กวนจงต้าฮั่น?
ยังอีกยี่สิบ?
ทำนองเพลงท่อนหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวของอมตะชางเหม่ย “ดอกเบญจมาศร่วงโรย ความเศร้าโศกโปรยปราย……”
“ไอ้เด็กเปรต แกน่าขยะแขยงจริงๆ” เขาถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่งก่อนจะเดินหันหลังกลับ
เยี่ยชิวยิ้มอย่างมีความสุขและเดินตามไป
ไม่นานนัก ก็มีรถเก๋งสีดำคันหนึ่งมาจอดตรงหน้าพวกเขาทั้งสอง กระจกรถเก๋งลดต่ำลง เผยให้เห็นใบหน้าที่คุ้นเคย
เซียวจ้าน!
เซียวจ้านกลับมาเจียงโจวทันที หลังจากที่เยี่ยชิวและอมตะชางเหม่ยออกจากเมืองหลวง
“พี่เขย ขึ้นรถเร็วเข้า!” เซียวจ้านตะโกน
เยี่ยชิวและอมตะชางเหม่ยรีบขึ้นรถทันที
“พี่เขย พี่จะไปไหนครับ?” เซียวจ้านถามขึ้น
“ไปวิลล่า” เยี่ยชิวตอบ “เวลานี้ ตาเฒ่านี่ต้องอยู่เจียงโจวไปก่อน นายช่วยจัดการเรื่องที่พักกับอาหารให้ทีนะ”
“ครับ” เซียวจ้านตอบรับพร้อมกับขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อมาถึงวิลล่า
เยี่ยชิวได้กำชับเซียวจ้านว่า “คืนนี้ฉันจะพักที่นี่แหละ นายช่วยฉันหาเตาปรุงยามาให้ฉันพรุ่งนี้เช้าหน่อยสิ”
“ใช่แล้ว นายช่วยฉันหาหยกเขียวจักรพรรดิเม็ดใหญ่ให้ฉันด้วยนะ ฉันต้องรีบใช้”
“ได้ครับ”เซียวจ้านพยักหน้าตอบรับพร้อมกับพูดว่า “พี่ใหญ่ พี่สาวผมอยากเลี้ยงข้าวพี่ที่บ้านน่ะ พี่ว่างเมื่อไหร่ครับ?”
เยี่ยชิวคิดครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “รอยาอายุวัฒนะของฉันเสร็จแล้วค่อยไปหาพี่สาวนายละกัน!”
ในคืนนั้น เยี่ยชิวพักอยู่ในวิลล่า
รุ่งเช้าวันที่สอง ขณะที่เยี่ยชิวและอมตะชางเหม่ยกำลังกินข้าวเช้ากันอยู่นั้น เซียวจ้านก็เดินมาพร้อมกับหม้อปรุงยาทองแดงสองใบในมือ
“พี่เขย หม้อปรุงยาทองแดงสองใบนี้ใช้ได้รึเปล่า ถ้าไม่โอเคผมจะได้ไปหามาใหม่” เซียวจ้านกล่าว
เยี่ยชิวหันไปมองแล้วพยักหน้า “โอเคเลย”
“เหลือแต่หยกที่พี่เขยต้องการครับ ผมติดต่อเฉาชิงเฉิงไปแล้ว เธอมีหยกเขียวจักรพรรดิเม็ดงามเชียวล่ะ เมื่อคืนวานมีคนเอามาส่งให้ที่เจียงโจว ตอนนี้อยู่ในรถผมแล้ว ผมจะเอาให้ดู”
หลังจากที่เซียวจ้านพูดจบ เขาก็วิ่งไปเปิดประตูหลังรถพร้อมกับหอบกล่องไม้เดินมา
ทันทีที่เปิดกล่องไม้ออก ความสวยงามของหยกเขียวจักรพรรดิก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าพวกเขาทั้งสาม
เซียวจ้านกล่าวว่า “ตามที่เฉาชิงเฉิงพูดไว้จริงๆ หยกเม็ดนี้หนักห้ากิโล มูลค่าก็ไม่ธรรมดาเลย”
อมตะชางเหม่ยตาเป็นประกาย ถามขึ้นว่า “ไอ้เด็กเปรต เจ้ารู้ว่าข้าชอบหินหยกก็เลยเอาหยกเม็ดนี้มาให้ข้าใช่หรือไม่?”
“เราเป็นเพื่อนสนิทกันนะ ทำไมต้องเกรงใจกันขนาดนี้ล่ะ?”
“ในเมื่อเจ้ามีน้ำใจขนาดนี้ จะปฏิเสธได้ยังไง งั้นข้ารับไว้แล้วกัน!”
อมตะชางเหม่ยพูดจบก็ยื่นแขนออกไปเพื่อจะรับกล่องไม้นั่นเอาไว้
“เพี๊ยะ!”
เยี่ยชิวยื่นมือออกไปดั่งฟ้าแลบ และตีไปที่มือของอมตะชางเหม่ยพร้อมกับพูดว่า “ท่านห้ามยุ่งกับหยกเม็ดนี้เชียว ผมจะต้องใช้มัน”
“หึ ใครหวงกันล่ะ” อมตะชางเหม่ยพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาหน้าเหยเก พลางดึงแขนตัวเองกลับทันที
“ตาเฒ่า ผมขอยันต์อัคนีหน่อยสิ”เยี่ยชิวกล่าว
อมตะชางเหม่ยรู้ทันทีว่าเยี่ยชิวต้องการจะทำอะไรและถามออกไปว่า “ไอ้เด็กเปรต เจ้าจะใช้ยันต์อัคนีเพื่อปรุงยางั้นเหรอ?”
“หรือว่าจะใช้ตัวเองก่อไฟกันล่ะ?” เยี่ยชิวกล่าว “ก่อไฟเองมันจะช้าเกินไป อีกอย่างกำลังไฟก็ควบคุมยาก ไม่เหมือนกับยันต์อัคนีที่แปปเดียวก็เผาไหม้แล้ว แถมยังเผาได้นานด้วยแรงไฟที่เท่ากัน เหมาะกับการต้มยาเป็นที่สุด”
อมตะชางเหม่ยไม่เห็นด้วยและพูดว่า “ยันต์อัคนีใช้ไปหมดแล้ว”
เยี่ยชิวพูดอย่างเย็นชาว่า “อย่าไร้สาระน่า รีบเอาให้ผมเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นอย่าหาว่าผมไม่เกรงใจนะ”
“ไอ้เด็กเปรต เจ้าหมายความว่าไง จะแข็งข้อกับข้างั้นเหรอ? เจ้าคิดว่าข้าจะกลัวเจ้า……”
ไม่ทันที่อมตะชางเหม่ยจะพูดจบเขาก็เห็นเยี่ยชิวหยิบแส้เทพออกมา เขาห่อเหี่ยวลงทันทีพร้อมกับหัวเราะเหอะๆ “ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าแค่ล้อเจ้าเล่นเอง จริงจังไปได้น่า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...
ช่วงนี้ทุกเรื่องทำไมมีแค่ห้าบรรทัด อ่านไม่รู้เรื่องเลย..ถ้าแอด..มีเวลารบกวนตรวจสอบให้ด้วยนะครับ..ขอร้อง...
สงสัยค่ะ สงสัยๆๆ เยี่ยวชิวจากนายแพทย์ฝึกหัดมาเป็นนักสู้ได้ยังไง...
ผู้หญิงคือเลวเลยอะ...
51 หายไปไหน...