วิสารทแพทย์เทวัญ นิยาย บท 1733

สรุปบท บทที่ 1733 ค่ายกลสงครามจักรพรรดิ: วิสารทแพทย์เทวัญ

บทที่ 1733 ค่ายกลสงครามจักรพรรดิ – ตอนที่ต้องอ่านของ วิสารทแพทย์เทวัญ

ตอนนี้ของ วิสารทแพทย์เทวัญ โดย หูหยานล่วนหยู ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายความสามารถแปลกทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1733 ค่ายกลสงครามจักรพรรดิ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

“ร้ายกาจนัก!”

เยี่ยชิวตื่นเต้นจนแทบจะระเบิดออกมา เขาไม่คาดคิดเลยว่ากูตู๋อู๋ตี๋จะสามารถบีบบังคับให้สามนักบุญคุกเข่าลงได้ด้วยตัวคนเดียว

“สมแล้วที่เป็นจักรพรรดิดาบแห่งภูเขาซูผู้ไร้ผู้ต่อต้าน” อมตะชางเหม่ยก็ตกตะลึงเช่นกัน

ส่วนคนอื่นๆ ต่างก็มองกูตู๋อู๋ตี๋ด้วยความตกใจจนพูดไม่ออก

กูตู๋อู๋ตี๋ยืนอยู่บนคลื่นดาบราวกับขึ้นไปบนยอดเขาไท่ซาน มองลงมาเห็นภูเขาลูกอื่นเล็กจ้อย แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งที่ไร้เทียมทาน

นี่คือภาพที่เป็นนิรันดร์

ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าใด ฉากนี้จะถูกตราตรึงอยู่ในใจของผู้คนไม่มีวันลืมเลือน

“อ๊าก...”

ร่างกายของสามนักบุญเกือบจะถูกพลังดาบบดขยี้ พวกเขาเงยหน้าคำรามด้วยความอัปยศอดสู

“พวกไร้ค่าก็คือพวกไร้ค่า ต่อให้เป็นนักบุญก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความเป็นพวกไร้ค่าได้”

กูตู๋อู๋ตี๋พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา เตรียมที่จะเหยียบสังหารนักบุญทั้งสาม ทันใดนั้นเสียงของอู่จี๋เทียนจุนก็ดังขึ้น

“กูตู๋อู๋ตี๋ปล่อยพวกเขาไป!”

“ฉันจะไม่ฆ่านายเพราะเห็นแก่การบำเพ็ญเพียรของนาย”

“ตราบใดที่นายพาเยี่ยฉังเซิงเข้าร่วมกับสำนักหยินหยางของเรา ความแค้นในอดีตทั้งหมดจะถูกลบล้าง”

อู่จี๋เทียนจุนยืนไขว้หลัง เสื้อคลุมพลิ้วไหวโดยไม่มีลมพัด แสดงให้เห็นถึงพลังที่เหนือกว่า

อย่างไรก็ตาม คำตอบของกูตู๋อู๋ตี๋มีเพียงสามคำเท่านั้น

“นายเป็นใคร?”

เมื่อกูตู๋อู๋ตี๋พูดจบ เขาก็เหยียบลงไป

“ตึง!”

ในทันที แสงศักดิ์สิทธิ์ใต้เท้าของเขาก็ระเบิด พลังอันแข็งแกร่งแผ่ซ่านไปทั่วกระบี่พลัง ทำให้พลังของดาบเพิ่มขึ้นเป็นร้อยล้านเท่า

ฟิ้ว!

ในขณะนั้น ร่างของอู่จี๋เทียนจุนพลันปรากฏขึ้นด้านหลังสามนักบุญ ทั้งยังใช้สองนิ้วขวางพลังดาบที่กำลังจะตกลงมาด้วยใบหน้าสงบนิ่ง

“อะไร?”

เหล่าผู้คนต่างตกตะลึง

ด้วยพลังฝีมือของกูตู๋อู๋ตี๋ พวกเขาล้วนประจักษ์ ทว่ากลับไม่คาดคิดเลยว่าอู่จี๋เทียนจุนจะใช้เพียงสองนิ้วมือ ก็สามารถต้านทานดาบคลั่งนั้นได้

สีหน้าของกูตู๋อู๋ตี๋แปรเปลี่ยนเล็กน้อย แววตาฉายแววเคร่งขรึม

“มีฉันอยู่ นายไม่มีทางฆ่าพวกเขาได้”

ขณะที่อู่จี๋เทียนจุนเอ่ยวาจา แสงสว่างเจิดจ้าจากสองนิ้วมือพลันเปล่งประกาย ในพริบตานั้น คลื่นดาบคลั่งก็สลายไป

สามนักบุญผู้ยิ่งใหญ่รีบลุกขึ้น หลบไปอยู่ด้านหลังของอู่จี๋เทียนจุนอย่างรวดเร็ว

“ขอบพระคุณท่านเทียนจุน”

สามนักบุญกล่าวขอบคุณ หากอู่จี๋เทียนจุนไม่ออกมาช่วยเหลือทันเวลา พวกเขาคงต้องถึงฆาตไปแล้ว

ถึงแม้การถูกบังคับให้คุกเข่าเมื่อครู่ จะเป็นความอัปยศอดสูสำหรับพวกเขา แต่ก็ไม่มีใครกล้าลงมือกับกูตู๋อู๋ตี๋อีก แววตาที่มองไปยังกูตู๋อู๋ตี๋นั้น เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

อู่จี๋เทียนจุนมองไปยังกูตู๋อู๋ตี๋ และกล่าวว่า “นายเป็นเพียงนักบุญธรรมดา แต่กลับสามารถแสดงพลังฝีมือเทียบเท่านักบุญใหญ่ได้ ฉันชื่นชมนายมาก”

“เข้าร่วมกับสำนักหยินหยางเถิด ฉันจะไม่ปฏิบัติต่อนายอย่างเลวร้าย”

“เห็นแก่หน้านาย ฉันจะไม่ฆ่าเยี่ยฉังเซิง แล้วยังจะแต่งตั้งเขาเป็นศิษย์เอกของสำนักหยินหยาง เป็นอย่างไร?”

