เข้าสู่ระบบผ่าน

วิสารทแพทย์เทวัญ นิยาย บท 2463

“ท่านอาจารย์ นี่มันไม่ใช่ยันต์ดาบที่ผู้อาวุโสจื่อหยางมอบให้ท่านหรอครับ?”

เจ้าวัวต้าลี่มองเยี่ยชิวด้วยความสงสัย แล้วรับดาบหยกมาอย่างลังเล

“นี่มันเป็นของที่ท่านไว้ใช้รักษาชีวิตของตัวเอง ท่านจะมอบให้ข้าทำไมกัน?”

เขายังจำได้ดี ว่าตอนที่พวกเขาออกจากนิกายดาบชิงอวิ๋น จื่อหยางเทียนจุนได้มอบยันต์ดาบนี้แก่เยี่ยชิว

และยังบอกเองว่ายันต์ดาบนี้มีเจตนาดาบของผู้ฝึกระดับเตรียมจักรพรรดิ ที่เขาใช้มือหลอมขึ้นมาเอง

เป็นของที่มีไว้เพื่อรักษาชีวิตยามคับขัน!

“ข้ามีไพ่ตายที่สามารถใช้ป้องกันตัวอีก ไม่ได้แค่นยันต์นี้หรอก”

เยี่ยชิวฝืนยัดยันต์ดาบใส่มือเจ้าวัวต้าลี่พร้อมกับน้ำเสียงหนักแน่น ไม่เปิดช่องให้เขาได้ปฏิเสธ

“เจ้าพกสิ่งนี้ไว้ หากเกิดเหตุฉุกเฉิน บีบมันให้แตกก็พอ”

“ด้วยระดับพลังของเจ้า รวมกับอานุภาพของยันต์ดาบนี้ คงพอปกป้องหนิงอันให้ปลอดภัยได้”

เจ้าวัวต้าลี่ทำหน้าสงสัยแล้วถามกับเยี่ยชิวว่า: “ท่านอาจารย์ สถานการณ์ฉุกเฉินที่ท่านพูดถึง หมายถึงอะไรแน่ครับ?”

เยี่ยชิวโน้มตัวกระซิบสองประโยคข้างหูเจ้าวัวต้าลี่

เมื่อได้ยินแล้ว เจ้าวัวต้าลี่ตกตะลึงเต็มใบหน้า : “ท่านอาจารย์ นี่มันจริงหรือเปล่าครับ?”

“นีhเป็นแค่การคาดเดาของข้าเท่านั้น เพราะไม่แน่ใจว่าข้าคิดถูกหรือไม่ ข้าถึงต้องให้เจ้าคุ้มกันหนิงอัน หวังว่ามันจะไม่เป็นดังที่ข้าคิด”

แล้วเจ้าวัวต้าลี่ก็กล่าวต่อว่า: “แล้วถ้าหากว่าท่านอาจารย์เดาถูกล่ะ”

ผลลัพธ์ คงเลวร้ายเกินกว่าจะจินตนาการ

จากนั้นเจ้าวัวต้าลี่ก็ได้ถามต่อว่า: “ท่านได้บอกเต้าจ่างถึงสิ่งที่ท่านสงสัยไว้หรือไม่?”

เยี่ยชิวส่ายหน้า แล้วพูดว่า: “ยังเลย”

เจ้าวัวต้าลี่พูด: “ถ้างั้นให้เต้าจ่างไปคุ้มกันองค์หญิงหนิงอันแทนข้าดีไหมขอครับ?”

“เต้าจ่างฉลาดกว่าข้าเยอะ เจอสถานการณ์ฉุกเฉินก็ตอบสนองได้เร็วกว่าข้าอีก”

“อีกอย่างนึง เต้าจ่างเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของท่าน เชื่อใจได้แน่นอนครับ”

เยี่ยชิวตอบว่า: “เจ้าแก่นั่นฝีมือก็ยังสู้เจ้าไม่ได้ ที่สำคัญก็คือบางครั้งเขาก็ไม่น่าไว้ใจนัก”

นอกจากนี้ ยังมีอีกเหตุผลหนึ่ง

ไอ้แก่คนนั้นโลภสุด ๆ!

เยี่ยชิวรู้นิสัยของอมตะชางเหม่ยดี ถ้าเขาเอาดาบหยกให้เจ้าแก่อมตะชางเหม่ยแล้วนั้น ถ้าสงครามนี้ไม่ได้ใช้ดาบนี้ล่ะก็ เจ้านั่นไม่มีวันคืนเขาให้แน่

แต่เจ้าวัวต้าลี่นั้นต่างออกไป เขาเคารพเยี่ยชิวมาก และเชื่อฟังทุกคำพูดของเยี่ยชิว

เยี่ยชิวพูด: “ต้าลี่ สิ่งที่ข้าสงสัย เจ้าอย่าบอกใครทั้งนั้น แค่เก็บไว้ในใจเจ้าก็พอ”

“หวังว่าดาบหยกนี่จะไม่ได้ถูกหยิบมาใช้เลย”

“แต่ถ้ามีเหตุฉุกเฉินจริง ๆ ก็อย่าได้ลังเลหรือไว้หน้าใคร”

เจ้าวัวต้าลี่พยักหน้าตอบอย่างหนักแน่น: “ข้าเข้าใจแล้วครับ”

เยี่ยชิวยังคงพูดต่อ: “แม้ฮ่องเต้ต้าโจวจะบอกหนิงอันไว้แล้วว่า หากมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น ก็ให้นางละทิ้งแนวป้องกันได้”

“แต่ข้ารู้จักหนิงอันดี นางเป็นคนนุ่มนวลภายนอกแต่เข้มแข็งภายใน จิตใจดีงาม แม้ต้องเผชิญภัยถึงชีวิต นางก็ไม่มีทางละทิ้งด่านเยี่ยนหนานแน่น”

“เพราะฉะนั้น ข้ายังมีอีกเรื่องต้องกำชับเจ้า”

“หากถึงคราวฉุกเฉินไม่สามารถต้านทานข้าศึกได้จริงๆ เจ้าต้องไม่ลังเลที่จะทำให้นางหมดสติ แล้วพาตัวนางหนีออกมา”

“แน่นอนว่าการรักษาด่านเยี่ยนหนานไว้ได้นั้นดีที่สุด แต่ถ้าไม่ล่ะก็ ข้าก็ขอแค่นางรอดชีวิตก็พอ”

“นางจะต้องรอด!”

