เยี่ยชิวมองไปที่จิ้นปิงหยุน มีท่าทีอยากพูดแต่ก็หยุดไว้
มีคำกล่าวว่า ความโศกเศร้ามากที่สุดคือการสิ้นหวัง
จิ้นปิงหยุนตอนนี้ก็คือสภาพแบบนั้น นางไม่เพียงแต่หมดหวังกับเว่ยอ๋องและพวกเขา ดูเหมือนว่า ต่อทุกสิ่งในโลกนี้นางก็หมดหวังแล้วเช่นกัน
“นาง จะไม่คิดสั้นใช่ไหม?”
เยี่ยชิวกังวลมาก
เห็นเยี่ยชิวไม่พูดอะไร จิ้นปิงหยุนจึงพูดขึ้นว่า “ข้ารู้ว่าเจ้ามาต้าเว่ยครั้งนี้เพื่อพบข้าเพราะมีจุดประสงค์ ไหนๆเจ้าก็ไม่ถาม งั้นข้าจะบอกเจ้าโดยตรงเลยก็แล้วกัน”
“เหตุที่เว่ยอ๋องยกทัพกะทันหัน เป็นเพราะมีคนสนับสนุนเขา”
ของโลกฝึกเซียน สำหรับผู้ชาวพุทธ))佛门(นิกายพุทธ)。”
“และคนที่สนับสนุนคนนั้น ก็คือราชครูคนใหม่ของต้าเว่ย เขามาจากนิกายพุทธแห่งซีมั่ว”
นิกายพุทธแห่งซีมั่ว?
ในใจของเยี่ยชิวสะท้าน ถามว่า “พระสงฆ์อาวุโสจากภูเขาวิญญาณ?”
“เจ้าทายถูกแล้ว?” จิ้นปิงหยุนรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย นางเพียงแค่พูดถึงนิกายพุทธ ไม่คิดว่าเยี่ยชิวจะทายออก
เยี่ยชิวพูดว่า “นอกจากพระสงฆ์อาวุโสจากภูเขาวิญญาณ ข้านึกไม่ออกว่าเป็นใคร”
“ยิ่งกว่านั้น คนที่ทำให้เว่ยอ๋องตัดสินใจเปิดศึกได้ ต้องเป็นคนที่มีพลังแข็งแกร่งมาก”
“มีเพียงการได้รับการสนับสนุนจากพระสงฆ์อาวุโสจากภูเขาวิญญาณเท่านั้น ที่จะทำให้เว่ยอ๋องกล้าทุ่มสุดตัว เว่ยอ๋องถึงจะสามารถโจมตีต้าเฉียนได้รวดเร็วเช่นนี้”
จิ้นปิงหยุนพูดว่า “ถูกต้อง ก็คือพระสงฆ์อาวุโสจากภูเขาวิญญาณ”
“ไม่กี่วันก่อน พระสงฆ์อาวุโสจากภูเขาวิญญาณมาที่หอเด็ดดาว เจ้าคงเห็นระฆังไม้ด้านนอกแล้วใช่ไหม? นั่นคือเทพศาสตราที่เสียหายไปแล้วชิ้นหนึ่ง”
“เป็นเว่ยอ๋องร่วมมือกับพระสงฆ์อาวุโสจากภูเขาวิญญาณ ใช้เทพศาสตรากับยา ถึงได้ปิดผนึกพลังบำเพ็ญของข้า บังคับให้ข้ามอบตราทหาร”
“ไม่เช่นนั้น ข้าก็คงไม่…”
จิ้นปิงหยุนพูดถึงตรงนี้ มองเยี่ยชิวด้วยสายตาซับซ้อน
หากไม่ใช่เพราะพลังบำเพ็ญของตนถูกปิดผนึก เช่นนั้นจะโดนวางยาได้อย่างไร? แล้วที่รักษาความบริสุทธิ์มาเป็นพันปี ในที่สุดกลับตกเป็นของเยี่ยชิว?
