เยี่ยชิวได้ยินเสียงก็หันไปมองและเห็นว่ามีพระอาวุโสรูปหนึ่งยืนอยู่หน้าประตูคฤหาสน์ตระกูลไป๋
พระอาวุโสรูปนั้นอายุประมาณหกสิบปี สวมชุดสีแดง มีใบหูใหญ่และหน้าเคร่งขรึม
เยี่ยชิวสบตากับพระรูปนั้นและพบว่าแววตาของอีกฝ่ายสดใสและเปล่งประกาย ราวกับว่าสามารถทำให้จิตสงบได้แม้สบตาเพียงแวบเดียว
เขายังสังเกตเห็นว่าขมับทั้งสองข้างของพระอาวุโสนั้นนูนสูง ซึ่งสะดุดตาอย่างยิ่ง
ยอดฝีมือวงใน!
เยี่ยชิวรู้สึกตกใจและรับรู้ได้ทันทีว่าพระรูปนี้ต้องไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน
"เจริญพรโยมเยี่ย อาตมาชื่อตู้ฟ่าน"
พระอาวุโสประสานสิบนิ้วเข้าหากันและโค้งคำนับเล็กน้อย ซึ่งแสดงถึงความเป็นพระภิกษุผู้บรรลุ
ตู้เอ้อร์?
เยี่ยชิวขมวดคิ้วเล็กน้อย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินชื่อนี้ เขาหันหลังไปและพบว่าอมตะชางเหม่ยเองก็ทำหน้าเคร่งขรึมและถามออกไป "คุณรู้จักเขา?"
"รู้จัก" อมตะชางเหม่ยกล่าวอย่างเคร่งขรึม "ตู้เอ้อร์เป็นเจ้าอาวาสวัดเทียนหลงในต้าหลี่และเป็นยอดฝีมือลำดับสี่ในอันดับมังกร"
ลำดับที่สี่?
อยู่ลำดับรองจากอมตะชางเหม่ย?
เยี่ยชิวถอนหายใจและกล่าวด้วยรอยยิ้ม "งั้นก็หมายความว่า เขามีความสามารถด้อยกว่าคุณใช่ไหม?"
"แน่นอนว่าตู้เอ้อร์มีความสามารถด้อยกว่าฉัน แต่...." อมตะชางเหม่ยแสดงสีหน้าแปลกไปเล็กน้อย
"ทำไมเหรอ หรือมีอะไรมากกว่านั้น?" เยี่ยชิวถาม
"ไม่มี ไม่มี" อมตะชางเหม่ยรีบปฏิเสธ
ถังเฟยกล่าวขึ้นมา "ตอนที่มีการแข่งขันอันดับมังกร อมตะชางเหม่ยได้เสนอให้ขอแข่งขันปัสสาวะกับปามาจารย์ตู้เอ้อร์ คนที่ปัสสาวะได้ไกลจะได้เป็นผู้ชนะ และในฐานะที่ปรมาจารย์ตู้เอ้อร์เป็นพระภิกษุที่มีชื่อเสียงและการกระทำเช่นนี้ผิดต่อวินัยสงฆ์ จึงได้ถอนตัวจากการแข่งขันและยอมแพ้ในที่สุด"
"หุบปาก!" อมตะชางเหม่ยจ้องถังเฟยตาเขม็งและกล่าวด้วยความโกรธ "ไม่พูดก็ไม่มีใครหาว่าเป็นใบ้หรอกนะ"
เยี่ยชิวหันไปมองอมตะชางเหม่ยและแอบด่าในใจ ตาแก่คนนี้ไร้ยางอายที่สุดเลย
การจัดอันดับมังกรถือเป็นการแข่งขันครั้งใหญ่ของนักศิลปะการต่อสู้ทุกคน แต่ตาแก่คนนี้กลับเสนอให้แข่งปัสสาวะ เขาคิดได้ยังไงกัน
ถังเฟยกล่าวออกไปอย่างตรงไปตรงมา "ตามบันทึกยอดฝีมือของวังซาตานแล้วนั้น ปรมาจารย์ตู้เอ้อร์ไม่เพียงเป็นพระภิกษุชั้นสูง เขายังเป็นยอดฝีมือทางด้านการต่อสู้อีกด้วย"
"อีกอย่างเมื่อหลายปีก่อนเขาได้ทำให้เซียวจิ่วได้รับบาดเจ็บครั้งหนึ่ง และถือเป็นยอดฝีมืออันดับมังกรเพียงคนเดียวที่ทำร้ายเซียวจิ่วได้"
หืม?
