดวงตาของแมวสีเขียวทอง หยกเหอเถียนคุณภาพสูง...
ยังมีไข่มุกเรืองแสงจากธรรมชาติหลายร้อยเม็ดที่ใหญ่เท่ากับเหรียญทองแดง ซึ่งเปล่งออกมาเป็นสีที่มีเสน่ห์
สีแดง สีส้ม สีเหลือง สีเขียว สีฟ้า สีม่วง มีอัญมณีหลากสี
นับไม่ถ้วน
พวกของมีค่าพวกนี้ถูกวางกองกันไว้บนพื้นในตำหนักราวกับมันเป็นเพียงแค่ขยะ
และเยี่ยชิวสูดลมหายใจเข้า
เขาไม่อยากที่จะคิดสภาพเลยว่า ของล้ำค่ามากมานเช่นนี้ ถ้านำไปขายจะได้เงินเท่าไหร่?
แน่นอนเลยว่า ไม่น้อยแน่ๆ
“ดีนะที่พวกคนของพระราชวังต้องห้ามมัวแต่หมกมุ่นอยู่กับการฝึกเซียนเพื่อความเป็นอมตะเลยไม่สนใจเงินทอง ไม่เช่นนั้นของมีค่าเหล่านี้คงจะสูญหายไปนานแล้ว”
เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นไปมอง ก็เห็นคำสลักอยู่บนแผ่นโลหะทองแดงว่า: คลังกระเบื้องเคลือบ!
“ข้างในเป็นกระเบื้องทั้งหมดเลยเหรอ?”
เยี่ยชิวเปิดประตูออกอย่างสงสัย ตามที่เขาคาดไว้ ทั้งตำหนักนั้นเต็มไปด้วยกระเบื้องเคลือบและเครื่องลายคราม
สิ่งที่เขาเห็นเป็นสิ่งแรกคือแจกันกระเบื้องคู่หนึ่ง สูงประมาณสามเมตร โปร่งใสราวกับน้ำ ตัวพอร์ซเลนสีขาวและลวดลายสีน้ำเงิน สง่างาม สดชื่น และเต็มไปด้วยพลัง
“เครื่องลายครามสีน้ำเงินและสีขาวจากจิงเต๋อเจิ้น!”
เยี่ยชิวจำมันได้อย่างรวดเร็วและอดไม่ได้ที่จะสงสัย
“แจกันลายครามสีน้ำเงินและสีขาวแบบนี้ ไม่ว่าจะอยู่ในพิพิธภัณฑ์ไหน ก็สามารถกลายเป็นสมบัติได้ใช่ไหม?”
“แล้วถ้านำไปประมูลละ ก็น่าจะได้หลายพันล้าน”
“ไม่ อย่างน้อยก็หลายหมื่นล้าน!”
นอกจากแจกันลายครามสีน้ำเงินนี้แล้ว รอบๆก็วางเต็มไปด้วยขวดโหล กระถางลายคราม ชามลายคราม ถ้วยลายคราม จานลายคราม...
และอีกมากมายจนเกินกว่าที่จะบรรยาย
นอกจากนี้ เครื่องเคลือบพวกนี้นั้นยังมีความประณีตและสวยงามอย่างมาก
เยี่ยชิวหยิบชามจานลายครามขึ้นมาสองสามใบจากใต้ฝ่าเท้าของเขา แล้วมองดูพวกมัน เขาพบว่าเครื่องลายครามเหล่านี้มีต้นกำเนิดที่ดี ล้วนเป็นผลิตภัณฑ์ของราชวงศ์จากเตาเผาที่มีชื่อเสียง ใต้ฐานของรัชสมัยของจักรพรรดิก็สลักชื่อรัชสมัยของจักรพรรดิไว้ด้วย เครื่องลายครามแต่ละชิ้น
และทันใดนั้นเอง อยู่ๆเยี่ยชิวก็ถูกชุดน้ำชาลายครามสีขาวดึงดูดเข้า
เขาเดินไปหยิบถ้วยน้ำชาขึ้นมาดู และพบว่ามันเป็นเครื่องบรรณาการจากเตาเผาหลู่ในสมัยจักรพรรดิฮุ่ยจงแห่งราชวงศ์ซ่ง
“ดีเลย ตอนจะกลับก็สามารถนำสิ่งนี้กลับไปให้ท่านปู่ใช้ดื่มชาได้”
เยี่ยชิววางถ้วยชาลง หันหลังกลับและไปทางซ้าย มาถึงหน้าห้องโถงที่สาม
“คลังอาวุธ!”
เยี่ยชิวนั้นรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยเมื่อเห็นคำสามคำบนแผ่นโลหะทองสัมฤทธิ์
สำหรับผู้ฝึกวิทยายุทธ์แล้ว อาวุธคือสิ่งที่สามารถดึงดูดพวกเขาได้โดยธรรมชาติ เช่นเดียวสาวงามที่ดึงดูใจชายได้อย่างไงอย่างงั้น
แน่นอนว่า ว่าต้องมีผู้ฝึกวิทยายุทธ์ที่ไม่ชอบอาวุธ และคนเหล่านี้เป็นเพียงส่วนน้อย เช่นเดียวกับผู้ชายเพียงไม่กี่คนที่ไม่ชอบผู้หญิง
เยี่ยชิวแทบจะอดใจรอไม่ไหวที่จะผลักประตูให้เปิดออก และในทันใดเองก็มีพลังการบางอย่างมากระทบที่ใบหน้าของเขา
มันทำให้คนที่โดนนั้นรู้สึกหนาวไปทั้งตัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...
ช่วงนี้ทุกเรื่องทำไมมีแค่ห้าบรรทัด อ่านไม่รู้เรื่องเลย..ถ้าแอด..มีเวลารบกวนตรวจสอบให้ด้วยนะครับ..ขอร้อง...
สงสัยค่ะ สงสัยๆๆ เยี่ยวชิวจากนายแพทย์ฝึกหัดมาเป็นนักสู้ได้ยังไง...
ผู้หญิงคือเลวเลยอะ...
51 หายไปไหน...