เยี่ยชิวรู้สึกชัดเจนว่านี่คือกลิ่นอายของภัยพิบัติจากสวรรค์ แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่ปกคลุมไปด้วยหมอกหนาทึบก็ไม่เห็นร่องรอยของสายฟ้าเลย
“ภายใต้สวรรค์ สิ่งมีชีวิตในโลกไม่สามารถหลบหนีไปไหนได้เลย นี่มันช่างมหัศจรรย์จริงๆ”
อมตะชางเหม่ยก็รู้สึกถึงกลิ่นอายของภัยพิบัติจากสวรรค์เช่นกัน ทันใดนั้นเขาก็ขนลุกไปทั้งตัว ก่อนจะพูดด้วยความตกใจว่า “เจ้าเด็กน้อย ภัยพิบัติของฉันมาถึงแล้ว แต่ฉันยังไม่พร้อมเลย จะทำยังไงดี?”
เยี่ยชิวพูดว่า “กดข่มพลังไว้”
“ฉันกดไม่ไหว!” อมตะชางเหม่ยพูดด้วยสีหน้าขมขื่น “ฉันรู้สึกว่าพลังลมปราณในตัวฉันมันวิ่งพล่านไปทั่วจนควบคุมไม่ได้เลย”
“บอกแล้วว่าอย่าตะกละ” เยี่ยชิวจ้องมองอมตะชางเหม่ยอย่างไม่พอใจ ก่อนจะรีบก้าวไปข้างหน้าแล้ววางมือบนกลางหลังของอมตะชางเหม่ย
ทันใดนั้นเขาก็สามารถกดข่มพลังลมปราณที่วิ่งพล่านในตัวอมตะชางเหม่ยเอาไว้ได้
ในขณะเดียวกัน ความกดดันอันรุนแรงก็หายไป
“ขอบใจนายมาก เจ้าเด็กน้อย” อมตะชางเหม่ยกล่าวขอบคุณอย่างจริงใจ “ถ้าไม่มีนาย ฉันคงต้องเผชิญกับหายนะของสวรรค์ ซึ่งฉันไม่มั่นใจเลยว่าจะผ่านมันไปได้หรือไม่”
“แต่อย่างไรก็ตาม ผลไม้นั่นมันช่างมหัศจรรย์จริงๆ”
อมตะชางเหม่ยพูดว่า “แม้ยังไม่ได้ผ่านภัยพิบัติจากสวรรค์ แต่ฉันรู้สึกได้ชัดเจนว่าพลังการต่อสู้ของฉันที่เพิ่มขึ้นมาก”
พูดจบ อมตะชางเหม่ยก็หันดวงตาเป็นประกายมองเยี่ยชิวแล้วพูดว่า “เจ้าเด็กน้อย ลองประลองกันสักหน่อยดีไหม?”
“อะไรนะ? แค่พลังเพิ่มขึ้นนิดหน่อยก็อยากมาอวดเก่งต่อหน้าฉันเหรอ?” หลังจากที่เยี่ยชิวพูดจบก็ต่อยอมตะชางเหม่ยจนปลิวไป
ปัง!
อมตะชางเหม่ยล้มลงกับพื้น ก่อนจะตะโกนด่า “เจ้าเด็กน้อย นายตีฉันทำไม?”
“ไม่ใช่ว่านายอยากประลองกับฉันรึ?” เยี่ยชิวก้าวเข้าไปหา
อมตะชางเหม่ยรีบลุกขึ้นจากพื้น เขาชี้ไปที่เยี่ยชิวและตะโกนว่า “เจ้าเด็กน้อย นายอย่าบังคับฉัน ระวังฉันจะตีกระดูกนายให้หักหมด”
“ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าใครจะตีกระดูกใครให้หักหมดกันแน่” เยี่ยชิวเดินเข้าไปใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
อมตะชางเหม่ยไม่โกรธแต่กลับหัวเราะ “เจ้าเด็กน้อย นายหาเรื่องเองนะ”
“ฉันลืมบอกนายไป ตอนนี้ต่อให้เจอนักพรตขั้นหยวนอิงสูง ฉันก็ไม่เกรงกลัว”
“อยากสอนบทเรียนให้ฉันเหรอ? ฮึๆ…เตรียมตัวรับมือเถอะ!”