ช่างเป็นการล้อเล่นของโชคชะตา
“กองกำลังลับในมือเว่ยอ๋องนั่น เรื่องมันเป็นยังไงกันแน่?” เยี่ยชิวถาม
จิ้นปิงหยุนพูดว่า “เรื่องนี้ข้าไม่รู้”
“พวกเขาคุมขังข้าไว้ที่นี่ หลังจากนั้นไม่กี่วัน เว่ยอ๋องก็ยกทัพออกไป”
“ส่วนกองกำลังลับที่เจ้าพูดถึงนั้น ข้ากล้ารับรองว่าไม่มีทางมาจากต้าเว่ยแน่นอน เพราะข้ารู้เรื่องสถานการณ์ของต้าเว่ยดี ด้วยความสามารถของเว่ยอ๋อง เขาไม่มีทางฝึกกองกำลังลับที่ไร้เทียมทานขึ้นมาได้”
เยี่ยชิวขมวดคิ้ว พูดว่า “ถ้าเช่นนั้น กองกำลังลับนั้นต้องเป็นพวกที่พระสงฆ์อาวุโสจากภูเขาวิญญาณพามาแน่”
“พระสงฆ์อาวุโสจากภูเขาวิญญาณเป็นเจ้าอาวาสแห่งวัดสายฟ้าใหญ่ วัดสายฟ้าใหญ่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในสายตาของเหล่าผู้ฝึกพุทธในซีมั่ว มีสถานะสูงส่ง บางที กองกำลังลับนั้นอาจจะเป็นกลุ่มผู้ฝึกพุทธก็ได้”
ทันใดนั้น เยี่ยชิวก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้
ตอนเขากับหนิงอันไปยังเมืองหลวงของต้าโจว ระหว่างทางที่เมืองเฟยไหล ได้พบกับปีศาจโลหิต ได้ยินเหล่าจิ่วพูดว่า พวกปีศาจโลหิตนั้นคือพวกจินกังแห่งนิกายพุทธ
หรือว่า ในกองกำลังลับนั้นจะมีพวกจินกังรวมอยู่ด้วย?
คิดถึงตรงนี้ เยี่ยชิวก็ขมวดคิ้วยิ่งกว่าเดิม
“เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่?” จิ้นปิงหยุนเห็นเยี่ยชิวขมวดคิ้วจึงถาม
เยี่ยชิวไม่ได้ปิดบัง พูดว่า “ข้าเคยพบพวกจินกังระหว่างทางไปเมืองหลวงของต้าโจว”
“จินกัง?” จิ้นปิงหยุนรู้สึกสงสัย
เยี่ยชิวอธิบายว่า “ข้าเคยได้ยินผู้อาวุโสท่านหนึ่งพูดว่า ที่เขาพระสุเมรุนั้นมีวิชาลับอย่างหนึ่ง ผู้ที่ฝึกวิชานี้คือพระสงฆ์ ซึ่งไม่มีแก่นวิญญาณ ร่างกายไร้เทียมทาน ฟันแทงไม่เข้า ไม่รู้สึกเจ็บปวด พวกเขาไม่กินข้าว ใช้การดูดเลือดเป็นอาหาร ถูกเรียกว่า‘อรหันต์’”
“พวกเขาฟังคำสั่งแค่จากเจ้านายเท่านั้น”
“พูดให้ชัดก็คือ วิชาลับนี้ก็คือวิชาหุ่นเชิดแบบหนึ่ง”
“หากกองกำลังลับนั้นมีพวกจินกังอยู่จริง เช่นนั้นก็คงไร้ผู้ต่อต้านได้”
จิ้นปิงหยุนพูดด้วยเสียงต่ำว่า “ถ้าการคาดเดาของเจ้าถูกต้อง เช่นนั้นจงโจวคงจะพบภัยใหญ่หลวงแน่”
เยี่ยชิวพูดว่า “แปลกจริง พระสงฆ์อาวุโสจากภูเขาวิญญาณมาจงโจวอย่างกะทันหันได้อย่างไร? เขามีจุดประสงค์อะไรกันแน่?”
จิ้นปิงหยุนทำหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า “เยี่ยฉังเซิง เจ้าช่วยข้าไว้หลายครั้ง ข้าก็ยกสิ่งที่มีค่าที่สุดของข้าให้เจ้าไปแล้ว”
“แม้จะอยู่ในสภาพโดนพิษควบคุมร่างกายไม่ได้ แต่เจ้าก็ได้รับมันไปแล้วไม่ใช่หรือ?”
