“ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ...”
เหล่าศิษย์นิกายดาบชิงอวิ๋นต่างพุ่งเข้าใส่โลงศพทองคำอย่างบ้าคลั่ง ราวกับลืมเลือนซึ่งแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวที่แผ่ปกคลุมไปทั่ว
“กลับมา! กลับมาเดี๋ยวนี้นะ!” หยุนซีตวาดเสียงดัง
แต่...ทุกอย่างสายเกินไปแล้ว
“ปุ ปุ ปุ...”
ร่างของศิษย์นิกายดาบชิงอวิ๋นสิบกว่าคนแหลกสลายเป็นหมอกเลือดในพริบตา เหลือเพียงจิตวิญญาณที่ยังคงอยู่
หยุนซีรีบคว้าดวงจิตเหล่านั้นกลับมาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะจ้องมองไปยังจิ้งจอกขาวด้วยสายตาโกรธเกรี้ยว “จิ้งจอกสวรรค์เก้าหาง ยังกล้าปลุกปั่นยุยงอีก ฉันจะไม่เกรงใจนายแน่!”
จิ้งจอกขาวเหลือบมองหยุนซีด้วยสายตาเหยียดหยาม ราวกับจะบอกว่า เจ้าเด็กน้อย คิดว่าข้ากลัวเจ้าหรือไร?
หยุนซีกล่าวต่อ “ในเผ่าปีศาจ มีวิชาเทพหนึ่งที่เรียกว่าวิชาวาจามารยาลวง”
“ผู้ใดโดนวิชานี้เข้าจะขาดสติทันที”
เมื่อได้ยินดังนั้น เหล่าศิษย์นิกายดาบชิงอวิ๋นต่างโกรธแค้น
“จิ้งจอกสวรรค์เก้าหางใช้คำล่อลวงให้ผู้คนหลงผิด ช่างชั่วร้ายนัก”
“เผ่าปีศาจสมควรตายตกไปตามกัน อย่าปล่อยให้มันมีชีวิตอยู่”
“ฆ่ามัน!”
“......”
เสียงโวยวายดังระงม
เหล่าศิษย์นิกายดาบชิงอวิ๋นต่างชักอาวุธออกมา จ้องมองจิ้งจอกขาวด้วยสายตาอาฆาตแค้น พร้อมจะปลิดชีพมัน
จิ้งจอกขาวไม่สะทกสะท้าน กลับหัวเราะเยาะ “ฉันบอกให้พวกนายไปแย่งชิงโอกาสสูงสุด พวกนายก็ไปจริงๆ พวกนายไม่มีสมองรึไง?”
“แรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวขนาดนั้น พวกนายมองไม่เห็นเหรอ?”
“แล้วถ้าฉันบอกให้พวกนายไปกินขี้ พวกนายจะไปกินจริงๆ เหรอ?”
เหล่าศิษย์นิกายดาบชิงอวิ๋นโกรธจนพูดไม่ออก “นาย...”
“นายอะไร! ฉันพูดผิดตรงไหน?” จิ้งจอกขาวกล่าว “พวกนายไม่ใช่เด็กสามขวบแล้วนะ ผู้ใหญ่ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง”
เหล่าศิษย์นิกายดาบชิงอวิ๋นโกรธจนหน้าซีด โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกที่เหลือแต่จิตวิญญาณ พวกเขาแทบจะระเบิดตัวเองด้วยความโกรธ
“ปากดีนัก” หยุนซีจ้องจิ้งจอกขาวตัวน้อยตัวนั้น แล้วพูดว่า “ถ้านายไม่ยุยงพวกเขา พวกเขาจะทำลายร่างกายตัวเองได้ยังไง?”
“เด็กน้อย ฉันไม่เห็นด้วยกับคำพูดของเธอ” จิ้งจอกขาวตัวน้อยพูด “ถ้าพวกเขาไม่มีความคิดที่จะแย่งชิงโอกาสสูงสุด พวกเขาจะถูกฉันล่อลวงได้ยังไง?”
“ท้ายที่สุดแล้ว มันก็เป็นเพราะใจคน”
หยุนซีถูกยั่วจนโมโหเดือดดาลจึงตวาดเสียงดังลั่นว่า “ถึงฉันจะไม่เคยมีเรื่องบาดหมาง และไม่เคยเกลียดชังเผ่าปีศาจ แต่การกระทำของนายในวันนี้ มันล้ำเส้นฉันไปมาก ฉันจะไม่ปล่อยนายไปแน่”
เมื่อพูดจบ หยุนซีก็จะลงมือ
“ฮึ่ม ถ้าที่นี่ไม่ใช่ภูเขาอมตะ เพียงแค่ฉันปรายตามองเธอก็เหลือแต่กระดูกแล้ว”
จิ้งจอกขาวตัวน้อยคิดในใจ มันฉลาดมาก รู้ดีว่าตอนนี้ตัวเองไม่ใช่คู่มือของหยุนซี จึงรีบหลบไปอยู่ข้างหลังเยี่ยชิว
“เยี่ยฉังเซิง นายต้องช่วยฉันนะ”
เยี่ยชิวพูดว่า “หาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ”
“ฉันไม่สน ไม่ว่าอย่างไรนายต้องช่วยฉัน” จิ้งจอกขาวตัวน้อยพูด “เพื่อนาย ฉันถึงกับยอมเสียชีวิตไปหนึ่งครั้งเลยนะ”
หยุนซีพูดว่า “ฉังเซิง หลบไป ฉันจะฆ่ามัน”
นี่...
เยี่ยชิวปวดหัว
“เยี่ยฉังเซิง ถ้าไม่ใช่ฉัน นายจะได้เห็นโอกาสสูงสุดไหม? ถ้านายไม่ช่วยฉัน ฉันจะกลายเป็นผีมาหลอกหลอนนายไปตลอดชีวิต” จิ้งจอกขาวตัวน้อยขู่เยี่ยชิว
หยุนซีพูดอีกครั้งว่า “ฉังเซิง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับนาย นี่เป็นเรื่องระหว่างมันกับนิกายดาบชิงอวิ๋นของเรา หลบไป ฉันจะฆ่ามัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
ไอ้ชิบหาย มีแต่หน้าเปล่าๆมา3วันแล้ว พอๆเลิกอ่านบล็อคแม่งออกเลย หนังสือที่อื่นมีอ่านเยอะแยะ...
หลังๆทำไมลงแต่หน้าเปล่า ไม่มีตัวหนังสือสักตัว...
จะอ่านบท1611-1616ยังใงคับ...
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...
ช่วงนี้ทุกเรื่องทำไมมีแค่ห้าบรรทัด อ่านไม่รู้เรื่องเลย..ถ้าแอด..มีเวลารบกวนตรวจสอบให้ด้วยนะครับ..ขอร้อง...
สงสัยค่ะ สงสัยๆๆ เยี่ยวชิวจากนายแพทย์ฝึกหัดมาเป็นนักสู้ได้ยังไง...
ผู้หญิงคือเลวเลยอะ...