วิสารทแพทย์เทวัญ นิยาย บท 2373

สรุปบท บทที่ 2373 ฉันขอคัดค้าน!: วิสารทแพทย์เทวัญ

อ่านสรุป บทที่ 2373 ฉันขอคัดค้าน! จาก วิสารทแพทย์เทวัญ โดย หูหยานล่วนหยู

บทที่ บทที่ 2373 ฉันขอคัดค้าน! คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายความสามารถแปลก วิสารทแพทย์เทวัญ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย หูหยานล่วนหยู อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

“ฝ่าบาทเสด็จ!”

ทันทีที่เสียงของขันทีชราดังขึ้น ต่อมาไม่นาน ฮ่องเต้ต้าโจวก็เสด็จเข้ามาจากด้านนอก ประกบหลังด้วยขันทีชราผู้หนึ่ง

ฮ่องเต้ต้าโจวทรงสวมฉลองพระองค์สีเหลือง สวมมงกุฎทอง เสด็จเข้ามาด้วยท่วงท่าทรงอำนาจ เต็มเปี่ยมด้วยบารมี

“ข้าน้อยขอถวายบังคมฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”

ลุงซูรีบคุกเข่าลงกับพื้น

“ลูกขอคารวะเสด็จพ่อเพคะ”

องค์หญิงหนิงอันเองก็กำลังจะคุกเข่าคารวะ แต่ฮ่องเต้ต้าโจวทรงก้าวมาข้างหน้า ประคองไว้ แล้วตรัสว่า

“ไม่ต้องทำถึงเพียงนั้นหรอก”

ต่อจากนั้น ฮ่องเต้ต้าโจวตรัสกับลุงซูว่า

“เจ้าก็ลุกขึ้นเถอะ!”

“ขอบพระทัยฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ” ลุงซูลุกขึ้นยืน

ฮ่องเต้ต้าโจวจูงมือองค์หญิงหนิงอัน พลางพินิจดูด้วยสายตาเอ็นดูแล้วตรัสอย่างแสดงความเป็นห่วงว่า

“เมื่อวานเสด็จพ่อกะจะมาเยี่ยมลูกแล้ว แต่เจ้าก็รู้ว่าราชการยุ่งนัก ผลัดไม่ได้จริง ๆ”

“หนิงอัน ปีที่ผ่านมานี้เจ้าสบายดีหรือไม่?”

“ไม่เจอกันเกือบปีแล้ว เจ้าผอมลงเยอะเลย ไม่ใช่ว่าอาหารของสถาบันจี้เซียไม่ถูกปากเจ้าหรือ?”

“ถ้างั้น คราวนี้กลับมาก็ไม่ต้องไปอีกแล้ว อยู่ที่วังกับเสด็จพ่อเถอะดีไหม?”

องค์หญิงหนิงอันยิ้มแล้วกล่าวว่า

“ลูกสบายดีเพคะ เสด็จพ่อไม่ต้องเป็นห่วง ลูกยังเรียนไม่จบ ลูกได้เรียนปรึกษาท่านอาจารย์ไว้แล้ว รอให้ทางนี้เรียบร้อยดี ลูกก็จะกลับไปสถาบันจี้เซียอีกครั้ง”

“แต่เสด็จพ่อนั่นแหละ ต้องดูแลสุขภาพให้มากขึ้น ท่านดูสิ ข้างพระเศียรมีผมหงอกแล้ว”

“ถ้างานราชการมากเกินจะจัดการไหว ท่านพี่ใหญ่กับพี่รองก็น่าจะช่วยแบ่งเบาได้บ้างนะเพคะ”

“จริงสิ เสด็จพ่อ ลูกมีของขวัญจะมอบให้ท่านด้วย”

องค์หญิงหนิงอันหยิบเสื้อลายเสือขาวออกมาจากวงแหวนอากาศ พลางกล่าวว่า

“ไม่กี่วันก่อน ศิษย์พี่จากสถาบันจี้เซียได้ล่าเสือวิญญาณตัวหนึ่งมาได้ ลูกก็เลยขอหนังเสือจากพวกเขามา แล้วเย็บเสื้อตัวนี้ด้วยมือตัวเองให้เสด็จพ่อ ลองใส่ดูสิเพคะ”

