“โครม!”
แสงสีขาวบนศีรษะของข่งเทียนเซี่ยนั้นพุ่งเข้าสู่ด่านทดสอบแห่งสวรรค์ลงโทษ มันราวกับดาบเทพที่สามารถฟาดฟันสรรพสิ่งได้
ในพริบตา สายฟ้าทั้งหมดก็ถูกแสงสีขาวทำลายจนสิ้น
“อะไรกัน นี่มันคือด่านของปราชญ์จริง ๆ หรือ? ทำไมถึงพังเร็วขนาดนี้?”
“ข่งเทียนเซี่ยนี้เก่งเกินไปแล้ว!”
“เป็นปีศาจอัจฉริยะที่หาได้จริง!”
รอบด้านมีแต่เสียงตกตะลึงดังขึ้นไม่หยุด
อย่างไรก็ตาม ด่านแห่งสวรรค์ลงโทษนั้นยังไม่จบ แต่ละครั้งก็ยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
ใต้ผืนฟ้าข่งเทียนเซี่ยยืนอยู่กลางอากาศเพียงลำพัง
เสียงฟ้าร้องและสายฟ้าฟาด ดั่งเทพเจ้ากำลังโกรธเกรี้ยว แผ่แรงดันมหาศาล ราวกับจะทำลายทุกสรรพสิ่ง
แต่ข่งเทียนเซี่ยยังคงยืนอย่างสง่างาม ไม่หวั่นเกรงราวกับขุนเขาที่มั่นคงไม่อาจสั่นคลอน
ในตัวเขานั้นเต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ แววตาแน่วแน่และเด็ดเดี่ยว ร่างกายถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีขาว นั่นคือพลังแห่งความเที่ยงธรรมอันไพศาล ดั่งเกราะเทพที่ปกป้องเขาไว้ฃ
ในเวลาเดียวกัน พลังวิญญาณรอบตัวก็ไหลมาราวกับกระแสน้ำ สู่ข่งเทียนเซี่ยกลายเป็นวังวนขนาดใหญ่ของพลังวิญญาณ
วังวนนี้แฝงไปด้วยพลังชีวิตและพลังอันไร้ที่สิ้นสุด ราวกับสามารถชำระล้างสิ่งสกปรกทั้งปวง ยิ่งเวลาผ่านไปพลังแห่งความเที่ยงธรรมอันไพศาลนั้นก็ยิ่งเข้มข้นมากขึ้น ยิ่งทำให้ข่งเทียนเซี่ยดูราวกับเทพเจ้าจุติลงมาบนโลก
“ครืนๆๆ...”
ด่านทดสอบแห่งสวรรค์ลงโทษยังคงไม่หยุด
ข่งเทียนเซี่ยเผชิญหน้าด้วยความสงบ โดยไร้แม้แต่รอยขีดข่วน
ท่ามกลางสายฟ้า พลังแห่งความเที่ยงธรรมอันไพศาลบนร่างข่งเทียนเซี่ยยิ่งทวีความเข้มข้นขึ้น มันคือพลังอันไร้ความหวาดกลัว บริสุทธิ์ไร้มลทิน ประสานกับพลังแห่งธรรมชาติของสวรรค์และโลก
เวลาผ่านไป 15 นาทีเต็ม
จู่ ๆ เมฆสายฟ้าบนเก้าชั้นฟ้าก็รวมตัวกัน กลายเป็นสายฟ้ายักษ์เส้นใหญ่เส้นหนึ่ง ฟาดลงมาอย่างตรงเป๊ะ
แต่เมื่อสายฟ้านั้นฟาดลงบนศีรษะของข่งเทียนเซี่ย มันกลับเหมือนเจอสิ่งกีดขวางที่มองไม่เห็น แล้วก็สลายไปอย่างไร้ร่องรอย
จากนั้น ท้องฟ้าก็ปลอดโปร่ง
ไม่มีเมฆแม้แต่น้อยทั่วทั้งท้องฟ้า
กลับคืนสู่สภาพเดิมอย่างสมบูรณ์
“สำเร็จแล้ว!”
“ข่งเทียนเซี่ยผ่านด่านสวรรค์ลงดทษได้แล้ว!”
“อายุอานามก็ปาไปขนาดนี้แล้ว เพิ่งเคยเห็นกับตาว่ามีคนรอดจากด่านทดสอบแห่งสวรรค์ลงโทษโดยไม่แม้แต่ขนร่วงสักเส้น ถือว่าเปิดหูเปิดตาจริง ๆ”
“ข่งเทียนเซี่ยน่าทึ่งเกินไปแล้ว!”
“……”
ทั่วบริเวณตกอยู่ในความตกตะลึง
ไม่มีใครคาดคิดว่ากับด่านทดสอบอันรุนแรงของนักปราชญ์ขนาดนั้น ข่งเทียนเซี่ยไม่เพียงแต่รอดมาได้ แต่เขายังไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วนเลย
ถ้าไม่ได้เห็นกับตา ต่อให้ถูกบังคับให้เชื่อก็คงไม่กล้าเชื่อ
“ทำไมกัน? เขามีดีอะไร?”
สีหน้าของฉินเหอเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
เมื่อนึกย้อนกลับไป ตอนเขาฝ่าด่านสวรรค์กลายเป็นปราชญ์ เขาเกือบตายภายสวรรค์ลงโทษ แต่ข่งเทียนเซี่ยกลับไม่ได้บาดเจ็บแม้แต่นิดเดียว
เปรียบเทียบคนกับคน มันทำให้หงุดหงิดจริง ๆ
อมตะชางเหม่ยตกใจจนลูกตาแทบหลุด ร้องออกมาว่า: “ไอ้เด็กเปรต ถ้าไม่ใช่เพราะมีแกอยู่ล่ะก็ ข้าคิดไม่ออกเลยว่าจะมีใครในรุ่นหนุ่มสาวของโลกฝึกเซียนที่เก่งกว่าข่งเทียนเซี่ยอีกไหม”
เยี่ยชิวหัวเราะแล้วพูดว่า: “ไอ้แก่ แกไม่ใช่เหรอที่พูดมาตลอดว่าแกคืออัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะ? ทำไม ตอนนี้ถึงรู้สึกว่าสู้เขาไม่ได้ล่ะ?”