“เจ้าเข้าใจไหม?”

“ข้าเข้าใจท่านอาจารย์” วัวต้าลี่ทุบอกรับปากหนักแน่น : “อาจารย์ ท่านวางใจเถิด ตราบใดที่ข้ายังมีลมหายใจอยู่ ข้าจะไม่ยอมให้ใครแตะต้ององค์หญิงหนิงอันได้แม้แต่นิ้วเดียว”

เยี่ยชิวกล่าวต่อว่า: “ไม่ว่าอย่างไร ข้าก็ต้องการให้เจ้ากับหนิงอันกลับมาอย่างปลอดภัยทั้งคู่”

“ต้าลี่ เจ้าจงจำไว้ ชีวิตเจ้าก็สำคัญไม่แพ้กัน”

“ข้าไม่อยากสูญเสียใครแม้แต่คนเดียว”

"หึงงั้นหรอ?" เยี่ยชิวพูดพลางหัวเราะ

หนานกงเสี่ยวเสี่ยวเชิดปาก แล้วพูดวว่า: "ฉันไม่ได้หึงซะหน่อย ก็ในเมื่อนายเป็นราชบุตรเขยนี่นา ห่วงใยเจ้าหญิงถึงจะถูกแล้ว"

น้ำเสียงประชดประชันขนาดนั้น ยังจะบอกว่าไม่หึงอีก หลอกใครกัน?

ยี่ยชิวกวาดตามองแวบหนึ่ง พบว่าชุดนอนของหนานกงเสี่ยวเสี่ยวหลวมและนุ่มราวกับถักทอขึ้นจากแสงจันทร์กับปุยเมฆ แนบเนื้อเข้ากับสัดส่วนของเธอ ทั้งดูสบายและเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ความเป็นหญิง

สีของชุดนอนนั้นอ่อนโยนและงดงามราวกับหมอกบางยามเช้า คลี่คลุมร่างของเธออย่างแผ่วเบา เพิ่มความน่าค้นหาและเสน่ห์เย้ายวนเข้าไปอีก

รูปร่างของเธออวบอิ่มได้สัดส่วน ผิวพรรณยิ่งดูเนียนนุ่มภายใต้แสงไฟราวกับถูกแสงจันทร์ลูบไล้อย่างแผ่วเบา

เส้นผมของเธอสลายลงบนไหล่ เพิ่มเสน่ห์ที่ดูสบายๆ และเย้ายวนเล็กน้อย

สวยเกินไปแล้ว!

เยี่ยชิวเดินไปที่ข้างเตียง หนานกงเสี่ยวเสี่ยวรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของเขา จึงฮึดฮัดเบาๆ แล้วพลิกตัวหันหลังให้กับเขา

เธอไม่รู้เลยว่า ท่าพลิกตัวนั้นทำให้ส่วนล่างของเธอดูแน่นกระชับและกลมกลึงขึ้นอีก

เยี่ยชิวก็ไม่รอช้า ฟาดมือลงไปทันที

"เพี๊ยะ!"

แต่ฝ่ามือนั้นก็เด้งออกทันที

“อ๊าย!” หนานกงเสี่ยวเสี่ยวร้องเสียงหลง หันกลับมามองเยี่ยชิวแล้วพูดเสียงหวานว่า: “สามี ข้าแค่ล้อเล่นเอง อย่าตข้าสิ?”

เยี่ยชิวรู้ดีว่าเธอแค่แกล้ง เพราะหนานกงเสี่ยวเสี่ยวไม่ใช่ผู้หญิงที่ขี้หึง เธอไม่เหมือนไป๋ปิง

ยิ่งกว่านั้น หนานกงเสี่ยวเสี่ยวเป็นผู้หญิงที่รู้กาลเทศะ และเข้าใจบทบาทของตัวเองเป็นอย่างดี

ถ้าเธอเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาเหมือนคนอื่นๆ จะเป็นไปได้ยังไงที่จะกลายมาเป็น "ผู้ดูแลเขตจงโจว" ของศาลาหยงเป่า? แล้วจะยังสามารถดูแลศาลาหยงเป่าให้รุ่งเรืองขนาดนี้ได้ยังไงกัน?

“ข้าไม่ได้ตีเจ้าสักหน่อย แค่อยากลองสัมผัสดูน่ะ” เยี่ยชิวพูดพร้อมหัวเราะ

หนานกงเสี่ยวเสี่ยวกลอกตามองเขาอย่างยั่วยวนก่อนพูดว่า : "มีที่ไหนกัน ลองสัมผัสแบบนายเนี่ยนะ?"

พูดจบ เธอก็ดึงมือเยี่ยชิวไปวางไว้ที่ใต้เอวของตน แล้กล่าวด้วยเสียงออดอ้อนว่า:“บีบ คลึง ลูบ สามีให้ต้องข้าสอนท่านไหม?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