วิสารทแพทย์เทวัญ นิยาย บท 150

“ม่าย--”

ปรมาจารย์โม่รีบตะโกนลั่น แต่ก็ยังสายเกินไป เห็นเพียงเยี่ยชิวกำลังเหยียบร่างของแมลงอย่างแรง

บู้ม!

แมลงถูกเหยียบย่ำจนร่างแตกเป็นชิ้นๆ

ขณะนั้นเอง ปรมาจารย์โม่รู้สึกราวกับว่าเขาถูกฟ้าผ่าแสกหน้า สีหน้าซีดเผือด ร่างกายสั่นเทา และดูเหมือนว่าเขาพร้อมจะล้มไปกองที่พื้นได้ทุกเมื่อ

“ปรมาจารย์โม่ คุณโอเคไหมครับ?” เฝิงโย่วหลิงรีบเดินเข้าประคองปรมาจารย์โม่ และถามด้วยความเป็นห่วง

ปรมาจารย์โม่ไม่พูดอะไร แต่จ้องไปที่เยี่ยชิวด้วยแววตาเฉียบคมราวกับมีด

เยี่ยชิวทำเหมือนกับว่าเขาไม่เห็นมันและพูดด้วยรอยยิ้ม “ปรมาจารย์โม่ คุณรู้สึกไม่สบายหรือเปล่าครับ? ให้ผมฝังเข็มให้สักหน่อยไหม?”

“ไม่ต้อง ลาล่ะ!”

ปรมาจารย์โม่หมุนตัวและเดินจากไป

“หยุด!” เยี่ยชิวตะโกน

“มีอะไร คุณยังอยากให้ผมอยู่ที่นี่อีกเหรอ?” น้ำเสียงของปรมาจารย์โม่แฝงไปด้วยความอาฆาตอย่างชัดเจน

เยี่ยชิวหัวเราะและพูดว่า “คุณเข้าใจผิดแล้ว ผมแค่อยากจะบอกว่าคุณออกไปได้ แต่มีของบางอย่างที่คุณต้องเอาไว้”

ปรมาจารย์โม่ถามโดยไม่หันกลับมามอง “ของอะไร?”

“หลักฐานลายลักษณ์อักษร”

“เหอะ” ปรมาจารย์โม่เหอะเย็นชา แล้วหยิบเอกสารที่หวังซวนลงลายลักษณ์อักษรไว้ก่อนหน้านี้ออกมาจากกระเป๋า จากนั้นกก็โยนมันลงบนพื้น และเดินออกประตูไป

เยี่ยชิวมองไปที่แผ่นหลังของปรมาจารย์โม่ มีแสงเย็นวาบในแววตาของเขา

“หวังซวน งั้นผมขอตัวก่อน วันหลังค่อยมาเยี่ยมดูอาการผู้เฒ่าหวัง” เฝิงโย่วหลิงกล่าวลาและรีบจากไปเหมือนกัน

ด้านนอกประตูตระกูลหวัง

เฝิงโย่วหลิงขึ้นรถและเห็นปรมาจารย์โม่นั่งอยู่ที่เบาะหลังด้วยสีหน้าเย็นชา

“ปรมาจารย์โม่ คุณไม่เป็นไรใช่ไหมครับ?” เฝิงโย่วหลิงถาม

“ยังกล้าถามอีกเหรอ ถ้าไม่ใช่เพราะนาย ฉันจะเป็นอย่างนี้เหรอ?” ปรมาจารย์โม่พูดด้วยความโมโห “ฉันเคยพูดไปแล้วว่า แค่ได้เงินหนึ่งพันล้านจากตระกูลหวังก็พอแล้ว แต่นายกลับเอาแต่บอกว่าต้องการทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของตระกูล ตอนนี้โอเคแล้วใช่ไหมล่ะ คว้าน้ำเหลว เหนื่อยเปล่า ไร้ประโยชน์”

“ปรมาจารย์โม่ เรื่องนี้ไม่สามารถโทษผมได้ทั้งหมด”

“ถ้าไม่โทษนายแล้วจะโทษใคร? ไม่ใช่แค่ไม่ได้เงินสักแดงเดียวนะ แต่ยังทำหนอนพิษกู่ของฉันตายด้วย นายมันโง่ดักดาน!”