ฮ่องเต้ต้าโจวสวมเสื้อคลุมลายเสือขาวแล้วก็พบว่าขนาดพอดีตัวพอดี

“ดีมาก ข้าชอบนัก หนิงอัน เจ้าตั้งใจจริง ๆ” ฮ่องเต้ต้าโจวหัวเราะออกมาอย่างชื่นชม

“ท่านชอบก็ดีแล้วเพคะ”

องค์หญิงหนิงอันยื่นวงแหวนอากาศอีกวงให้ พร้อมกล่าวว่า

“ลูกทราบว่าเสด็จพ่อชอบคัมภีร์โบราณ พอดีว่าสถาบันจี้เซียมีเก็บไว้หลายเล่ม แต่น่าเสียดายที่ท่านอาจารย์ไม่อนุญาตให้ลูกนำต้นฉบับออกมาได้ ลูกเลยต้องคัดลอกเนื้อหาด้วยมือตัวเอง หวังว่าเสด็จพ่อจะไม่รังเกียจนะเพคะ”

“ตราบใดที่เป็นของเจ้ามอบให้ข้า ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ล้วนมีค่ายิ่ง ใครจะกล้ารังเกียจลูกสาวของข้ากันเล่า?”

ฮ่องเต้ต้าโจวบีบแก้มองค์หญิงหนิงอันด้วยความเอ็นดู แล้วตรัสว่า

“มา บอกเสด็จพ่อสิ ช่วงที่เจ้าศึกษาอยู่ที่สถาบันจี้เซียนั้น เจ้าได้เรียนรู้อะไรมาบ้าง?”

ฮ่องเต้ต้าจโจวจูงมือองค์หญิงหนิงอันไปนั่งที่ศาลาในลาน

องค์หญิงหนิงอันจึงเล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมาที่สถาบันจี้เซียให้ฮ่องเต้ฟัง แน่นอนว่าเธอเลือกเล่าเฉพาะส่วนสำคัญ เพราะหากจะเล่าละเอียดหมด คงต้องใช้เวลาหลายวันหลายคืน

องค์หญิงหนิงอันยังแทรกเรื่องราวสนุก ๆ เป็นระยะ ทำให้ฮ่องเต้ต้าโจวหัวเราะอย่างมีความสุข

เมื่อเธอเล่าจบ ฮ่องเต้ต้าโจวก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในต้าจโจวช่วงที่ผ่านมาให้ฟังบ้าง

พ่อกับลูกสาวพูดคุยกันอย่างสนิทสนม เวลาผ่านไปโดยไม่รู้ตัว

พริบตาเดียว เวลาก็ล่วงเลยไปหนึ่งชั่วยาม

ฮ่องเต้ต้าโจวเห็นว่าบรรยากาศเหมาะสมแล้ว ก็เก็บรอยยิ้มแล้วตรัสว่า

“หนิงอัน เจ้านาน ๆ ทีจะกลับมา เสด็จพ่อคิดถึงเจ้ามาก วันนี้เราพ่อ-ลูกได้พบกันทั้งที มีเรื่องหนึ่งที่ข้าอยากจะบอกเจ้า”

องค์หญิงหนิงอันยิ้มแล้วตอบว่า

“บังเอิญจัง ลูกเองก็มีเรื่องอยากบอกเสด็จพ่อเช่นกันเพคะ”

“โอ? งั้นเจ้าพูดก่อนก็แล้วกัน”

ฮ่องเต้ต้าโจวตรัสพลางโบกพระหัตถ์

“พวกเจ้าออกไปก่อน”

ลุงซูกับขันทีชรานั้นก็รีบเดินออกไปทันที

องค์หญิงหนิงอันเก็บรอยยิ้มลง แล้วกล่าวว่า

“เสด็จพ่อ ขณะลูกเดินทางกลับมา ได้ถูกลอบสังหารเพคะ”

“อะไรนะ?” ฮ่องเต้ต้าโจวสีหน้าถมึงทึงทันที ทรงกริ้วและตรัสว่า

“เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ทำไมจูเชียนถึงไม่รายงานข้า? เขาเอากับอะไรอยู่กันแน่!”