เยี่ยชิวรู้สึกตกใจ
พระอาวุโสคนนี้สามารถทำให้เซียวจิ่วได้รับบาดเจ็บได้ งั้นก็หมายความว่าความสามารถของเขาจะต้องเหนือกว่าเซียวจิ่ว?
ถ้าเป็นแบบนั้นละก็เรื่องนี้ต้องแย่แน่
ถังเฟยกล่าวอย่างตรงไปตรงมา "ที่ปรมาจารย์ตู้เอ้อร์สามารถทำร้ายเซียวจิ่วได้ก็เพราะเขามีทักษะวิชาอย่างหนึ่งที่ร้ายกาจมาก ส่วนเป็นอะไรนั้นเกรงว่าคงมีเพียงเซียวจิ่วคนเดียวเท่านั้นที่รู้ เซียวจิ่วเองก็ได้รับบาดเจ็บเพราะความประมาทของตัวเอง ความสามารถของเขาสู้เซียวจิ่วไม่ได้ แต่ก็น่าจะเทียบได้กับเฉาเทียนติ่ง"
เยี่ยชิวรู้สึกตึงเครียดเล็กน้อย
ที่เมื่อคืนสามารถกำจัดเฉาเทียนติ่งลงได้ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะความสามารถของอมตะชางเหม่ย แต่ตอนนี้อมตะชางเหม่ยกลับประสบกับการถูกแว้งกัดและไม่สามารถในใช้กำลังภายในได้ ทำให้ไม่สามารถช่วยอะไรเขาได้และเขาเองต้องเผชิญกับทุกสิ่งเพียงลำพัง
ถังเฟยกลับรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย "ปรมาจารย์ตู้เอ้อร์เป็นพระที่มีจิตใจเมตตากรุณา และหลายปีมานี้ก็ศึกษาธรรมะปฏิบัติธรรมอยู่ในวัดเทียนหลงมาโดยตลอด แต่ทำไมวันนี้กลับจู่ๆ มาปรากฏตัวขึ้นที่เมืองหลวงได้?"
"เพราะถูกไป๋ยวี่จิงเชิญมาแน่ๆ" เยี่ยชิวกล่าว
ขณะนี้เอง ปรมาจารย์ตู้เอ้อร์ก็กล่าวขึ้นมา
"โยมชางเหม่ย ไม่เจอกันนานเลยนะ สบายดีไหม" ปรมาจารย์ตู้เอ้อร์กล่าวด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร
"ไม่เจอกันหลายปี วันนี้จู่ๆ อาตมากลับมีแรงบันดาลใจในการเขียนบทกวีให้โยมได้อ่าน"
อมตะชางเหม่ยกล่าว "สไตล์ของปรมาจารย์ไม่ธรรมดา เหมือนเทพเจ้าที่ถูกลดระดับ หากต้องการถามว่าใครคือเทพเจ้าบนท้องฟ้า สาวกของเอ้อร์หลางคือสุนัขสวรรค์คำราม"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...
ช่วงนี้ทุกเรื่องทำไมมีแค่ห้าบรรทัด อ่านไม่รู้เรื่องเลย..ถ้าแอด..มีเวลารบกวนตรวจสอบให้ด้วยนะครับ..ขอร้อง...
สงสัยค่ะ สงสัยๆๆ เยี่ยวชิวจากนายแพทย์ฝึกหัดมาเป็นนักสู้ได้ยังไง...
ผู้หญิงคือเลวเลยอะ...
51 หายไปไหน...