ตูม!
จู่ ๆ ก็มีคลื่นพลังอันแข็งกล้าพวยพุ่งออกมาจากฮวงจินเจียจู๋อย่างดุดัน ราวกับมังกรยักษ์ที่หลับใหลมานานนับหมื่นปีสะดุ้งตื่นขึ้นมาในฉับพลัน สั่นสะเทือนทั่วทั้งเขตต้องห้ามแห่งชีวิต
บนท้องฟ้า มวลเมฆถูกคลื่นพลังนั้นกวนจนปั่นป่วน ก่อตัวเป็นวังวนขนาดมหึมา
แสงทองสาดทะลุออกมาจากใจกลางวังวน ส่องกระจายไปครึ่งค่อนท้องนภา ราวกับว่ามีบางสิ่งศักดิ์สิทธิ์กำลังจะเสด็จลงมา
ขณะเดียวกัน
เหนือคฤหาสน์ของฮวงจินเจียจู๋ แสงศักดิ์สิทธิ์นับไม่ถ้วนปะทุขึ้นมาราวกับมังกรแท้จริงกำลังกอดรัดขดตัวอยู่ เสียงฟ้าร้องคำรามไม่ขาดสาย ปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติสารพัดผุดขึ้น รวมกันเป็นภาพที่ชวนให้ผู้คนหัวใจสั่นสะท้าน
ทันใดนั้น สรรพชีวิตนับไม่ถ้วนในเขตต้องห้ามแห่งชีวิตก็พลันสะดุ้งตื่น ล้วนเงยหน้ามองไปยังทิศที่ฮวงจินเจียจู๋ตั้งอยู่
ถังเจีย
หลังจากท่านถังชางไห่กลับมาที่ตระกูล ก็เพียงนั่งลงบนเก้าอี้จิบชา ห้องโถงประชุมที่เคยคึกคักกลับเหลือเพียงเขากับนักบุญอีกสองคน บรรยากาศเงียบเหงาวังเวง น่าเวทนาอย่างยิ่ง
ในตอนนั้นเอง คลื่นพลังอันแข็งกร้าวลูกหนึ่งก็กวาดผ่านฟ้าดิน แผ่ซ่านไปทั่วทั้งเขตต้องห้ามแห่งชีวิต
“เกิดอะไรขึ้น?” ท่านถังชางไห่เงยหน้าขึ้นอย่างฉับพลัน
นักบุญทั้งสองปรากฏตัวที่หน้าประตูอย่างรวดเร็ว ชะโงกมองออกไปครู่หนึ่งก่อนเอ่ยว่า “หัวหน้าตระกูล เป็นทางฮวงจินเจียจู๋มีความเคลื่อนไหวขอรับ”
“ฮวงจินเจียจู๋? นี่คือ…หรงอี้?”
บนใบหน้าท่านถังชางไห่ปรากฏแววตะลึงงัน มือที่จับถ้วยชาสั่นระริก ชาที่กระเซ็นหกรดก็ยังไม่ทันรู้สึกตัว
“ไม่คาดคิดเลยว่า แค่เด็กคนหนึ่งในรุ่นหลังกลับแข็งแกร่งได้ถึงเพียงนี้ สมแล้วที่เป็นร่างเทพไร้เทียมทาน!”
ท่านถังชางไห่ทอดถอนใจออกมาคำหนึ่ง จากนั้นก็พลันนึกถึงถังหลี่ ทำให้ความโศกเศร้าระเบิดขึ้นในอก
“ลูกชายข้าคือร่างกายแห่งสรรพชีวิต หากเขาไม่ตาย อนาคตย่อมสามารถบรรลุเต๋าสู่จักรพรรดิได้อย่างไม่ต้องสงสัย”
“ล้วนเป็นเพราะเย่ฉางเซิงสารเลวนั่นทั้งนั้น”
“ถ้าไม่ใช่เพราะมัน ถังเจียของเราจะตกต่ำมาถึงสภาพนี้ได้อย่างไร?”
