วิสารทแพทย์เทวัญ นิยาย บท 1752

ทันใดนั้นร่างของอู่จี๋เทียนจุนก็ปลดปล่อยพลังอันน่าสะพรึงกลัวของจักรพรรดิขั้นสูงสุดออกมา แม้ว่าจะมีค่ายกลผู้พิทักษ์คอยปกป้องอยู่ แต่เวลานี้ คนที่อยู่ในค่ายกลก็ยังรู้สึกหวาดกลัว

หากไม่มีค่ายกลผู้พิทักษ์ เกรงว่าพวกเขาทุกคนคงคุกเข่าอยู่กับพื้นไปแล้ว

ลึกลงไปในหุบเขา ประชาชนมากมายของเผ่าปีศาจเองก็สัมผัสได้ถึงพลังอันรุนแรง พวกเขาตกใจจนล้มลงกับพื้นพร้อมกับอาการสั่นเทา

“แย่แล้ว ข้าสัมผัสได้ถึงพลังแห่งจักรพรรดิจากร่างกายของชายชราผู้นั้น เขาไม่ใช่นักบุญราชา แต่เป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งงั้นหรือ?” อมตะชางเหม่ยพูดออกมาด้วยความตกใจ

“จักรพรรดิ? ฮึ เขายังไม่คู่ควร” ผู้อาวุโสหมีพ่นลมหายใจออกมา

สุนัขจิ้งจอกขาวตัวน้อยพูดว่า “นานมาแล้วที่ไม่มีจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งปรากฏตัวออกมาในโลกฝึกเซียน หากมีผู้ใดไปถึงระดับจักรพรรดิได้จริง โลกฝึกเซียนจะต้องรับรู้เป็นแน่”

“ด้วยเหตุนี้ อู่จี๋เทียนจุนจึงไม่มีทางก้าวไปถึงระดับจักรพรรดิผู้แข็งแกร่ง”

“เขาน่าจะเอาอาวุธจักรพรรดิแห่งสำนักหยินหยางมาด้วย”

อมตะชางเหม่ยพูดด้วยความสงสัย “สำนักหยินหยางมีอาวุธจักรพรรดิด้วยงั้นหรือ?”

“แน่นอน” สุนัขจิ้งจอกขาวตัวน้อยพูดออกมา “สำนักระดับสูงในโลกฝึกเซียนปกติแล้วจะมีอาวุธจักรพรรดิสำนักละหนึ่งถึงสองชิ้น”

อมตะชางเหม่ยถามออกมาอีกว่า “หรือว่ากองกำลังระดับสูงพวกนั้นเคยล้วนเคยให้กำเนิดผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิกันหมดแล้ว?”

“มันก็ไม่ใช่อย่างนั้นเสียทีเดียว” สุนัขจิ้งจอกขาวตัวน้อยอธิบายออกมาออกมา “ตั้งแต่อดีต ผู้แข็งแกร่งในระดับจักรพรรดินั้นมีน้อยมาก หลังจากที่คนพวกนั้นได้กลายเป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่ง พวกเขาจะมอบสมบัติของตนเองให้กับคนใกล้ชิด เมื่อวันเวลาผ่านไป ทำให้กองกำลังระดับสูงพวกนั้นมีอาวุธจักรพรรดิอยู่ในครอบครองกันแทบทุกกองกำลัง”

“อย่างไรก็ตาม ผู้นำคนแรกที่ก่อตั้งสำนักหยินหยางนั้นเป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่ง คนรุ่นหลังจึงเรียกเขาว่าจักรพรรดิหยินหยาง!”

เยี่ยชิวถามออกมาว่า “อาวุธจักรพรรดิสามารถทำลายค่ายกลผู้พิทักษ์ได้หรือไม่?”

“เรื่องนี้พูดยาก” สุนัขจิ้งจอกขาวตัวน้อยตอบกลับไป “อู่จี๋เทียนจุนเป็นนักบุญราชา เขาสามารถใช้พลังของอาวุธจักรพรรดิได้ถึงเจ็ดส่วน หากค่ายกลผู้พิทักษ์ต้านเอาไว้ไม่อยู่ เช่นนั้นเผ่าปีศาจคงได้รับอันตรายเป็นแน่......”

“ฝ่าบาท ท่านรีบดูนั่นเร็ว” จู่ๆ ผู้อาวุโสหมีก็พูดขึ้นมาด้วยความตกใจ พร้อมกับชี้ไปบนท้องฟ้า

สุนัขจิ้งจอกขาวตัวน้อยเงยหน้าขึ้น รูม่านตาของนางหดตัวลง พูดขึ้นมาด้วยความตกใจ “ระฆังหยินหยาง!”

