วิสารทแพทย์เทวัญ นิยาย บท 2227

เป็นที่รู้กันดีว่า พลังปราณมังกรทั้งหมด 360 สาย หมายถึงระดับสูงสุดของต้งเทียน พลังปราณมังกร 720 สาย หมายถึงระดับสูงสุดของหยวนอิง และพลังปราณมังกร 900 สาย หมายถึงระดับสูงสุดของทงเสิน

ส่วนขั้นนักปราชญ์คือการมีพลังปราณมังกร 999 สาย!

ในเวลานี้ พลังปราณมังกร 900 สายที่อยู่เบื้องหลัง เยี่ยชิวปกคลุมท้องฟ้าจนมืดครึ้ม เปรียบดั่งมังกรเทพจำนวนมากกำลังโบยบินในอากาศ สร้างความตกตะลึงแก่ทุกผู้คน

"สุดยอดขั้นทงเสิน! ไอ้เด็กเปรตนี่ถึงกับทะลวงเข้าสู่สุดยอดขั้นทงเสินได้!"

"แถมยังบ่มเพาะแก่นวิญญาณถึง 9 ดวง!"

"ถ้าข้ายังดึงดันจะประลองกับเขาอีก นั่นไม่เท่ากับหาเรื่องให้ตัวเองขายหน้ารึไง?"

"จบสิ้นแล้ว... จบสิ้นทุกอย่างแล้ว…"

ในตอนนี้ ใจของอมตะชางเหม่ยพลันเย็นเฉียบเหมือนจมลงในห้วงน้ำแข็ง

ก่อนหน้านี้ เขาเคยคิดว่า ต่อให้เยี่ยชิวบ่มเพาะแก่นวิญญาณได้ครบ 9 ดวง แต่เขาก็ยังอาศัยพลังแห่งระดับที่เหนือกว่าเพื่อบดขยี้เยี่ยชิวได้

ใครจะไปคิดว่า เยี่ยชิวก็สามารถทะลวงเข้าสู่สุดยอดขั้นทงเสินได้เช่นกัน!

อมตะชางเหม่ยที่ติดตามอยู่ข้างกายเยี่ยชิวมาอย่างยาวนานนั้น รู้ดีว่าหากอยู่ในระดับพลังเดียวกัน เยี่ยชิวคือผู้ไร้เทียมทานอย่างแท้จริง

ตอนนี้เขาและเยี่ยชิวมีระดับพลังเท่ากัน หากต้องประลองกับเยี่ยชิวอีก เขาแทบไม่มีความมั่นใจเลยแม้แต่น้อย

"ข้าก็หวังจะอวดฝีมือให้เป็นที่ประจักษ์ต่อหน้าผู้อื่น... ใครจะไปรู้ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นแบบนี้"

"สวรรค์ เจ้าช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย ทำไมถึงปล่อยให้เจ้าเด็กเปรตบรรลุระดับสุดยอดขั้นทงเสินได้ในเวลานี้? นี่มันเล่นตลกกับข้าชัดๆ!"

อมตะชางเหม่ยรู้สึกหมดเรี่ยวแรง

ในใจของเขานั้นได้แต่ครุ่นคิดถึงสุภาษิตว่า ข้าเกิดก่อนอวี่ แล้วเหตุใดถึงต้องมีขงเบ้งตามมาอีก"

"หรือว่าควรยกเลิกการประลองไปเสียดีไหม?"

"เจ้าเด็กเปรตมีระดับพลังเท่ากับข้า และยังบ่มเพาะแก่นวิญญาณได้ครบ 9 ดวงอีก ข้าไม่มีทางเอาชนะเขาได้ หากยังดื้อดึงจะสู้ต่อ ข้าคงถูกถล่มจนเละไม่มีชิ้นดีแน่ๆ"

อมตะชางเหม่ยแทบอยากตบหน้าตัวเอง

"ให้ตายเถอะ ถ้าข้ารู้ล่วงหน้า ข้าคงไม่ประกาศต่อหน้าผู้คนว่าจะประลองกับเจ้าเด็กเปรตนี่ตั้งแต่แรก" ฃ

"ตอนนี้ล่ะยุ่งเลย ถอยก็ไม่ได้ จะไปต่อก็ลำบาก"

"ถ้าข้ายังประลอง ข้าคงถูกถล่มจนขายหน้าต่อหน้าผู้คนมากมาย แล้วจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?"

