เยี่ยชิวอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ เพราะเขาพบว่าตำหนักที่หกนั้นแตกต่างออกไป
อันดับแรก ตำหนักนี้มีขนาดเล็กมาก
ถึงแม้ว่ารูปแบบสถาปัตยกรรมจะเหมือนกับตำหนักอื่นๆ แต่ตำหนักนี้ดูเหมือนบ้านหลังเล็กๆ มันมีที่เพียง สองร้อยตารางเมตรเท่านั้น ดังนั้นเป็นธรรมดามากถ้จะรู้สึกว่ามันมีขนาดเล็ก
อันดับที่สอง ไม่มีป้ายแผ่นทองสัมฤทธิ์แขวนอยู่เหนือทางเข้าหลักของตำหนักนี้
ตำหนักทั้งห้าก่อนหน้านี้นั้นล้วนมีป้ายแผ่นทองสัมฤทธิ์เขียนบอกไว้ว่าแต่ละตำหนักคืออะไร แต่ตำหนักกลับนี้ไม่มี
มันช่างดูผิดปกติมาก
เยี่ยชิวยืนอยู่นอกประตู เขารู้สึกหนักแน่นว่าจะต้องมีสมบัติล้ำค่าในตำหนักนี้
“มันจะเป็นอะไรกันนะ?”
เยี่ยชิวตอนนี้นั้นทั้งรู้สึกตื่นเต้นและอยากรู้อยากเห็นมนเวลาเดียวกัน จากนั้นเขาก็ยื่นมือออกไปเปิดประตู
คาดไม่ถึงเลยว่า ทันทีที่มือของเขาจับไปที่ประตู อยู่ๆก็มีลมพัดแรงมหาศาลเกิดขึ้น
เยี่ยชิวไม่ทันได้ระวังถูกลมนั้นพัดเขาลอยออกไปไกลกว่าสิบเมตรและตกลงมาอย่างแรง ตอนนี้เขามีเลือดไหลออกมาจากมุมปาก
และเจ็บที่ช่วงหน้าอกราวกับมีเลือดพุ่งพล่านในนั้น
พลังที่ตีเขาออกมาเมื่อสักครู่นี้นั้น มันมีพลังราวกับผู้ฝึกฝนพลังชี่เเท้ที่เจ็ดเลย ช่างร้ายกาจมาก
เยี่ยชิวไม่เพียงแต่จะไม่รู้สึกกลัวแล้วนั้น เขากลับรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาอีกต่างหาก
ยิ่งเข้าประตูยากก็ยิ่งแปลว่ามีสิ่งดีอยู่ข้างใน
เยี่ยชิวรีบลุกขึ้นจากพื้น จากนั้นลืมตาขึ้นและมองไปที่ประตู
เขาต้องการที่จะรู้ว่าพลังเมื่อกี้นี้มาจากไหน?
วินาทีต่อมา ดวงตาของเยี่ยชิวก็เปล่งแสงสีทองออกมา มันสว่างราวกับทองคำยังไงอย่างนั้น
วินาทีต่อมา แสงสีทองก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของ Ye Qiu สว่างราวกับทองคำ
ไม่เพียงแต่ประตูเท่านั้น แต่ยังรวมถึงชั้นนอกของตำหนักทั้งหมดที่เปล่งแสงสีทองออกมา
ชั้นแสงสีทองนี้บดบังการมองเห็นของเยี่ยชิวโดยสิ้นเชิง ทำให้ดวงตาสวรรค์ของเขาไม่สามารถมองผ่านได้
สิ่งที่น่าแปลกก็คือ เมื่อเยี่ยชิวเก็บดวงตาสวรรค์ของเขาแล้วมองใหม่ เขาก็เห็นมันเพียงตำหนักธรรมดาเล็กๆเท่านั้น
“ชั้นแสงสีทองนี้คืออะไรกันนะ?”
“ผนึกงั้นหรอ?”
“หรือจะเป็นค่ายกล?”
เยี่ยชิวใช้ดวงตาสวรรค์ของเขาอีกครั้ง และจ้องไปที่ตำหนักนั้น นอกจากชั้นแสงสีทองพวกนั้น เขาก็ไม่เจออะไรที่ผิดปกติ
หลังจากนั้น เขาก็รวมพลังชี่เเท้ไว้ที่ปลายนิ้วของเขา และดันไปที่ประตูเบาๆ
“ปัง!”
เยี่ยชิวถูกกระแทกลอยออกไปอีกครั้ง
แต่ทว่า ครั้งนี้เยี่ยชิวนั้นได้เตรียมความพร้อมมาแล้ว เขาจึงไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
“บ้าเอ๊ย นี่มันบ้าอะไรเนี่ย”
เยี่ยชิวรู้สึกงุนงง และในเวลาเดียวกัน เขาก็เสียดายที่ไม่ได้พาอมตะชางเหม่ยมาด้วย
“ถ้าตาเฒ่าอยู่ที่นี่ เขาอาจจะบอกอะไรบางอย่างได้ก็ได้”
“ไม่ใช่สิ ตอนนี้ตาเฒ่านั้นตาบอดมองอะไรไม่เห็น”
“ฉันจะเปิดประตูนี้ได้ยังไง”
เยี่ยชิวคิดอย่างหนัก
เขาคิดอยู่สักพักแต่ก็คิดหาวิธีไม่ได้
“ช่างมัน ในเมื่อไม่มีทางอื่นแล้วก็ใช้กำลังพังเขาไปแล้วกัน”
“ลืมมันไปเถอะ เนื่องจากไม่มีทางอื่น แค่ใช้กำลังอันดุร้ายเพื่อเปิดประตู” เยี่ยชิวหายใจเข้าลึก ๆ และเริ่มใช้วิชามังกรศักดิ์สิทธิ์เก้าชั้นเชิงของเขา เขากำหมัดขวาไว้แน่น จากนั้นเขาก็ต่อยไปที่ประตูอย่างแรง
“บูม!”
ทันทีที่หมัดของเขาชกไปที่ประตู พลังมังกรนั้นก็ตีกลับใส่เขา และทำให้เขานั้นกระเด็นออกไปอีกครั้ง
เย่ชิวตีลังกากลับหลังเล็กน้อยและร่อนลงบนพื้นอย่างราบรื่น จ้องมองที่ตำหนัก รู้สึกกังวลอยู่พักหนึ่ง
“จะทำยังไงดี”
ในขณะที่เขากำลังร้อนใจอยู่นั้น เขาก็คิดออกวิธีหนึ่ง
“ทำไมข้าถึงลืมวิชาหารหายตัวไปกันนะ ในเมื่อพังประตูเข้าไปไม่ได้ ทำไมไม่หายตัวเข้าไปล่ะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...
ช่วงนี้ทุกเรื่องทำไมมีแค่ห้าบรรทัด อ่านไม่รู้เรื่องเลย..ถ้าแอด..มีเวลารบกวนตรวจสอบให้ด้วยนะครับ..ขอร้อง...
สงสัยค่ะ สงสัยๆๆ เยี่ยวชิวจากนายแพทย์ฝึกหัดมาเป็นนักสู้ได้ยังไง...
ผู้หญิงคือเลวเลยอะ...
51 หายไปไหน...