ที่ที่เซียนกระบี่ตรัสรู้!
เมื่อเยี่ยชิวได้ยินสิ่งนี้ เขาก็ตกใจและถามว่า "สำนักสุ่ยเยวี่ยเคยมีเซียนกระบี่มาก่อนอย่างนั้นเหรอ?"
เชียนซานเสวี่ยส่ายหัว: "ไม่เคย"
เยี่ยชิวดูงุนงง
ชิวซานหนานเกออธิบายว่า "ในประวัติศาสตร์ของต้าตงของเรา มีแค่เซียนกระบี่สองคนเท่านั้น"
“คนแรกคือเซียนกระบี่ช่างฉวน”
“เซียนดาบช่างฉวนนั้นเป็นนักยุทธศาสตร์ทางการทหารผู้ยิ่งใหญ่ในช่วงสมัยสงครามต้าตง เขาฝึกฝนกังฟูตามสำนักต่างๆ และเทคนิคกระบี่ต่างๆตั้งแต่ยังเด็ก ต่อมาเขาได้สอนศิลปะการทหารแก่ราชวงศ์และได้รับรางวัลตำแหน่ง ‘ยอดเซียนดาบของโลก’”
“ส่วนเซียนกระบี่คนที่สองก็คือเซียนกระบี่จ่งหยวน”
ตอนที่ชิวซานหนานเกอกล่าวถึงเซียนกระบี่จ่งหยวนตอนนั้น ดวงตาของเขาก็ฉายแววถึงความชื่นชม และเขากล่าวว่า: "เซียนกระบี่จ่งหยวนนั้นเป็นนักดาบที่แข็งแกร่งที่สุดในช่วงยุคสงครามจ้านกั่ว และเขาไม่เคยพ่ายแพ้มาก่อน"
“มีบันทึกทางประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่า เขานั้นได้ผ่านการสู้รบมาแล้วถึง37ครั้ง สังหารศัตรูไปได้ 212 ราย มีการดวลดาบ19ครั้ง และไม่เคยได้รับบาดเจ็บแม้แต่ครั้งเดียว”
“เซียนกระบี่จ่งหยวนนั้นมีวิชาดาบที่ยอดเยี่ยมมาก และแทบจะไม่มีคู่ต่อสู้ที่พอคุณามือได้เลย แม้แต่เซียนกระบี่ช่างฉวนเองก็ยังได้รับการสอนโดยเซียนกระบี่จ่งหยวนเช่นกัน”
“เขาถือได้ว่าเป็นบุคคลในตำนาน และยังมีลูกศิษย์มากมาย ซึ่งต่อมาบางคนก็ได้ก่อตั้งสำนักของตนเองและกลายเป็นผู้นำสำนัก”
“ผู้ก่อตั้งนิสำนักสุ่ยเยวี่ยของเราก็เคยเป็นสาวใช้ของเซียนกระบี่จ่งหยวนมาก่อน”
เมื่อชิวซานหนานเกอพูดถึงตรงนี้ เขาก็ชี้ไปที่หน้าผาสูงชันแล้วพูดกับเยี่ยชิว: "ดูนั่นสิ"
เยี่ยชิวมองขึ้นไปและเห็นแค่บันไดเจ็ดขั้นที่หน้าผาสูงชันนั่น
ขั้นบันไดทำด้วยหินบลูสโตนขนาดใหญ่ ด้านบนสุดของขั้นบันไดมีหินสี่เหลี่ยมวางอยู่
ชิวซานหนานเกอกล่าวว่า "สถานที่นั้นเป็นสถานที่ซึ่งเซียนกระบี่จ่งหยวนเคยบรรลุการตรัสรู้ และคนรุ่นต่อๆ มาเรียกกันว่าแท่นแห่งการตรัสรู้"
“มีบันทึกไว้ในคัมภีร์ของสำนักสุ่ยเยวี่ยว่าเซียนกระบี่จ่งหยวนเคยนั่งขัดสมาธิบนหินสี่เหลี่ยมนั่น โดยหลับตาเป็นเวลาเจ็ดวันเจ็ดคืน”
“ไม่ว่าจะฝนตกลมแรง หรือถูกยุงตอมยุงกัด เซียนดาบจ่งหยวนก็ไม่ขยับร่างกายของเขาเลยแม้แต่นิดเดียว”
“พอเข้าวันที่แปด เซียนกระบี่จ่งหยวนได้ลืมตาขึ้น และได้มีพลังดาบอันมหาศาลออกมาจากร่างกายของเขา”