“ปรมาจารย์โม่ คุณพูดแบบนี้ก็ไม่ถูก ผมจะรู้ได้อย่างไรว่าในช่วงเวลาสำคัญแบบนั้นคุณจะทำพลาด” เฝิงโย่วหลิงกล่าวต่อว่า “หวังซวนลงลายลักษณ์อักษรและสัญญาว่าจะมอบทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของตระกูลให้แล้วด้วยซ้ำ แต่ใครจะรู้ว่าคุณจะรักษาผู้เฒ่าหวังไม่สำเร็จ”

“นายหมายความว่าอะไร? นายจะโยนความผิดทั้งหมดให้ฉันใช่ไหม เฝิงโย่วหลิง ถ้านายไม่โลภ ตอนนี้นายคงได้เงินหนึ่งพันล้านไปแล้ว”

“ปรมาจารย์โม่ ก่อนที่คุณจะไปบ้านตระกูลหวัง คุณสาบานว่าจะสามารถรักษาผู้เฒ่าหวังได้ แล้วผลลัพธ์คืออะไร?”

“นาย……”

“เอาล่ะปรมาจารย์โม่ คุณเลิกโกรธได้แล้ว เรื่องนี้ไม่สำเร็จ อย่าโทษพวกเราเลย ถ้าจะโทษก็โทษไอ้เยี่ยชิวนั่น”

เฝิงโย่วหลิงโกรธจนหน้าเขียว เขาใช้ความพยายามอย่างมากกับแผนการนี้ เขาวางแผนร่วมมือกับปรมาจารย์โม่ คือให้วางยาพิษผู้เฒ่าหวังก่อน จากนั้นค่อยแสร้งทำเป็นคนดี พาปรมาจารย์โม่เข้ามารักษาอาการป่วยของผู้เฒ่าหวัง

ถ้าแผนครั้งประสบความสำเร็จ เขาและปรมาจารย์โม่ไม่เพียงได้รับทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของตระกูลหวัง แต่ยังทำให้ตระกูลหวังเป็นหนี้บุญคุณพวกเขาด้วย

ตอนแรกมันเป็นเรื่องที่ไร้ข้อผิดพลาด แต่จู่ๆ ก็มีบางสิ่งบางอย่างที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นในวินาทีสุดท้าย

“เยี่ยชิว ไอ้หมาสวะนี่ ไม่ใช่ครั้งสองครั้งที่ทำเรื่องของฉันพังแล้ว”

เฝิงโย่วหลิงกัดฟันกรอด “ปรมาจารย์โม่ ผมไม่เข้าใจ พิษในร่างกายของผู้เฒ่าหวังเกิดจากคุณ ทำไมคุณรักษาผู้เฒ่าหวังไม่ได้ แต่เยี่ยชิวกลับทำได้”

“ฉันเองก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เรื่องนี้มันแปลกมาก”

ปรมาจารย์โม่ก็ไม่เข้าใจว่าหนอนพิษกู่ที่เขาเลี้ยงเองกับมือ ทำไมถึงควบคุมไม่ได้?

“คุณเคยเจอสถานการณ์นี้มาก่อนไหมครับ?” เฝิงโย่วหลิงถาม

ปรมาจารย์โม่ส่ายหัว และพูดว่า “ฉันไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน”

“ถ้าแบบนั้นก็แปลกมาก ทำไมหนอนพิษกู่ถึงไม่ยอมอยู่ภายใต้การควบคุมของคุณล่ะ?” เฝิงโย่วหลิงขมวดคิ้ว

ปรมาจารย์โม่กล่าวว่า “ตอนที่ฉันรักษาผู้เฒ่าหวังครั้งแรก หนอนพิษกู่ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของฉัน แต่พอรักษาครั้งที่สอง อยู่ดีๆ หนอนพิษกู่ก็ควบคุมไม่ได้ ไม่ว่าฉันจะใช้วิธีไหนก็ไม่ได้ผล”

“คุณบอกชัดๆ อีกทีได้ไหม ว่าตกลงแล้วหนอนพิษกู่อยู่นอกการควบคุมหรือการสื่อสารระหว่างคุณกับหนอนพิษกู่ขาดหายไป?”

“การสื่อสารขาดหายไป”

เฝิงโย่วหลิงกล่าวว่า “เรื่องนี้แปลกมาก จู่ๆ การสื่อสารกับหนอนพิษกู่จะขาดหายไปได้อย่างไร?”

ปรมาจารย์โม่พูดสีหน้าเคร่งขรึม “ฉันเองก็ไม่เข้าใจเลยสักนิด เจ้าตัวน้อยนั่นกินเลือดของฉันจนเติบโตมา ฉันเลี้ยงมันมาเกือบสิบปีแล้ว ไม่เพียงเท่านั้น แม้แต่ตัวแม่ของหนอนพิษกู่ก็สื่อสารกับมันไม่ได้ คนแบบนี้ เรื่องแบบนี้ฉันไม่เคยพบเคยเจอมาก่อนเลย....อ่าใช่ จู่ๆ ฉันก็คิดเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้”

“เรื่องอะไร?”