แผนการของอู่จี๋เทียนจุนแยบยลนัก หากเยี่ยชิวเข้าร่วมสำนักหยินหยาง ทรัพย์สมบัติของเยี่ยชิวก็จะตกเป็นของเขาในไม่ช้า

กูตู๋อู๋ตี๋กล่าวอย่างองอาจ “อยากฆ่าฉันก็ลงมือ อย่ามาพูดมากจู้จี้เหมือนผู้หญิง ฉันกลัวว่านายจะฆ่าฉันไม่ได้มากกว่า”

“หาที่ตาย!” อู่จี๋เทียนจุนคำราม สายลมปั่นป่วนราวกับอสูรกาลโบราณตื่นขึ้น พลังกดดันน่าสะพรึงกลัวถึงขีดสุด

เหล่าผู้ฝึกตนที่ถูกกักขังอยู่ในเขตอาคมต่างรู้สึกเหมือนวิญญาณจะแตกสลาย ราวกับมีมีดคมกริบกรีดเนื้อทุกอณูของร่างกาย ความเจ็บปวดแล่นไปทั่วสรรพางค์กาย

สามารถจินตนาการได้เลยว่า หากปราศจากเขตอาคมของหยุนซานปกป้องพวกเขา พวกเขาจะต้องพบจุดจบเช่นไร

และทั้งหมดนี้...เป็นเพียงแค่กระแสพลังปราณที่หลั่งไหลออกมาจากอู่จี๋เทียนจุนเท่านั้น เขายังมิได้ออกกระบวนท่าใดๆ เลยแม้แต่น้อย

“ถอย!”

หยุนซานตวาดก้อง พลิกแขนเสื้อสะบัดเพียงครั้งเดียว ขณะนั้นเอง วงเวทและเหล่านักพรตน้อยที่อยู่ภายใน ก็ถูกส่งตัวไปยังระยะร้อยลี้ในพริบตา

หยุนซานพาหยุนซี หลินต้าเหนี่ยว โม่เทียนจี และอู่เชียนฟานถอยตามออกมา จากนั้นก็ยื่นนิ้วออกไปแตะที่อากาศว่างเปล่า จนปรากฏกระจกบานใหญ่ขึ้นมาทันที การเคลื่อนไหวทุกฝีก้าวของกูตู๋อู๋ตี๋และอู่จี๋เทียนจุนก็ปรากฏขึ้นในกระจกอย่างชัดเจน

หยุนซานทำเช่นนี้ ก็เพื่อให้เหล่านักพรตน้อยที่มีพลังฝีมืออ่อนด้อยกว่า ได้รับชมการต่อสู้นี้ได้อย่างสะดวก เพราะด้วยพลังฝีมือของพวกเขาแล้ว คงไม่อาจมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในระยะร้อยลี้ได้

เดิมทีมีนักบุญธรรมดาสามคนซ่อนตัวอยู่หลังร่างของอู่จี๋เทียนจุน แต่เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังปราณของอู่จี๋เทียนจุนแล้ว ทั้งสามก็หน้าซีดเผือด หายใจติดขัด พวกเขาไม่ลังเลแม้แต่น้อย รีบแปลงกายเป็นลำแสงสามสาย พุ่งถอยออกไปยังระยะหมื่นเมตรในทันที

“นี่คือพลังของนักบุญใหญ่เหรอ? ช่างน่าสะพรึงกลัวนัก!” หลี่เจาฮุยกล่าวด้วยสีหน้าตกตะลึง

อันไจ้เทียนกล่าวเสริม “เทียนจุนทะลวงผ่านระดับนักบุญใหญ่ไปได้ตั้งแต่พันปีก่อน หลังจากสั่งสมพลังมาเนิ่นนานเช่นนี้ คาดว่าพลังต่อสู้ของท่านน่าจะไปถึงระดับสูงสุดของนักบุญใหญ่แล้ว”

“กูตู๋อู๋ตี๋นั้นเป็นเพียงนักบุญธรรมดา แต่พลังต่อสู้กลับไปถึงระดับนักบุญใหญ่ แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเทียนจุน ผู้เป็นถึงนักบุญใหญ่ตัวจริงคงไม่อาจต้านทานได้นาน กูตู๋อู๋ตี๋ตายแน่!”

หนานกงจิงหยุนจ้องมองอู่จี๋เทียนจุนด้วยแววตาชื่นชม พร้อมกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า “มีแต่บุรุษเช่นนี้เท่านั้นที่คู่ควรกับฉัน ฮ่าฮ่าฮ่า...”

“โครม!”

ทันใดนั้น บนสวรรค์ชั้นเก้าก็เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ราวกับท้องฟ้ากำลังจะแตกสลาย

จากนั้น เสาค้ำฟ้าแปดต้น ก็ปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่าอย่างกะทันหัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