อมตะชางเหม่ยยกมือขึ้นทันใด พร้อมพลังมหาศาลพลันไหลเวียนในฝ่ามือเขา
“ฮึ” เยี่ยชิวพ่นลมหายใจเบาๆ ก่อนจะยกมือขึ้นและมีเปลวไฟสีน้ำเงินเข้มลุกขึ้นที่ปลายนิ้วของเขา
เพลิงวิญญาณ!
ดวงตาของอมตะชางเหม่ยเบิกกว้าง ก่อนเขาจะร้องออกมาอย่างร้อนรน “เจ้าเด็กน้อย นายห้ามใช้เพลิงวิญญาณนะ นี่ไม่ยุติธรรมเลย”
“นายคิดว่ายังไงถึงจะยุติธรรม?” เยี่ยชิวถาม
อมตะชางเหม่ยพูดว่า “เว้นแต่ว่านายจะไม่ใช้เพลิงวิญญาณ หรือไม่นายก็ต้องมอบเพลิงวิญญาณให้ฉัน”
“ในเวลานี้ยังจะเรียกร้องอีก ช่างเป็นนิสัยที่ตายยากจริงๆ ก็ได้ ฉันจะไม่ใช้เพลิงวิญญาณ” หลังจากที่เยี่ยชิวพูดจบก็เก็บเพลิงวิญญาณนั้นไป
อมตะชางเหม่ยถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นเยี่ยชิวเก็บเพลิงวิญญาณ แต่ในวินาทีถัดมาเขากลับกระโดดขึ้นมาเหมือนแมวที่โดนเหยียบหาง
เพราะเขาเห็นเยี่ยชิวนำแส้ตีเทวดาออกมา
พลังของแส้ตีเทวดานั้น อมตะชางเหม่ยรู้ดี เขาเคยเห็นผู้มีพรสวรรค์หลายคนถูกแส้ตีเทวดาตีจนจิตวิญญาณแตกสลายมาแล้ว
อมตะชางเหม่ยร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว “เจ้าเด็กน้อย นายอย่าใช้แส้ตีเทวดาสิ มันไม่ยุติธรรมเลย...”
เพี้ยะ!
เยี่ยชิวไม่รอให้อมตะชางเหม่ยพูดจบ เขาฟาดแส้ออกไปทันที
“โอ๊ย…” อมตะชางเหม่ยถูกฟาดจนล้มลงกับพื้น สภาพหน้าตาเต็มไปด้วยฝุ่นผงและโคลนจนดูน่าสงสาร
“เจ็บชะมัด นี่มันอะไรเหม็นจัง?”
ตอนนั้นเองที่อมตะชางเหม่ยเพิ่งสังเกตเห็นว่าตัวเองมีของเหลวสีดำคลุ้มคลักที่มีกลิ่นเหม็นตลบอบอวลติดอยู่
จากนั้นเขาก็รู้สึกว่าปากขมและฝาด
“อ้วก!”
อมตะชางเหม่ยอาเจียนออกมาเป็นของเหลวสีดำ ก่อนจะมองเยี่ยชิวด้วยความโกรธ “เจ้าเด็กน้อย นายเล่นตลกอะไรกับฉัน?”
“ของเหลวสีดำพวกนี้คืออะไร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
ไอ้ชิบหาย มีแต่หน้าเปล่าๆมา3วันแล้ว พอๆเลิกอ่านบล็อคแม่งออกเลย หนังสือที่อื่นมีอ่านเยอะแยะ...
หลังๆทำไมลงแต่หน้าเปล่า ไม่มีตัวหนังสือสักตัว...
จะอ่านบท1611-1616ยังใงคับ...
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...
ช่วงนี้ทุกเรื่องทำไมมีแค่ห้าบรรทัด อ่านไม่รู้เรื่องเลย..ถ้าแอด..มีเวลารบกวนตรวจสอบให้ด้วยนะครับ..ขอร้อง...
สงสัยค่ะ สงสัยๆๆ เยี่ยวชิวจากนายแพทย์ฝึกหัดมาเป็นนักสู้ได้ยังไง...
ผู้หญิงคือเลวเลยอะ...