“เยี่ยชิว ฝากไว้ก่อนเถอะ ต้องมีสักวันที่ฉันจะทำให้นายเสียใจภายหลัง”จางลี่ลี่โกรธจนกระทืบเท้า
พร้อมกับตะโกนด่าตามหลังเยี่ยชิว
เธอโกรธจนแทบบ้าแล้ว
เดิมทีอยากจะถามเรื่องกัวเส่าชง คิดไม่ถึงว่าจะถูกเยี่ยชิวด่าจนอับอายขนาดนี้
“คนไร้ค่าก็คือคนไร้ค่า ก็แค่ถูกฉันเขี่ยทิ้ง ทำเหมือนกับไปฆ่าแม่ของเขา ทำให้ฉันโกรธจริงๆ”
ทันใดนั้น จางลี่ลี่ก็นึกถึงจุดประสงค์ที่มาหาเยี่ยชิวขึ้นมา“จบเห่แล้ว ฉันยังไม่ได้ถามว่ากัวเส่าชงอยู่ที่ไหน จะทำยังไงดี?”
เยี่ยชิวกลับมาถึงแผนกศัลยกรรม เตรียมจะไปรายงานสถานการณ์กับไป๋ปิง เพิ่งจะเดินมาถึงหน้าประตูห้องทำงานของหัวหน้า ก็ได้ยินเสียงจากข้างในดังออกมา
“หัวหน้าไป๋ สถานการณ์ของคนไข้เตียงห้าไม่ค่อยดีแล้ว”
“พวกเราสองสามคนไปที่ห้องตรวจโรคด้วยกัน ก็ยังหามีวิธีจะรักษาไม่ได้”
“และวันนี้คนไข้ก็เกิดอาการช็อกไปสองครั้ง ส่งเข้าไปอยู่ในห้องผู้ป่วยหนักแล้ว ถ้าหากยังหาวิธีรักษาไม่ได้อีก กลัวว่าจะ”
เยี่ยชิวชะโงกหน้าไปเข้าดู ก็พบว่าคนที่พูดกับไป๋ปิงก็คือผู้เชี่ยวชาญอาวุโสสามคน
“หัวหน้าไป๋ พวกเราจำเป็นต้องหาวิธีช่วยรักษาคนไข้”
ไม่อย่างนั้นสถานการณ์ของคนไข้ตอนนี้ คงจะทนได้ไม่นานแล้ว”
“ถ้าหากคนไข้ตายที่แผนกศัลยกรรมของพวกเรา ความรับผิดชอบก็ใหญ่มาก”
“หัวหน้าไป๋ ผมแนะนำว่าให้นำสถานการณ์ของคนไข้บอกกับคนในครอบครัว ให้คนในครอบครัวย้ายโรงพยาบาลเถอะ!”
คิ้วของไป๋ปิงขมวดขึ้นมา และถาม“พวกเราเป็นโรงพยาบาลที่ดีที่สุดของเจียงโจว ตอนนี้ให้คนไข้ย้ายโรงพยาบาล จะย้ายไปที่ไหน?”
ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสหัวเราะและพูด“ประเทศของพวกเรามีโรงพยาบาลที่ดีมากมาย สามารถย้ายให้ผู้ป่วยไปที่โรงพยาบาลเสียเหอปักกิ่ง หรือว่าโรงพยาบาลหมิงไห่ในเครือของมหาวิทยาลัยก็ได้”
“ผมคิดว่าได้”ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสอีกคนก็พูดขึ้นมา“โดยเฉพาะโรงพยาบาลเสียเหอปักกิ่ง เป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางรักษาภาวะเลือดคั่งในกะโหลกศีรษะ ยังมีผู้เชี่ยวชาญที่มีอำนาจสูงสุดของประเทศ สรุปก็คือ แค่คนไข้ไม่ตายในแผนกศัลยกรรมของพวกเราก็พอแล้ว”
ไป๋ปิงนานมากเงียบไม่พูดจา
คนไข้เตียงห้า เพราะว่าได้รับบาดเจ็บทางกายทำให้เลือดคั่งในกะโหลกศีรษะ ตอนแรกก็เป็นโรคเจ็บป่วยธรรมดา แต่คิดไม่ถึงว่า วันนี้กลับเกิดสถานการณ์นี้ขึ้นมากะทันหัน การช็อกสองครั้งติดต่อกัน ก็ทำให้อาการร่อแร่แล้ว
ที่น่ากลัวก็คือ การร่วมมือปรึกษากันของผู้เชี่ยวชาญทั้งสามคน ก็ยังหาสาเหตุของโรคไม่พบ
ก็เป็นเวลานี้ ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสคนหนึ่งก็พูด“หัวหน้าไป๋ สถานการณ์เร่งด่วน แจ้งคนในครอบครัวของคนไข้ให้ทำเรื่องย้ายโรงพยาบาลเถอะ!”
“ตอนนี้สถานการณ์ของคนไข้แย่มาก ยื้อเวลาไม่ได้แล้ว”
“หัวหน้าไป๋ คุณรีบตัดสินใจเถอะ!”
ไป๋ปิงเงยหน้าขึ้น และถาม“ถ้าหากทำเรื่องย้ายโรงพยาบาลให้คนไข้ และสถานการณ์ตอนนี้ของเขา สามารถทนได้จนถึงปักกิ่งไหม?”
“เรื่องนี้พูดลำบาก”ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสอีกคนพูดขึ้นมา
“พูดลำบากหมายความว่าอะไร?”ไป๋ปิงก็ถามอีก“ฉันอยากรู้ว่า ถ้าหากตอนนี้ทำเรื่องย้ายโรงพยาบาลให้คนไข้ เปอร์เซ็นต์ที่เขาจะมีชีวิตรอดไปถึงปักกิ่งมีมากแค่ไหน?”
ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสทั้งสามคนมองหน้ากัน ครั้งนี้ไม่มีใครกล้าพูด
“ฉันต้องการให้พวกคุณให้คำตอบที่แน่นอนกับฉัน”ไป๋ปิงพูด
ผ่านไปสามสิบนาทีเต็มๆ
ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสที่ใส่แว่นตา ใช้มือขยับแว่นตา และพูด“กรงว่าเปอร์เซ็นต์น้อยมาก”
“พูดแบบนี้ ถ้าย้ายโรงพยาบาลก็ไม่มีประโยชน์”ไป๋ปิงพูด
“หัวหน้าไป๋ พูดแบบนั้นก็ไม่ถูก ย้ายโรงพยาบาลมีประโยชน์มาก”ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสคนหนึ่งพูดโต้แย้งไป๋ปิง“แค่คนไข้ไม่ตายที่แผนกศัลยกรรมของพวกเรา ทุกคนก็จะอยู่กันอย่างสงบ ถ้าหากไม่ย้ายโรงพยาบาล ถึงเวลาที่คนไข้ตายแล้ว แล้วใครจะรับผิด?”
ไป๋ปิงสีหน้าไม่พอใจ กวาดสายตามองผู้เชี่ยวชาญอาวุโสทั้งสามคน และเปิดปากพูด“ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสทั้งสามท่าน เมื่อกี้ที่พวกคุณพูดก็มีเหตุผล แต่ฉันอยากจะถามว่า ความตั้งใจเดิมที่เรียนแพทย์ของพวกคุณคืออะไร?”
“แต่ว่าตอนนี้ ผู้เชี่ยวชาญทั้งสามท่าน พวกคุณทำให้ฉันผิดหวังมากจริงๆ”
“ในเมื่อพวกคุณกลัวการรับผิดชอบ ถ้าอย่างฉันจะรักษาคนไข้เอง!”ไป๋ปิงพูดจบ ก็ออกไปจากห้องทำงานทันที ตรงไปยังห้องผู้ป่วยหนัก
ในห้องทำงาน ผู้เชี่ยวชาญสามคนกำลังพูดคุยกันเสียงเบา
“หัวหน้าไป๋จะรักษาคนไข้ด้วยตัวเอง พวกเราจะทำยังไงดี?”
