บูม!
เย่ชิวตกตะลึงอย่างหนัก
ต้นกำเนิดของนักพรตเต๋าเฒ่าที่อยู่ตรงหน้าฉันนั้นมาจากไหนกัน
เขารู้จักพ่อที่ให้กำเนิดเขาได้อย่างไร
ในขณะที่เย่ชิวกำลังถามนั้น เขาได้พูดขึ้นว่า: “เพื่อนของฉันคนนั้น เขามีอีกชื่อหนึ่ง เขาชื่อเทพเจ้าแห่งความตาย นายรู้จักไหม”
“รู้จักสิ” เย่ชิวถามต่อ: “ท่านนักพรตเต๋าครับ เพื่อนของท่านคนนี้เป็นคนอย่างไรกัน”
“เขาหรอ” นักพรตเต๋าเฒ่านึกคิดครู่หนึ่งพร้อมพูดว่า: “พูดตามตรง ฉันไม่รู้ว่าจะอธิบายเขาอย่างไรดี ถ้าจำเป็นต้องอธิบายจริง ๆ ล่ะก็ เขาคืออัจฉริยะที่ไม่มีใครในโลกเทียบได้”
อัจฉริยะที่ไม่มีใครในโลกเทียบได้งั้นหรอ!
คำพูดเพียงไม่กี่คำ ทำเย่ชิวตกใจมาก
มันไม่ใช่คำพูดที่อธิบายอย่างธรรมดา
ในหลายพันปีที่ผ่านมามีน้อยคนที่จะสามารถถูกเรียกด้วยคำพูดนี้ได้
นักพรตเต๋าเฒ่าพลางพูดถอนหายใจ: “หลายปีมาแล้วที่ฉันไม่ได้เจอเพื่อนคนนั้น คิดถึงเขาเหลือเกิน”
“ท่านอาวุโส เพื่อนของท่านคนนี้หายไปไหนแล้วล่ะ?” เย่ชิวอยากทราบที่อยู่ของเย่อู๋ชวง
ใครจะไปรู้กันล่ะ นักพรตเต๋าเฒ่าท่านนั้นได้โบกมือพร้อมพูดว่า: “ไม่พูดถึงเขาแล้ว มาพูดถึงเรื่องพวกเราดีกว่า”
“เรื่องของพวกเราหรอ” เย่ชิวสงสัยว่าพวกเรามีเรื่องอะไรกัน?
นักพรตเต๋าเฒ่า: “เมื่อกี้นายขับรถชนฉันไม่ใช่หรอ?”
“ใช่ครับ” เย่ชิวพยักหน้าตอบ
“ชนคนแล้วก็ต้องจ่ายเงินมาด้วยสิ”
“หมายความว่าอะไรครับ?” เย่ชิวถามอย่างระมัดระวัง
“หนุ่มน้อย ฉันเห็นเธอหน้าตาหล่อเหลาและมีคุณธรรม ไม่น่าทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน งั้นแบบนี้ก็แล้วกัน เมื่อกี้นายชนฉัน นายจ่ายค่าเสียหายมาให้ฉันแค่ แสนหยวน เรื่องนี้ก็จะถือว่าจบลง”
จู่ ๆ เย่ชิวก็แสดงสีหน้าซีดออกมา
นี่มันเรียกว่าขอค่าชดเชยที่ไหน นี่มันนักต้มตุ๋นชัด ๆ เย่ชิวพูด:"ท่านนักบวช ท่านไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ท่านจะเอาเงินค่าเสียหายตั้งแสนหยวน นี่มันไม่เกินไปหน่อยหรอ?"
"หนุ่มน้อย นายคิดว่าฉันกำลังเล่นกับนายหรอ?"
"หรือว่ามันไม่ใช่หรอ?"
"แน่นอนว่าไม่ใช่" นักพรตเต๋าเฒ่าพูดด้วยสีหน้าขุ่นเคือง: "คนที่จนคือคนที่นับถือลัทธิเต๋า คนลัทธิเต๋าไม่รับเงิน แต่เมื่อนี้นายชนฉัน ถึงแม้ร่างกายด้านนอกของฉันจะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ด้านในได้รับบาดเจ็บ"
"คุณบาดเจ็บภายใน?" เย่ชิวหัวเราะ:"บังเอิญจัง ผมคือหมอ ท่านยื่นมือท่านมาให้ผม ผมจะตรวจชีพจรให้"
เออ......