องค์หญิงหนิงอันรีบกล่าวว่า

“เสด็จพ่อ อย่าทรงโทษลุงซูเลยเพคะ เป็นลูกเองที่ไม่ให้เขารายงาน”

“หนิงอัน เรื่องมันเป็นยังไงกันแน่ เจ้าบอกข้ามาตามตรง”

ฮ่องเต้ต้าโจวยังไม่คลายความโกรธ ตรัสว่า

องค์หญิงหนิงอันพยักหน้า

“จงโจวเกรงว่าจะต้องตกอยู่ในห้วงสงครามในไม่ช้าเพคะ”

“แล้วเจ้าคิดว่า พระสงฆ์อาวุโสแห่งภูเขาวิญญาณจะหนุนฝ่ายใด?” ฮ่องเต้ต้าจโจวตรัสถาม

“ต้าเว่ยเพคะ” องค์หญิงหนิงอันกล่าวอย่างหนักแน่น

ฮ่องเต้ต้าโจวแสดงความสงสัย

“ทำไมถึงเป็นต้าเว่ย ไม่ใช่ต้าเฉียน?”

องค์หญิงหนิงอันอธิบาย

“แม้ฮ่องเต้แห่งต้าเฉียนจะยังหนุ่ม แต่เป็นผู้มีลักษณะของจักรพรรดิทรงธรรม ขุนนางและแม่ทัพล้วนให้ความเคารพอย่างลึกซึ้ง อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากตระกูลเทพสงคราม การที่พระสงฆ์อาวุโสจะจับมือกับต้าเฉียนนั้นคงยาก”

“แต่ต้าเว่ยนั้นไม่เหมือนกันเพคะ”

“เว่ยอ๋องตลอดหลายปีที่ผ่านมา มีความทะเยอทะยานจะรวบรวมจงโจวให้เป็นหนึ่ง แต่ก็ติดที่ราชครูจิ้น ปิงหยุนไม่เห็นด้วย ทำให้เขาไม่อาจทำได้ หากมีโอกาสรวบจงโจวได้ เขาย่อมไม่ปล่อยแน่”

ฮ่องเต้ต้าโจวตรัส

“ถ้าพระสงฆ์อาวุโสแห่งภูเขาวิญญาณจะร่วมมือกับเว่ยอ๋อง ข้าว่าจิ้น ปิงหยุนคงไม่เห็นด้วย”

“แน่นอนว่าเธอไม่เห็นด้วยเพคะ” องค์หญิงหนิงอันตอบ

“แต่ถ้าพวกเขาใช้กำลังล่ะ?”

“พระสงฆ์อาวุโสแห่งภูเขาวิญญาณนั้นเป็นผู้แข็งแกร่งอันดับสามในอันดับมังกร จิ้น ปิงหยุนไม่ใช่คู่มือแน่นอน”

“เพียงแต่ลูกยังคิดไม่ออก ว่าทำไมเขาต้องทำแบบนี้ จุดประสงค์ที่แท้จริงคืออะไร?”

“แต่ลูกมั่นใจว่า ไม่ใช่เพื่อเผยแผ่ธรรมะแน่ ๆ ต้องมีแผนการที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น”

“เสด็จพ่อควรส่งคนไปจับตาความเคลื่อนไหวของต้าเว่ย และส่งคำสั่งลับให้ทหารชายแดนเตรียมพร้อมรบไว้เสมอ เผื่อมีเหตุฉุกเฉินเพคะ”

เมื่อได้ฟังเช่นนั้น ฮ่องเต้ต้าโจวก็รู้สึกหนักอึ้งในใจ

หากสิ่งที่หนิงอันคาดการณ์เป็นจริง จงโจวก็คงจะตกอยู่ในห้วงเพลิงสงครามในเร็ววัน

“เรื่องพวกนั้นข้าจะจัดการเอง หนิงอัน ข้าเองก็มีเรื่องจะบอกเจ้าเหมือนกัน”

ฮ่องเต้ต้าโจวตรัสว่า

“ข้าได้ปรึกษากับทวดของเจ้าแล้ว ตกลงกันว่าจะให้เยี่ยฉังเซิง เป็นราชบุตรเขยของต้าจโจวเรา”

“เจ้าเป็นเด็กเชื่อฟังมาตลอด ข้าว่าคงไม่คัดค้านใช่ไหม…”

ใครจะคิดว่าไม่ทันที่พระองค์ตรัสจบ องค์หญิงหนิงอันก็ลุกขึ้นยืนทันที

“ลูกขอคัดค้านเพคะ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