“หลังจากที่ตัวแม่หนอนพิษกู่เข้าปากของผู้เฒ่าหวังแล้ว ก็เจอสิ่งที่ตกใจมาก ฉันเองก็ไม่รู้เหตุผล”

“โอ้ ยังมีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ?”

เฝิงโย่วหลิงหลับตาและทบทวนสิ่งที่ปรมาจารย์โม่พูดในใจอีกรอบ

“ผมรู้เหตุผลแล้ว” ทันใดนั้นเฝิงโย่วหลิงก็ลืมตาขึ้นมาแล้วพูด

“พูดมาเร็วเข้า” ปรมาจารย์โม่อยากรู้เหตุผลจนแทบรอไม่ไหว

“เยี่ยชิว!” เฝิงโย่วหลิงกัดฟันแล้วพูดว่า “พวกเราถูกเยี่ยชิวหลอก”

“เยี่ยชิว?” ปรมาจารย์โม่ขมวดคิ้วเล็กน้อยไม่ค่อยอยากจะเชื่อ

เฝิงโย่วหลิงกล่าวว่า “เยี่ยชิว ไอ้เวรนั่น คงรู้ว่าผู้เฒ่าหวังถูกวางยาตั้งแต่แรกแล้ว ไม่อย่างนั้นมันคงไม่บอกหวังซวนอย่างมั่นใจว่าสามารถรักษาผู้เฒ่าหวังได้”

“เยี่ยชิว ไอ้สารเลวคงแอบใช้วิธีอะไรสักอย่าง เพื่อตัดการเชื่อมต่อสื่อสารระหว่างคุณกับหนอนพิษกู่ จนทำให้คุณไม่สามารถควบคุมหนอนพิษกู่ได้ไม่ว่าคุณจะใช้วิธีใดก็ตาม”

“รอจนคุณทำไม่สำเร็จ มันก็แสดงตัวออกมา และรักษาผู้เฒ่าหวังอย่างง่ายดาย”

“คุณว่า เรื่องนี้ถ้าไม่ใช่ฝีมือของมัน จะเป็นฝีมือของใครได้อีก?”

จู่ๆ ปรมาจารย์โม่ก็เข้าใจและพูดว่า “ก่อนหน้านี้ฉันสังเกตเห็นว่าตอนที่เยี่ยชิวเริ่มรักษาอาการของผู้เฒ่าหวัง เขาใช้ฝังเข็มลมปราณก่อน และต่อมาก็ใช้การฝังเข็มเจ็ดดาว เทคนิคการฝังเข็มทั้งสองวิธีนี้สูญหายไปหลายปีแล้ว แต่เยี่ยชิวกลับทำได้ เพราะแบบนี้จึงแสดงให้เห็นว่า

“ดูเหมือนว่าฉันจะประเมินมันต่ำเกินไป”

ปรมาจารย์โม่รู้สึกเสียใจมาก และพูดว่า “ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ ตอนแรกพวกเราน่าจะขัดขวางพวกมันไม่ให้เข้าไปในบ้านตระกูลหวัง”

“ความมั่งคั่งนับหมื่นล้านใกล้จะได้มาครอบครองแท้ๆ แต่ไอ้สารเลวคนนี้ทำลายไปจนหมดสิ้น สมควรตายจริงๆ” เฝิงโย่วหลิงพูดด้วยน้ำเสียงเกลียดชัง “ปรมาจารย์โม่ พวกเราจะปล่อยเรื่องนี้ไปไม่ได้”

“นายต้องการจะทำอย่างไร?” ปรมาจารย์โม่ถาม

มีคำสี่คำลอดไรฟันของเฝิงโย่วหลิงออกมา “ฆ่าเยี่ยชิวสะ!”

“ตกลง!” ปรมาจารย์โม่เห็นด้วยทันทีและกล่าวว่า “ปล่อยให้เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของฉัน การเอาชีวิตของเขานั้นง่ายเหมือนปอกกล้วย”

“เลือกวันสู้วันที่เหมาะสมไม่ได้ ให้เป็นไปตามธรรมชาติดีกว่า ปรมาจารย์โม่ หรือว่าวันนี้ก็ฆ่ามันสะ?”

“ไม่ใช่วันนี้ วันนี้ฉันมีเรื่องใหญ่ที่ต้องทำ”

“เรื่องใหญ่อะไร?” เฝิงโย่วหลิงมองไปที่ปรมาจารย์โม่ด้วยสีหน้างงงวย

“นายไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องนี้ และก็ไม่ต้องไปถาม ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่ายกครัวนายสะ”

สีหน้าอาฆาตอันแรงกล้าแสดงออกมาอย่างกะทันหัน ทำเอาเฝิงโย่วหลิงตกใจไปชั่วขณะ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