นักพรตเต๋าเฒ่าแสดงสีหน้าซีดเเข็งอย่างชัดเจน
เย่ชิวรีบพูดต่อ: “ถึงแม้ว่าท่านจะได้รับบาดเจ็บไม่มาก แต่ผมเป็นหมอ ผมสามารถรักษาท่านได้”
“นี่......”
“ท่าบรีบยื่นแขนมาสิ”
“นายอยากทำอะไร”นักพรตเต๋าเฒ่าถอยห่างไปสองก้าว ดวงตามองไปที่เย่ชิวด้วยความตกใจ: “ผู้ชายกับผู้ชายไม่จูบกันนะ”
เย่ชิวเผลอหัวเราะออกมา: “ผมเคยแต่ได้ยินแต่ว่าผู้ชายผู้หญิงไม่จูบกันนะ แต่ไหนแต่ไหรไม่เคยได้ยินประโยคที่ท่านพูด”
“นี่ หนุ่มน้อย ปกติแผลด้านในหมอรักษาไม่ได้ งั้นเอาแบบนี้ก็แล้วกันไหม ฉันลดราคาให้นาย ฉันให้นายจ่ายเพียงห้าหมื่นหยวนแล้วถือว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น” นายว่าโอเคไหม?
“ผมว่าไม่โอเค”
“ฉันเห็นว่านายยังหนุ่มยังแน่น แต่ทำไมเป็นคนแบบนี้กันล่ะ ทำรถชนคนแล้วแม้ค่าทำขวัญก็ไม่ให้ อีกทั้งยังไม่ให้ความเคารพผู้สูงอายุอีก”
“เย่ชิว เกิดอะไรขึ้น” จู่ ๆ ก็มีเสียงหนึ่งโผล่ขึ้นมา หลินจิงจื้อยื่นมือออกมาจากหน้าต่ารถพร้อมพูดขึ้น
“นักพรตเต๋าเฒ่า ผมขอเตือนท่านหน่อย ท่านต้องมีคุณธรรมให้มาก ลาก่อน!”
เย่ชิวเพิกเฉยต่อนักบวชและขึ้นไปในรถ
ในขณะที่พวกเขาเตรียมตัวจะขับรถออก ชายนักบวชลัทธิเต๋าก็ได้วิ่งมาขวางหน้ารถไว้
จบแล้ววันดี ๆ ของฉัน......
คนแบบนี้น่ะหรอ คือเพื่อนของพ่อฉัน?
เย่ชิวในตอนนี้เขารู้สึกสงสัยอย่างหนักว่าชายชราลัทธิเต๋าท่านนี้คือนักต้มตุ๋น
“มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”หลินจิงจื้อถามด้วยความสงสัย
เย่ชิวเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้เขาฟังและพูดว่า: “ถ้าไม่เห็นว่าเขาอายุมากแล้ว ฉันจะลงมือไปนานแล้วนะ”
หลินจิงจื้อพูด: “ไม่ว่ายังไง นายก็เป็นคนขับรถชนเขานะ”
“แต่เขาไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อยเลยนะ”
“โชคดีที่เขาไม่ได้รับบาดเจ็บ ถ้าเขาได้รับบาดเจ็บขึ้นมา พวกเราต้องชดใช้ค่าเสียหายอย่างหนักเลยล่ะ”
เย่ชิวพูด: “ฉันว่าชายคนนี้เป็นนักต้มตุ๋นแน่ ๆ เพราะฉันเห็นเขาตั้งแต่ก่อนฟ้ายังไม่สางอยู่บนกลางถนน”
หลินจินจื้อหยิบเงินจำนวนหนึ่งออกมาจากในกระเป๋า ชายชรารีบวิ่งไปหยิบอย่ารวดเร็วพร้อมพูดว่า: “แม่หนู เธอเรียกฉันทำไมกัน”
ถึงแม้นักพรตเต๋าเฒ่าจะถามแบบนั้น แต่เขากลับจ้องมองแต่จำนวนเงินนั้น
“คุณลุงคะ เมื่อกี้แฟนของหนูขับรถชนคุณ เงินเหล่านี้ถือว่าเป็นการทำขวัญคุณนะคะ คุณลุงไม่ต้องเกรงใจ”
“พี่หลินครับ......”