อมตะชางเหม่ยกล่าวว่า: “ข้าสู้ข่งเทียนเซี่ยไม่ได้ ข้าว่าเขามีคุณสมบัติของจักรพรรดิเลยล่ะ”
เยี่ยชิวมองข่งเทียนเซี่ยที่ลอยอยู่กลางอากาศ
โจวอู่หวังพูดต่อว่า: “เจ้ามีลูกชายตั้งหลายคน แต่ไม่มีใครที่เป็นคนมีที่มีพรสวรรค์เลย จะไม่ให้ข้าโทษเจ้าแล้วจะโทษใคร?”
ฮ่องเต้แห่งต้าโจวพูดว่า: “ท่านปู่ เรื่องนี้ข้าโทษไม่ได้หรอก เพราะสุดท้ายพวกเขาก็เป็นสายเลือดของท่าน”
“หมายความว่าไง?” โจวอู่หวังขมวดคิ้วขึ้น: “เจ้าหมายความว่าสายเลือดข้าไม่ดีงั้นหรือ?”
ข้าล้อเล่นน่ะ สายเลือดของท่านจะไม่ดีได้ยังไง” ฮ่องเต้ต้าโจวพูด: “ทั้งหมดเป็นเพราะพวกลูกๆ ข้าขี้เกียจเอง ท่านปู่ วางใจได้ กลับไปข้าจะอบรมพวกเขาให้ดี”
เมื่อได้ยินอู่วั่นโจวพูดเช่นนั้น องค์ชายที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ก็สะดุ้งขึ้นมาทันที
แย่แล้ว ต้องโดนลงโทษอีกแน่!
บนท้องฟ้าว่างเปล่าหลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ข่งเทียนเซี่ยก็ลืมตาขึ้น รวบรวมลมหายใจ และก้าวลงมาบนเวทีประลองเพียงก้าวเดียว
ห่างจากเยี่ยชิวเพียงแค่สองเมตรเท่านั้น
ข่งเทียนเซี่ยเริ่มจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย
“เวรเอ๊ย ไอ้นี่ต้องคำนับเยี่ยฉังเซิงอีกแน่ๆ ทั้งๆ ที่บรรลุเป็นปราชญ์แล้ว ยังไม่รักษาศักดิ์ศรีอีกเรอะ?” เว่ยอู่ซินสบถในใจ
แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ วินาทีต่อม ข่งเทียนเซี่ยก็คุกเข่าลงต่อหน้าเยี่ยชิวทันที
เยี่ยชิวพูดอย่างตกใจ: “พี่ข่ง นี่ท่าน...”
ข่งเทียนเซี่ยกล่าวว่า: “หากไม่ได้บทความจากพี่เยี่ย ข้าคงไม่ได้มาถึงจุดนี้ พระคุณของพี่เยี่ยเปรียบเสมือนให้ชีวิตใหม่ ขอรับการคารวะจากข้าสักครั้ง”
“พี่ข่งอย่าทำอย่างนั้นเลย…” เยี่ยชิวยังพูดไม่ทันจบ ข่งเทียนเซี่ยก็คุกเข่ากระแทกศีรษะสามครั้งดัง ตง ตง ตง
เยี่ยชิวรีบเข้าไปพยุงข่งเทียนเซี่ยขึ้นและพูดว่า: “พี่ข่ง ทำแบบนี้ข้ารู้สึกไม่คู่ควรเลยนะ!”
“พี่เยี่ยคู่ควรแน่นอน” ข่งเทียนเซี่ยพูดอย่างจริงจัง: “จากนี้ไป พี่เยี่ยจะเป็นบุคคลที่ข้าเคารพเป็นอันดับสองในใจข้า”
อันดับแรกแน่นอนว่าคืออาจารย์ของเขา ท่านฟูจื่อ
“ดังนั้น เรื่องของพี่เยี่ย ก็คือเรื่องของข้าเช่นกัน”
ข่งเทียนเซี่ยที่ยืนอยู่บนเวทีประลอง กวาดสายตามองเว่ยอู่ซิน ชินเจียง และคนอื่น ๆ ทีละคน แล้วถามว่า: “มีใครยังอยากท้าทายพี่เยี่ยอยู่หรือเปล่า? มาท้าข้ากับดีกว่า!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
ตอนที่ 261-281 ทำไมมีตอนละไม่กี่บรรทัด...
เรื่องนี้มีเติมเงินอ่านไหมครับ แนะนำหน่อย...
ทำไมลงวันละตอนแล้วครับ ช่วยชี้แจงหน่อยครับ...
ทำไมช่วงนี้ลงวันละตอนล่ะครับอีกอย่างช่วงแรกได้อ่านตั้งแต่7โมงเช้าแต่พอลงตอนเดียวต้องอ่านตอน3โมงเย็น...
ไอ้ชิบหาย มีแต่หน้าเปล่าๆมา3วันแล้ว พอๆเลิกอ่านบล็อคแม่งออกเลย หนังสือที่อื่นมีอ่านเยอะแยะ...
หลังๆทำไมลงแต่หน้าเปล่า ไม่มีตัวหนังสือสักตัว...
จะอ่านบท1611-1616ยังใงคับ...
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...