ไปทางตะวันตก?
เมื่อเยี่ยชิวได้ยินสิ่งที่อมตะชางเหม่ยพูด เขาก็นึกถึงภาพยนตร์เรื่องหนึ่งขึ้นมาทันทีและเขาก็ถามขึ้นว่า:“ตาเฒ่า นี้เจ้าดูหนังมากเกินไปหรือเปล่า? ไปทางตะวันตก ทำไมไม่ลองไปทางเหนือล่ะ?”
“อย่าพูดเรื่องไร้สาระ ถ้าเจ้าเชื่อข้าก็แค่ตามข้ามา” หลังจากที่อมตะชางเหม่ยพูดจบ เขาก็นำไปทางทิศตะวันตก
เยี่ยชิวก็เดินตามไป
แผ่นน้ำแข็งนั้นกว้างใหญ่และไร้ขอบเขต และมีขนาดเล็กเท่ากับมดสองตัว
พวกเขาเดินอยู่เป็นเวลาหลายชั่วโมง
ทันใดนั้นลมก็พัดแรง หิมะตกหนัก และอากาศหนาวมากจนสั่นสะท้าน
อย่างไรก็ตาม พวกเขายังคงไม่หยุดเดิน
อมตะชางเหม่ยอดไม่ได้ที่จะบ่น:“ไอ้เจ้าเด็กเหลือขอ นี้มันเป็นความผิดของเจ้าทั้งหมด หากเจ้าเข้าร่วมนิกายดาบชิงอวิ๋น เราก็คงจะได้ดื่มและกินเนื้อบนอาวุธวิเศษที่บินได้ไปแล้ว ทำไมเราจะต้องทนทุกข์ทรมานเช่นนี้?”
“ข้าจะหนาวตายอยู่แล้ว”
“การที่ต้องมาติดตามเจ้านั้นถือเป็นโชคร้ายมาแปดชั่วอายุคน”
เยี่ยชิวยิ้มและพูดว่า:“ไม่ต้องกังวลไป เจ้านั้นมีผิวหนังที่หยาบและหนา เจ้าไม่หนาวจนตายหรอก”
อมตะชางเหม่ยจ้องมองไปที่เยี่ยชิวแล้วพูดว่า:“เจ้าช่วยพูดจากับข้าดีๆหน่อยได้ไหม?หากเจ้ายังเป็นเช่นนี้ต่อไประวังข้าจะตัดเพื่อนกับเจ้านะ”
“เอาล่ะ อย่าโกรธเลย” เยี่ยชิวพูดต่ออีกว่า:“จริงๆแล้วข้าค่อนข้างสงสัยเลยว่า ในโทรศัทพ์ที่เจ้ามอบให้แก่ชงซวีเต้าจ่างในนั้นมันมีหนังประเทศไหนอยู่กัน?”
อมตะชางเหม่ยเราะเบา ๆ แล้วพูดว่า:“หนังในนั้นเป็นหนังธรรมดาทั้งนั้น เช่น พี่สะใภ้ใจดี เพื่อนของแม่ เพื่อนบ้านที่กระตือรือร้น ผู้เช่าชั้นล่าง ... ”
คนจริงที่เลิกคิ้วยาวหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดว่า: "นั่นเป็นภาพยนตร์คลาสสิกทั้งหมด "
ทั้งสองคนเดินอย่างรวดเร็วและพูดคุยกัน
ลมและหิมะเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากเดินไปอีกสองชั่วโมง อมตะชางเหม่ยก็หยุดและพูดว่า:“ข้าว่าข้าได้แรงบัลดาลใจให้การแต่งบทกวีแล้วล่ะ”
เอาอีกล่ะ นิสัยเก่าๆมาอีกแล้ว
เยี่ยชิวรู้สึกหมดคำจะพูด
และอมตะชางเหม่ยก็ส่ายหัวและร่ายบทกลอนขึ้น:
“ว้าว หิมะตกหนักมาก!”
“ท้องฟ้าเป็นสีขาว”
“โลกเป็นสีขาวด้วยดอกไม้”
“ดอกไม้สีขาวบนภูเขา”
“ดอกไม้สีขาวบนหัว”
“โลกทั้งใบเต็มไปด้วยดอกไม้สีขาว!”
หลังจากที่อมตะชางเหม่ยร่ายบทกวีจบแล้ว เขาก็ถามว่า:“ไอ้เจ้าเด็กเหลือขอ เจ้าคิดอย่างไรกับบทกวีที่ข้าเขียนนี้”
เยี่ยชิวตอบกลับว่า:“ถ้าข้าจำไม่ผิดล่ะก็ ดูเหมือนว่าเจ้าจะเคยร่ายบทกวีนี้มาก่อนนะ”
“จริงเหรอ?” อมตะชางเหม่ยถามและอยู่ๆเขาก็ยิ้มขึ้นแล้วพูดว่า:“งั้นข้าเขียนกวีบทใหม่ขึ้นมาอีกบทก็แล้วกัน”
หะ อยู่ๆก็ติดใจอะไรขึ้นมา?
อมตะชางเหม่ยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจู่ๆ ก็พูดขึ้นมาว่า:“ใช่แล้ว”
“ไอ้เจ้าเด็กเหลือขอ เจ้าฟังให้ดีนะ บทกวีนี้มีชื่อว่า《บทเพลงแห่งหิมะ》”
“นางฟ้าจากสวรรค์ทั้งเก้าโปรยดอกไม้สีเงินและร้อยด้ายเข็มและด้ายอย่างระมัดระวัง”
“ฉันเย็บผ้านวมพันผืนในคืนเดียว และฉันต้องการทำให้บ้านอบอุ่นหลายพันหลัง!”
เยี่ยชิวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เพราะเมื่อเทียบกับกวีที่อมตะชางเหม่ยเคยแต่งงมา บทนี้ดูเข้าท่าที่สุดแล้ว ในที่สุดเขาก็อดที่จะถามขึ้นมาไม่ได้:“ตาเฒ่า เจ้าเป็นคนแต่งบทกวีนี้ขึ้นมาเองจริงๆหรอ?”
อมตะชางเหม่ยพูดอย่างเหน็บแนมว่า:“บทกวีนี้เขียนดีไม่ใช่หรือ สรรเสริญข้าสิ”
จริงๆเจ้าก็ทำอะไรได้เหมือนกันนะเนี่ย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
ไอ้ชิบหาย มีแต่หน้าเปล่าๆมา3วันแล้ว พอๆเลิกอ่านบล็อคแม่งออกเลย หนังสือที่อื่นมีอ่านเยอะแยะ...
หลังๆทำไมลงแต่หน้าเปล่า ไม่มีตัวหนังสือสักตัว...
จะอ่านบท1611-1616ยังใงคับ...
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...
ช่วงนี้ทุกเรื่องทำไมมีแค่ห้าบรรทัด อ่านไม่รู้เรื่องเลย..ถ้าแอด..มีเวลารบกวนตรวจสอบให้ด้วยนะครับ..ขอร้อง...
สงสัยค่ะ สงสัยๆๆ เยี่ยวชิวจากนายแพทย์ฝึกหัดมาเป็นนักสู้ได้ยังไง...
ผู้หญิงคือเลวเลยอะ...