“ไปด่านหู่เหลาหรือ?”
เมื่ออมตะชางเหม่ยได้ยินคำพูดของเยี่ยชิว ก็ชะงักไปทันทีแล้วพูดขึ้นว่า “ฮ่องเต้ต้าโจวไปถึงด่านหู่เหลาเองด้วยตัวเองแล้ว อีกทั้งที่นั่นยังมีกองทัพแปดแสนนาย เราจะไปแย่งความวุ่นวายอะไรกับเขาอีก?”
“ถ้าจะให้ข้าพูดนะ ด่านเยี่ยนหนานทางโน้นดูจะอันตรายกว่าหน่อย พวกเราน่าจะไปที่ด่านเยี่ยนหนานมากกว่า!”
“องค์หญิงหนิงอันเพิ่งออกรบครั้งแรก เพิ่งทะลวงถึงระดับปราชญ์ หากศัตรูเคลื่อนพลเข้ามาเกือบถึงแดน คงยากที่นางกับข่งเทียนเซี่ยจะรับมือไหว”
เยี่ยชิวกล่าวด้วยท่าทีสุขุมว่า “ไม่ต้องห่วงเรื่องด่านเยี่ยนหนาน ต้าลี่ก็ไปที่นั่นแล้ว เขาปกป้องหนิงอันได้แน่นอน”
“อีกอย่าง หากเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นมาจริงๆ ข้าเชื่อว่าท่านฟูจื่อก็ต้องลงมือแน่”
“แม้ถึงคราวความเป็นความตาย หนิงอันก็ยังจะปลอดภัยดีอยู่”
เขาได้มอบยันต์กระบี่ของจื่อหยางเทียนจุนให้กับเจ้าวัวต้าลี่ ในยามคับขัน หากมียันต์กระบี่นี้อยู่ ต่อให้ไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งระดับเตรียมจักรพรรดิลงมือ หนิงอันก็จะไม่มีอันตรายถึงชีวิต
เยี่ยชิวพูดต่อว่า “ท่านรู้ไหมว่าฮ่องเต้ต้าโจวไปด่านหู่เหลาด้วยตนเอง แล้วยังตั้งกองทัพแปดแสนไว้ที่นั่น หมายความว่าอะไร?”
“เขาต้องการตัดสินแพ้ชนะกับต้าเว่ยที่ด่านหู่เหลา”
“ศึกที่ด่านหู่เหลา คือศึกสำคัญที่จะกำหนดทิศทางของจงโจวในอนาคต หากชนะ ต้าโจวก็จะรวมจงโจวเป็นหนึ่งเดียวได้ หากแพ้ ต้าโจวย่อมถึงคราวล่มสลายแน่นอน”
“เพราะฉะนั้น พวกเราต้องไปที่ด่านหู่เหลาเพื่อช่วยฮ่องเต้ต้าโจว”
อมตะชางเหม่ยถามว่า “วันนั้นในท้องพระโรงของต้าโจว ข้าได้ยินพวกแม่ทัพพูดกันว่าด่านหู่เหลาเหมาะแก่การตั้งรับแต่บุกยาก เจ้าคิดว่าเว่ยอ๋องจะไปที่นั่นจริงๆหรือ?”
“ถ้าเว่ยอ๋องนำทัพชั้นยอดบุกโจมตีเยี่ยนหนาน และได้พระสงฆ์อาวุโสจากภูเขาวิญญาณช่วยอีกแรง ต่อให้ท่านฟูจื่อออกโรง องค์หญิงหนิงอันก็คงป้องกันด่านเยี่ยนหนานไว้ได้ยาก”
“หากด่านเยี่ยนหนานถูกตีแตก ก็จะเป็นทางโล่งทันที แล้วใครเล่าจะหยุดเว่ยอ๋องได้?”