เย่ชิวกำลังจะพูด นักพรตเต๋าเฒ่าคนนั้นได้รีบหยิบเงินจากมือหลินจิงจื้อไปทันทีพร้อมพูด: “ฉันไม่รับเงินมากหรอก ข้อดีอีกอย่าของฉันคือ ฉันไม่โลภมาก”
หลินจิงจื้อพูดต่อ:“เสียดายที่พวกเราพกเงินมาแค่นิดเดียว ถ้าพวกเราพกมาเยอะกว่านี้ พวกเราจะให้คุณมากกว่านี้อีก”
“ไม่เป็นไร พวกคุณสามารถใช้โทรศัพท์สแกนได้”ชายชราได้ยื่นคิวอาร์โค้ดของวีแชทให้
จู่ ๆ ใบหน้าของหลินจิงจื้อก็แข็งกระด้างขึ้นมาทันทีทันใด
นี่เรียกว่าไม่โลภ?
ฉันแค่พูดกับคุณด้วยความจริงใจ คุณกลับคิดว่ามันเป็นเรื่องจริงซะอย่างนั้น?
แบบนี้มันหน้าไม่อายเกินไปแล้ว!
หลินจิงจื้อรู้สึกเสียใจเล็กน้อย ถ้ารู้แต่ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เธอจะไม่ให้เงินชายชราเด็ดขาด
“นี่ อย่ามาคิดว่าตัวเองสำคัญมาก อย่าหาว่าฉันไม่เตือนด้วยล่ะ”เย่ชิวพูดด้วยความฉุนเฉียว
“ฮ่า ๆ ๆฉันแค่ล้อเล่นเอง” นักพรตลัทธิเต๋าหยิบเงินออกมาจากกระเป๋าพร้อมพูดว่า: “แม่หนู ฉันไม่คิดจะเอาเงินพวกเธอเปล่า ๆ หรอก ฉันแค่เล่นตลกเฉย ๆ สิ่งนี้ฉันบอกให้สามีของเธอ รีบมีลูกกันเร็ว ๆ ล่ะ”
นี่!
นักพรตเต๋าโยนกระเป๋าเงินใส่มือเย่ชิว
“ขอบคุณครับ”เย่ชิวตอบกลับอย่ามีมารยาท
“การพบกันคือโชคชะตา”นักพรตเต๋ามองไปทางเย่ชิวแล้วยิ้ม: “เจ้าหนุ่ม พวกเราเรามีพรหมลิขิตต่อกัน ในอนาคตพวกเราจะต้องได้เจอกันอีก”
เย่ชิวไม่เข้าใจนักพรตเต๋า เขาก้มมองที่กระเป๋าเงิน
“เอ๊ะ?” เย่ชิวตะลึงหนัก
“ทำไมหรอ?”หลินจิงจื้อชะโงกหน้ามองเย่ชิว
“การเย็บกระเป๋าใบนี้มันไม่ธรรมดา”
หลินจิงจื้อมองดูอยากละเอียดอีกครั้ง: “ด้ายทอง”
“ใช่”เย่ชิวพยักหน้าตอบ: “กระเป๋านี้ทำมาจากด้ายทอง”
“พระเจ้า จริงหรือนี่ นี่มันหรูหรามาก รีบมาดูเร็วว่าด้านในมีอะไร”
เย่ชิวก็รู้สึกสงสัยเช่นกัน ขณะที่เปิดถุงกระเป๋าเงินดูก็พบกับกระดาษที่เหลืองที่พับอยู่ด้านใน
บนนั้นมีข้อความเขียนอยู่หนึ่งประโยค
“ภายในปีนี้อย่าเดินทางเข้าเมืองหลวง ไม่งั้นเจ้าจะถูกสังหาร!”
เมื่อเย่ชิวเห็นประโยคนี้ เขาก็จำได้ทันทีว่าปีศาจผีบอกเขาก่อนที่เขาจะเสียชีวิต โดยบอกเขาว่าอย่าไปเมืองหลวง และไม่ต้องพูดถึงเย่ชวง ไม่เช่นนั้นภัยพิบัติจะเกิดขึ้น
นักพรตเต๋าเฒ่าผู้นี้รู้ได้อย่างไรว่าตัวเขาจะไปปักกิ่งจะถูกสังหาร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
สงสัยค่ะ สงสัยๆๆ เยี่ยวชิวจากนายแพทย์ฝึกหัดมาเป็นนักสู้ได้ยังไง...
ผู้หญิงคือเลวเลยอะ...
51 หายไปไหน...