"แต่ถ้าไม่ประลอง ก็จะถูกหัวเราะเยาะว่าเป็นคนขี้ขลาดอีก"

"จะทำอย่างไรก็ดูเหมือนจะพลาดทั้งนั้น!"

"ทำไงดี"

อมตะชางเหม่ยขมวดคิ้วแน่น แต่แล้วก็ปิ๊งไอเดียขึ้นมา

"ใช่แล้ว!"

อมตะชางเหม่ยพลันยิ้มออกมาอย่างมีกำลังใจ พร้อมกับคิดในใจว่า "ก่อนหน้านี้ข้าบอกเจ้าเด็กเปรตว่าเขาห้ามใช้พลังจากภายนอกช่วย... แต่ข้าไม่ได้บอกว่าตัวข้าจะใช้พลังจากภายนอกไม่ได้!"

"ถึงเวลานั้น ข้าจะใช้จักรพรรดิศาสตราจัดการเจ้าเด็กเปรตนี่เอง"

"แบบนี้ ข้าก็ยังสามารถเอาชนะเจ้าเด็กเปรตต่อหน้าผู้คนได้เช่นกัน"

"โอ้โห ข้านี่มันอัจฉริยะจริงๆ ที่คิดแผนการได้ยอดเยี่ยมเช่นนี้!"

อมตะชางเหม่ยถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนจะมองไปยังเยี่ยชิวที่ดูราวกับเทพเจ้ากลางอากาศด้วยสายตาเย้ยหยัน

"ไอ้เด็กเปรต เจ้ายังจะทำตัวกร่างต่อไปอีกสินะ!"

"ยิ่งเจ้ายโสโอหังมากเท่าไร อีกสักครู่ข้าจะทำให้เจ้าพ่ายแพ้จนราบคาบ!"

"ถึงตอนนั้น ข้าจะให้ทุกคนได้เห็นว่าข้า อมตะชางเหม่ยแห่งภูเขาหลงหู่คือยอดอัจฉริยะที่ไม่เคยมีผู้ใดในโลกเซียน เทียบเคียงได้เลยในรอบหมื่นปี!"

คิดได้ดังนั้น อมตะชางเหม่ยก็อดหัวเราะด้วยความตื่นเต้นไม่ได้

......

อีกฟากหนึ่ง

เหล่าศิษย์จากนิกายดาบชิงอวิ๋นต่างตะลึงงันกับการกระทำของเยี่ยชิว ถึงกับตกตะลึงจนพูดไม่ออกอยู่พักใหญ่ ก่อนจะได้สติกลับมา

"โอ้โห! ท่านเยี่ยถึงกับบรรลุขั้นสุดยอดทงเสินได้!"

"ท่านเยี่ยช่างสุดยอดยิ่งนัก ไม่เพียงแค่กฎแห่งสวรรค์ให้เกียรติแก่เขา แต่ยังสามารถบรรลุถึงขั้นสุดยอดทงเสินในคราเดียวได้อีกด้วย อัจฉริยะเช่นนี้มีแค่คนเดียวในยุคนี้เท่านั้น!"

"ข้ารู้อยู่แล้วว่าท่านเยี่ยต้องไม่ด้อยไปกว่าชางเหม่ยเต้าจ่างอย่างแน่นอน!"

"ถ้าข้ามีพรสวรรค์การฝึกตนแค่หนึ่งในหมื่นของท่านเยี่ย ข้าคงยิ้มออกมาแม้ในยามฝัน!"

"ท่านเยี่ยจงเจริญ!"

"......"

เหล่าศิษย์ชายจากนิกายดาบชิงอวิ๋นต่างเต็มไปด้วยความฮึกเหิม

ในอดีต เมื่อพวกเขารู้ว่าหยุนซีชอบเยี่ยชิว แต่ละคนล้วนรู้สึกอิจฉาจนตาแทบลุกเป็นไฟ ถึงขั้นอยากท้าประลองกับเยี่ยชิวให้รู้แล้วรู้รอด แต่ในตอนนี้ เมื่อได้เห็นพรสวรรค์ของเยี่ยชิว ความอิจฉาทั้งหมดในใจพวกเขากลับเปลี่ยนเป็นความชื่นชม

ในวินาทีนี้ ทุกคนล้วนมีความรู้สึกเดียวกัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