“ถังเจียย่ำแย่ถึงเพียงนี้ ในฐานะหัวหน้าตระกูล ข้าหนีความรับผิดชอบไม่ได้”
“เหล่าบรรพบุรุษเอ๋ย ข้าผิดไปแล้ว แต่ขอให้วางใจได้ ข้าจะต้องฆ่าเย่ฉางเซิงให้ได้ และกอบกู้เกียรติยศของถังเจียกลับมาอีกครั้ง”
กล่าวมาถึงตรงนี้ แววตาท่านถังชางไห่พลันดุร้ายขึ้น เขากางฝ่ามือออก คันธนูศักดิ์สิทธิ์คันหนึ่งปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของเขา
ธนูคันนี้ มีนามว่าคันธนูไท่ซวี
เป็นศาสตราจักรพรรดิชิ้นเดียวของถังเจีย สืบทอดอยู่ในมือหัวหน้าตระกูลทุกยุคทุกสมัย
รูปทรงของมันราวกับเมฆาที่ไล่ตามจันทร์ คันธนูสีขาวล้วน สลักขึ้นจากกระดูกมนุษย์ทั้งชิ้น
สายธนูดูราวกับถักทอจากสุญญากาศ ไม่ใช่ของแข็งจับต้องได้ แต่กลับแผ่กลิ่นอายความเหนียวแน่นไร้ที่สิ้นสุด เพียงสั่นไหวแผ่วเบาก็สามารถดึงดูดพลังวิญญาณโดยรอบให้ไหวสะเทือนได้
ด้านข้างแขนธนูทั้งสองสลักอักขระเวทมนตร์โบราณซับซ้อน อวลกลิ่นอายลึกลับและทรงพลัง
ที่น่าพิศวงที่สุดคือธนูคันนี้ไร้ศร
ทันทีที่ดึงสายจนสุด สายธนูจะราวกับฉีกกระชากผืนอากาศ รวมรวมพลังวิญญาณระหว่างฟ้าดินให้ควบแน่นกลายเป็นศร
ยามศรหลุดจากสาย จะมีเสียงคำรามดังก้องประหนึ่งสายฟ้าฟาด แหวกฟ้าออกเป็นทาง ความเร็วเร็วฉับดั่งแสงเหนือ สิ่งที่ขวางผ่านล้วนถูกทะลวงไม่เหลือ
“เมื่อครั้งอดีต เพื่อหลอมคันธนูศักดิ์สิทธิ์นี้ บรรพบุรุษของเราถอนกระดูกสันหลังของตนเองออกมา จึงทำให้คันธนูนี้กลายเป็นศาสตราจักรพรรดิได้”
“หลังจากนั้น คันธนูนี้ก็ร่วมรบไปกับบรรพชนของถังเจีย ตะลุยไปทั่วเขตต้องห้ามแห่งชีวิต ไม่เพียงทำให้ถังเจียแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ครองอำนาจหนึ่งแถบ ยังทำให้สายเลือดถังเจียสืบทอดมาจนถึงวันนี้”
“แม้ตอนนี้คนในถังเจียจะเหลือไม่กี่ชีวิตแล้วก็ตาม แต่ข้ายอมไม่ได้ที่จะให้ถังเจียดับสูญ”
“ข้าจะใช้คันธนูคันนี้ ฆ่าศัตรูให้สิ้นซาก”
ท่านถังชางไห่พูดจบก็เก็บคันธนูไท่ซวีแล้วสั่งนักบุญทั้งสองว่า “พวกเจ้าไปจับตาทางออกของเขตแกนกลางให้ข้าอย่างใกล้ชิด ใครก็ตามที่ออกมาจากข้างใน ให้รีบรายงานข้าทันที”
“ครับ!” นักบุญทั้งสองรับคำพร้อมกัน จากนั้นร่างก็หายลับไปในพริบตา



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
ตอนที่ 261-281 ทำไมมีตอนละไม่กี่บรรทัด...
เรื่องนี้มีเติมเงินอ่านไหมครับ แนะนำหน่อย...
ทำไมลงวันละตอนแล้วครับ ช่วยชี้แจงหน่อยครับ...
ทำไมช่วงนี้ลงวันละตอนล่ะครับอีกอย่างช่วงแรกได้อ่านตั้งแต่7โมงเช้าแต่พอลงตอนเดียวต้องอ่านตอน3โมงเย็น...
ไอ้ชิบหาย มีแต่หน้าเปล่าๆมา3วันแล้ว พอๆเลิกอ่านบล็อคแม่งออกเลย หนังสือที่อื่นมีอ่านเยอะแยะ...
หลังๆทำไมลงแต่หน้าเปล่า ไม่มีตัวหนังสือสักตัว...
จะอ่านบท1611-1616ยังใงคับ...
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...