“เธออยากรักษาก็ให้เธอรักษาเถอะ ถ้าคนไข้ตาย ก็ไม่เกี่ยวข้องกับพวกเรา”
“หัวหน้าไป๋อายุยังน้อย ไม่เคยได้รับความล้มเหลว ไม่เข้าใจว่าความสัมพันธ์ของหมอกับคนไข้ตอนนี้ตึงเครียดแค่ไหน รอให้คนไข้ตายแล้ว เธอก็จะรู้”
เยี่ยชิวฟังบทสนทนาของผู้เชี่ยวชาญสามคนอยู่ด้านนอกประตู ในใจรู้สึกดูถูก ล้วนพูดว่าหมออายุยิ่งมาก วิชาแพทย์ก็ยิ่งดี กลับไม่รู้ว่า หมอยิ่งอายุมาก ก็ยิ่งขี้ขลาด
เยี่ยชิวรีบไปที่ห้องผู้ป่วยหนักทันที เวลาที่เขาไปถึงแล้ว ก็เห็นไป๋ปิงกับหมอเฉพาะทาง กำลังตรวจร่างกายของคนไข้เพื่อดูสถานการณ์
“แปลกมาก สัญญาณชีพจรปกติ ทำไมถึงช็อกสองครั้งล่ะ?”ไป๋ปิงขมวดคิ้ว พูดด้วยความสงสัย
หมอเฉพาะทางก็พูด “ผมเป็นหมอมาสิบกว่าปี นี้เป็นครั้งแรกที่พบสถานการณ์แบบนี้”
“หาผู้เชี่ยวชาญคนอื่นในโรงพยาบาลมาตรวจดูแล้วยัง?”ไป๋ปิงถาม
“เคยมาตรวจแล้ว ก็ตรวจไม่เจออะไร”หมอเฉพาะทางพูดตอบ
ไป๋ปิงตัดสินใจเด็ดขาด สั่งหมอเฉพาะทาง“ติดต่อผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลเสียเหอปักกิ่ง ดูว่าพวกเขามีวิธีอะไรไหม?”
“ก่อนที่หัวหน้าไป๋จะมา ผมได้ติดต่อพวกเขาแล้ว พวกเขาแสดงออกว่าไม่เคยพบสถานการณ์แบบนี้เหมือนกัน แนะนำให้พวกเราสังเกตการณ์อย่างเงียบ”
ไป๋ปิงในใจจมดิ่ง สังเกตการณ์อย่างเงียบๆ ความหมายก็คือรอความตายไหม?
ก็เป็นเวลานี้ เสียงจอภาพหัวใจก็ดังขึ้นมา หมอเฉพาะทางหันหน้าไปดู สีหน้าเปลี่ยนทันที
“แย่แล้ว การเต้นของหัวใจคนไข้ลดลงอย่างรวดเร็ว เก้าสิบ แปดสิบ หกสิบ สี่สิบคนไข้เริ่มจะไม่ไหวแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
เรื่องนี้มีเติมเงินอ่านไหมครับ แนะนำหน่อย...
ทำไมลงวันละตอนแล้วครับ ช่วยชี้แจงหน่อยครับ...
ทำไมช่วงนี้ลงวันละตอนล่ะครับอีกอย่างช่วงแรกได้อ่านตั้งแต่7โมงเช้าแต่พอลงตอนเดียวต้องอ่านตอน3โมงเย็น...
ไอ้ชิบหาย มีแต่หน้าเปล่าๆมา3วันแล้ว พอๆเลิกอ่านบล็อคแม่งออกเลย หนังสือที่อื่นมีอ่านเยอะแยะ...
หลังๆทำไมลงแต่หน้าเปล่า ไม่มีตัวหนังสือสักตัว...
จะอ่านบท1611-1616ยังใงคับ...
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...