เยี่ยชิวพูดว่า “สิ่งที่เจ้าว่ามานั้น ฮ่องเต้ต้าโจวคิดไว้หมดแล้ว ตั้งแต่แรกที่ให้หนิงอันไปเฝ้าด่าน ก็ย่อมมีเหตุผลของพระองค์อยู่ พวกเรายังควรไปที่ด่านหู่เหลาก่อนเถอะ”
เพราะเยี่ยชิวเข้าใจดีว่า ต่อให้ด่านเยี่ยนหนานป้องกันไว้ไม่ได้ หนิงอันก็ยังเอาชีวิตรอดได้
อีกอย่าง หากถึงขั้นต้องใช้ยันต์กระบี่นั้นขึ้นมาจริงๆ ต่อให้เว่ยอ๋องกับพระสงฆ์อาวุโสจากภูเขาวิญญาณไม่ตาย ก็ต้องบาดเจ็บสาหัสแน่นอน
“ก็ได้ ไหนๆเจ้าก็ยืนกรานขนาดนี้ งั้นก็ฟังเจ้าก็แล้วกัน”
อมตะชางเหม่ยหัวเราะหึๆ “เจ้าว่าไปไหน ข้าก็ไปด้วย ใครใช้ให้พวกเราเป็นพี่น้องที่ดีต่อกันล่ะ”
เยี่ยชิวพูดว่า “ปากหวานนักนะ เจ้าแอบวางแผนร้ายอะไรไว้อีกล่ะสิ?”
อมตะชางเหม่ยหัวเราะพลางพูดว่า “ไอ้เด็กเปรต ถ้าพวกเราช่วยให้ต้าโจวล้มต้าเว่ยได้จริง เจ้าต้องพาข้าไปคลังสมบัติต้าเว่ยให้ได้สักครั้ง ให้ข้าเลือกสมบัติสองสามชิ้นติดมือกลับมาด้วยนะ”
“ไม่มีปัญหา” เยี่ยชิวตอบตกลงทันที
“ข้ารู้ว่าเจ้าต้องไม่ปล่อยให้ข้าผิดหวังแน่” อมตะชางเหม่ยพูดต่อ “ด่านหู่เหลาอยู่ไกลจากที่นี่มาก พวกเราต้องรีบออกเดินทางแล้ว!”
“ไป!” เยี่ยชิวกล่าวทันใด แล้วเรียกกระบี่ขี่สายลมออกมา พาอมตะชางเหม่ยเหินฟ้าขี่กระบี่ มุ่งหน้าไปยังด่านหู่เหลา
ทั้งสองคนยืนอยู่บนกระบี่ขี่สายลม เสียงลมหวีดหวิวอยู่ข้างหู เมฆขาวลอยผ่านศีรษะ ภูเขาและแม่น้ำเบื้องล่างราวกับฉากภาพยนตร์ที่ไหลผ่านอย่างรวดเร็ว
บรรยากาศชักเริ่มน่าเบื่อเล็กน้อย
อมตะชางเหม่ยเริ่มหาเรื่องคุยขึ้นมา ถามว่า “ไอ้เด็กเปรต เจ้าไม่ใช่ว่าจัดการกับจิ้นปิงหยุนได้แล้วหรือไง ทำไมสุดท้ายหล่อนถึงยังจากไปอีกล่ะ? หรือเจ้าจะไม่ไหวจริงๆ?”
เยี่ยชิวโต้กลับว่า “พูดบ้าอะไรล่ะ เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับข้า มันเป็นเพราะการกระทำของเว่ยอ๋องกับพวกองค์ชายไม่กี่คนต่างหาก ที่ทำให้นางหมดกำลังใจ”
“งั้นนางบอกไหมว่า นางจะไปไหน?” อมตะชางเหม่ยถามต่อ
เยี่ยชิวส่ายหน้า “ไม่บอก”
“ขนาดนี้ยังไม่บอกเจ้า?” อมตะชางเหม่ยแสยะยิ้ม “ดูท่าจะยังไม่ได้ ‘ทำให้นางยอมจำนน’จริงๆล่ะสิ!”
เกือบจะเป็นข้าต่างหากที่ยอมจำนนให้หล่อน
ผู้หญิงบ้าคลั่งคนนั้นร้ายกาจเกินไปแล้ว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
เรื่องนี้มีเติมเงินอ่านไหมครับ แนะนำหน่อย...
ทำไมลงวันละตอนแล้วครับ ช่วยชี้แจงหน่อยครับ...
ทำไมช่วงนี้ลงวันละตอนล่ะครับอีกอย่างช่วงแรกได้อ่านตั้งแต่7โมงเช้าแต่พอลงตอนเดียวต้องอ่านตอน3โมงเย็น...
ไอ้ชิบหาย มีแต่หน้าเปล่าๆมา3วันแล้ว พอๆเลิกอ่านบล็อคแม่งออกเลย หนังสือที่อื่นมีอ่านเยอะแยะ...
หลังๆทำไมลงแต่หน้าเปล่า ไม่มีตัวหนังสือสักตัว...
จะอ่านบท1611-1616ยังใงคับ...
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...