“ในเวลาเดียวกัน ก็มีดาบศักดิ์สิทธิ์เล่มหนึ่งก็เดินทางข้ามท้องฟ้า และตกลงมาต่อหน้าเซียนกระบี่จ่งหยวน”
“ว่ากันว่าแสงดาบนั้นยาวนับหมื่นฟุต เมื่อมันข้ามท้องฟ้า ทุกคนในต้าตงต่างก็เห็นมัน”
"ต่อมา ทุกคนกล่าวว่าเซียนกระบี่จ่งหยวนตรัสรู้ถึงวิชาดาบขั้นสูงสุด ซึ่งดึงดูดความสนใจของพระเจ้า พระเจ้าเลยมอบดาบศักดิ์สิทธิ์ให้แก่เซียนกระบี่จ่งหยวนเป็นพิเศษเพื่อช่วยให้เขากลายเป็นผู้อยู่ยงคงกระพันในโลกนี้"
เยี่ยชิวเบะปาก
เขาแทบจะไม่เชื่อเลย
เรื่องแบบนี้ มักจะถูกสร้างขึ้นโดยคนรุ่นก่อนเพื่อให้เห็นถึงความพิเศษของตัวเอง
มีเรื่องราวเช่นนี้มากมายในประเทศจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจักรพรรดิได้ถือกำเนิด และมักจะมีนิมิตมาจากฟากฟ้าเสมอ
อย่างเช่น
เซียวหยาน จักรพรรดิเหลียงหวู่แห่งยุคเหนือใต้ มารดาของเขาฝันว่าได้กอดดวงอาทิตย์ และก็ได้ตั้งครรภ์ในเวลาต่อมา และได้ให้กำเนิดเขา เมื่อเขาเกิดก็มีคำว่า "หวู่" อยู่ที่มือขวาของเขา
เมื่อ หยางเจียน จักรพรรดิสุยเหวินได้กำเนิด พร้อมด้วยในห้องนั้นก็มีแสงสีม่วงเกิดขึ้น และได้มีแม่ชีมาที่บ้าน โดยบอกว่าเด็กน้อยคนนี้ไม่ธรรมดาและอยากช่วยดูแลเขา แม่ของเขากอดเขาไว้ และจู่ๆก็เห็นว่าหัวของหยางเจียนนั้นมีเขางอกขึ้นมา และมีเกล็ดขึ้นทั่วตัวของเขา เธอตกใจมากจนเขาโยนเขาลงกับพื้น แม่ชีบอกว่า เด็กน้อยตกใจกลัวหมดแล้ว และอีกไม่นานเขาก็จะต้องทำให้โลกต้องตกใจเป็นแน่ และหยางเจียนได้พิชิตโลกได้ตอนอายุ48ปี และตอนที่หยางเจียนเกิด เขามีตัวอักษร "หวัง" อยู่ที่มือของเขา
อู๋เจ๋อเทียนแห่งราชวงศ์ถัง ว่ากันว่าหลังจากที่เธอขึ้นเป็นจักรพรรดิแล้ว เธอได้ไปที่ชมสวนพร้อมกับคนอื่นๆในฤดูหนาว ทุกที่ที่เธอไปนั้นต้นไม้ใบหญ้าต่างก็โกร๋นไปหมด หลงเหยียนโกรธจัด และสั่งให้ดอกไม้ทั้งหมดที่อยู่ที่เมืองลั่วหยางจะต้องบานสะพรั่งในวันรุ่งขึ้น เนื่องด้วยพลังจากพระเจ้า ในวันรุ่งขึ้นดอกไม้ในเมืองลั่วหยางก็บานสะพรั่งจริงๆ ช่วงหนึ่งที่ทั้งโลกเชื่อว่าหวู่เจ๋อเทียนคือ จักรพรรดิ์มังกรจริงๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...
ช่วงนี้ทุกเรื่องทำไมมีแค่ห้าบรรทัด อ่านไม่รู้เรื่องเลย..ถ้าแอด..มีเวลารบกวนตรวจสอบให้ด้วยนะครับ..ขอร้อง...
สงสัยค่ะ สงสัยๆๆ เยี่ยวชิวจากนายแพทย์ฝึกหัดมาเป็นนักสู้ได้ยังไง...
ผู้หญิงคือเลวเลยอะ...
51 หายไปไหน...