“ข้าได้บอกทุกอย่างที่ข้ารู้กับเจ้าแล้ว ระหว่างเราได้ชำระหนี้ต่อกันหมดสิ้น ไม่มีพันธะใดเหลืออีกต่อไป”
หมายความว่าไง?
ใส่กางเกงเสร็จก็ไม่รู้จักกัน?
ไม่ใช่สิ นางยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเลย
เยี่ยชิวแม้จะคาดไว้อยู่แล้วว่าจิ้นปิงหยุนจะพูดแบบนี้ แต่เมื่อได้ยินคำพูดของนางจริงๆเขาก็ยังรู้สึกไม่พอใจอยู่บ้าง พูดว่า “ไม่ว่าจะยังไง เมื่อคืนนี้เราก็…”
ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ ก็ถูกจิ้นปิงหยุนขัดขึ้นว่า “เรื่องเมื่อคืน ทั้งหมดมันก็แค่ความเข้าใจผิด”
“เข้าใจผิด?” เยี่ยชิวพูดว่า “นอนกับข้านี่คือความเข้าใจผิด?”
“แม่นางจิ้น ไม่สิ ปิงหยุน เจ้าคิดว่าความเข้าใจผิดของเจ้านี่มันใหญ่เกินไปหรือเปล่า?”
หน้าด้านไร้ยางอาย!
ได้เปรียบแล้วยังทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้!
จิ้นปิงหยุนโกรธจนจ้องตาเขม็ง ยังไม่ทันจะระเบิดอารมณ์ ก็ได้ยินเยี่ยชิวพูดขึ้นว่า “ปิงหยุน บางทีเมื่อคืนทั้งหมด เจ้าคิดว่าเป็นเพียงแค่ความเข้าใจผิด แต่ในใจของข้า เจ้าคือผู้หญิงของข้าแล้ว”
“ข้าสาบาน หากเจ้ายินยอม ข้าจะดูแลเจ้าไปตลอดชีวิต”
ในสายตาของเยี่ยชิวเต็มไปด้วยความรู้สึกลึกซึ้งดุจมหาสมุทร
จิ้นปิงหยุนได้ยินเช่นนั้น ใจลึกๆก็เกิดคลื่นไหวขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่นาน ความรู้สึกนั้นก็สงบลงอีกครั้ง
“เยี่ยฉังเซิง เราไม่เหมาะกัน เจ้าเด็กเกินไป…”
คำพูดของจิ้นปิงหยุนยังไม่ทันจบ ก็ถูกเยี่ยชิวกดลงไปข้างล่าง
“เจ้าทำอะไรของเจ้า! ลงไปเดี๋ยวนี้!” จิ้นปิงหยุนทั้งอายทั้งโกรธ ตะโกนใส่เยี่ยชิว
“หญิงสาว กล้าพูดว่าข้าเด็ก เจ้าทำให้ข้าโกรธได้สำเร็จแล้ว เจ้าจบเห่แน่!” คำพูดจบ เยี่ยชิวก็โน้มตัวลงไปจูบอย่างแรง

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
ตอนที่ 261-281 ทำไมมีตอนละไม่กี่บรรทัด...
เรื่องนี้มีเติมเงินอ่านไหมครับ แนะนำหน่อย...
ทำไมลงวันละตอนแล้วครับ ช่วยชี้แจงหน่อยครับ...
ทำไมช่วงนี้ลงวันละตอนล่ะครับอีกอย่างช่วงแรกได้อ่านตั้งแต่7โมงเช้าแต่พอลงตอนเดียวต้องอ่านตอน3โมงเย็น...
ไอ้ชิบหาย มีแต่หน้าเปล่าๆมา3วันแล้ว พอๆเลิกอ่านบล็อคแม่งออกเลย หนังสือที่อื่นมีอ่านเยอะแยะ...
หลังๆทำไมลงแต่หน้าเปล่า ไม่มีตัวหนังสือสักตัว...
จะอ่านบท1611-1616ยังใงคับ...
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...