เยี่ยชิวเองก็มองไปบนท้องฟ้า เขาเห็นระฆังขนาดใหญ่ลอยอยู่ด้านบนศีรษะของอู่จี๋เทียนจุนหนึ่งใบ

ระฆังใบนี้เป็นสีดำปะปนกับสีขาว ให้บรรยากาศที่น่าสะพรึงกลัว ทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก

“แคร๊ง......”

ท้องฟ้าบริเวณรอบๆ ของอู่จี๋เทียนจุนแตกสลาย ไม่สามารถต้านทานพลังอันรุนแรงของระฆังหยินหยางได้ ด้านในของมันเหมือนกับเหวขนาดใหญ่ที่สามารถกลืนกินดวงอาทิตย์เข้าไปได้

พลังอันน่าสะพรึงกลัวของจักรพรรดิแพร่กระจายออกมาจากระฆังหยินหยาง ทำให้ผู้คนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกศรัทธาอยู่ในใจ ราวกับกำลังเผชิญหน้ากับจักรพรรดิผู้ทรงพลังซึ่งกำลังจะฟื้นคืนชีพกลับมา

แม้ว่าจะมีค่ายกลผู้พิทักษ์อยู่ แต่จิตวิญญาณของเยี่ยชิวยังคงสั่นไหว

“ระฆังหยินหยางเคยเป็นอาวุธคู่ใจของจักรพรรดิหยินหยาง”

“ตามที่เล่าขานกันมา ตอนที่จักรพรรดิหยินหยางเกิดมาพร้อมกับระฆังทองแดงซึ่งห้อยอยู่บนลำคอ ต่อมาได้ก้าวเข้าสู่โลกแห่งการฝึกฝน ระฆังทองแดงติดตามไปพร้อมกับการเติบโตของเขา เผชิญหน้ากับความยากลำบากด้วยกันนับครั้งไม่ถ้วน สุดท้ายจักรพรรดิหยินหยางได้กลายเป็นจักรพรรดิ ระฆังทองแดงใบนั้นจึงได้กลายเป็นอาวุธจักรพรรดิ”

“ระฆังใบนี้ทรงพลังอย่างน่าเหลือเชื่อ”

สุนัขจิ้งจอกขาวตัวน้อยพูดถึงตรงนี้ก็พูดขึ้นมาอีกว่า “ผู้อาวุโสหมี ข้าของสั่งให้เจ้าพาพวกเขาสองคนและประชาชนของเผ่าปีศาจถอยกลับไปเดี๋ยวนี้”

“ข้าทำไม่ได้” ผู้อาวุโสหมีตอบ “ฝ่าบาท ฝ่าบาทพาพวกเขาไปเถิด ให้ข้าเป็นคนควบคุมไหกลั่นปีศาจ และตายไปพร้อมกับชายชราผู้นั้น”

“ผู้อาวุโสหมี ฟังที่ข้าพูด รีบไปซะ” สุนัขจิ้งจอกขาวตัวน้อยพูดอย่างร้อนรน “นี่คือคำสั่ง!”

“จำเอาไว้ ภารกิจหลักคือการปกป้องเยี่ยฉังเซิง”

“อนาคตทั้งหมดของเผ่าปีศาจล้วนต้องพึ่งพา......”

ตู้ม!

และในตอนนั้นเอง อู่จี๋เทียนจุนประสานฝ่ามืออย่างต่อเนื่อง โจมตีเข้ามาพร้อมกับพลังแห่งจักรพรรดิ

ในตอนนั้นค่ายกลผู้พิทักษ์เริ่มสั่นไหวเล็กน้อย

“ก็แค่ค่ายกลเท่านั้น ข้าอยากจะรู้ว่ามันจะทนได้นานสักแค่ไหน?” อู่จี๋เทียนจุนพ่นลมหายใจออกมาอย่างเยือกเย็น ใช้พลังของอาวุธจักรพรรดิต่อไป

ภายใต้พลังทำลายของอาวุธจักรพรรดิ ค่ายกลผู้พิทักษ์เริ่มสั่นไหวมากขึ้นเรื่อยๆ ให้ความรู้สึกที่พร้อมจะพังทลายได้ทุกเมื่อ

“ฝ่าบาท พวกท่านรีบหนีไปก่อน ข้าจะเป็นคนขวางเขาไว้เอง”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